บ้านหนองผักบุ้ง ต.นายม อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ เป็นพื้นที่รับน้ำ เสมือนท้องกระทะ เพราะตั้งอยู่กึ่งกลางหุบเขา ทั้งยังอยู่ติดกับแม่น้ำป่าสัก...ประสบปัญหาน้ำจากภูเขาและจากแม่น้ำเอ่อท่วมทุกปี พอถึงหน้าแล้งไม่มีน้ำใช้ เป็นปัญหาซ้ำซากที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทยแต่มาวันนี้เขาทำยังไงถึงแก้ปัญหาได้อย่างเบ็ดเสร็จ มีกินมีใช้ตลอดปี ลูกหลานไม่ต้องหนีไปทำงานเมืองกรุงเหมือนเมื่อก่อน จนกลายเป็นศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า-หนองผักบุ้ง ชุมชนต้นแบบ ด้านการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตร “ทุกปีฤดูน้ำหลากน้ำจะท่วมนาน 1-2 เดือน พอหน้าแล้งน้ำก็ไม่พอใช้ คนแถบนี้จึงปลูกข้าวหนีน้ำก่อนน้ำจะมา ชาวบ้านจึงรวมตัวกันหาทางออก สุดท้ายจึงมาลงตัวที่ศาสตร์พระราชา โคกหนองนา ทำฝาย ขุดลอกสระ ขุดเพิ่มสระใหม่ ทำคันดิน ชะลอและกักเก็บน้ำไว้ในฤดูแล้ง ช่วยบรรเทาปัญหาเรื่องน้ำไปได้ระดับหนึ่ง กระทั่งปี 2559 สยามคูโบต้าเข้ามาเพิ่มองค์ความรู้ พร้อมไปกับการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรมาทุ่นแรง ทุกอย่างจึงเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น”บุญเลิศ ปราบภัย ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ปลูกข้าวหอมมะลิหนองผักบุ้งพัฒนา อธิบายถึงองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่ได้จากสยามคูโบต้า...นอกจากได้เทคโนโลยีการทำเกษตรสมัยใหม่โดยใช้เครื่องจักรกลการเกษตรเข้ามาทุ่นแรง พร้อมไปกับเพาะปลูกด้วยระบบ KUBOTA (Agri) Solutions เพิ่มปริมาณและคุณภาพผลผลิต สร้างชุมชนเกษตรที่ยั่งยืน โดยปลูกพืชหมุนเวียน ข้าว-ถั่วเขียว-ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แล้ว ยังได้เรียนรู้ระบบบริหารจัดการน้ำ และสร้างแหล่งเก็บกักน้ำในชุมชนเพื่อทำเกษตรแบบพึ่งพาตนเองอย่างเป็นระบบมากขึ้น นำเอาโคก หนอง นา มาผสานกับเทคโนโลยีการขุดสระเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด จากเดิมทำกันแบบตามมีตามเกิด ไม่มีระเบียบแบบแผน เปลี่ยนมาเป็นสำรวจพื้นที่ที่เหมาะสมทำสระในฤดูแล้งที่ไม่มีน้ำขัง โดยใช้พื้นที่ลุ่มที่ลาดเอียงต่ำที่สุด เพราะน้ำจะไหลจากที่สูงลงที่ต่ำ พื้นที่ขนาด 5 ไร่ ขุดบ่อทำสระอย่างน้อยครึ่งไร่ จะเพียงพอต่อการเก็บกักน้ำหน้าแล้ง เพราะถ้าใช้พื้นที่สระมากไป จะทำให้ชาวบ้านเสียดายพื้นที่ในสระเดียวขุดบ่อ 2 ระดับ ให้มีความลาดชันลักษณะสี่เหลี่ยมคางหมู ระดับแรกขุดลึก 2.5-3 เมตร ระดับที่ 2 ลึก 5 เมตร เพื่อป้องกันการระเหยของน้ำ เพราะปกติน้ำที่ลึกจะอุณหภูมิต่ำกว่าที่สูง การมีน้ำลึก 2 ระดับ จะช่วยทำให้อุณหภูมิทั้งสองส่วนไม่ห่างกันมาก จึงช่วยลดการระเหยไปได้ในระดับหนึ่ง บริเวณรอบบ่อทำคันพักโดยรอบกว้าง 1.5 เมตร สำหรับปลูกหญ้าแฝกเพื่อยึดหน้าดินไม่ให้สไลด์ นำดินที่ขุดได้มาถมขอบบ่อโดยรอบอีกชั้นหนึ่ง แล้วปลูกไม้ผลหรือไม้ยืนต้น เพื่อเป็นตัวกรองดักตะกอนเศษซากต่างๆ เวลาน้ำหลาก เข้ามา น้ำในบ่อจะไม่ตื้นเขินหรือเน่าเสีย พร้อมกับวางท่อ 2-3 ท่อ ตามทางน้ำหลาก เพื่อบังคับให้น้ำเข้ามาตามทางที่กำหนดไว้ให้มากที่สุดปัจจุบันพื้นที่ 1,693 ไร่ จากน้ำท่วมนานนับเดือน กลายเป็นเหลือไม่กี่วัน เกษตรกรมีเวลาเตรียมตัวรับมือ จึงวางแผนการปลูกได้อย่างเป็นระบบ ต้นทุนลดลงจากการใช้เครื่องจักรกลการเกษตร การใช้ปุ๋ยสั่งตัด เปลี่ยนจากนาหว่านมาเป็นนาหยอด มีการทำบัญชีครัวเรือน เดิมต้นทุนไร่ละเกือบ 5,000 บาท เหลือไม่เกิน 3,000 บาท ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 3%ยังไม่รวมรายได้จากพืชอื่นที่ปลูกหลัง และบนคันบ่อเก็บน้ำ รวมไปถึงการขายฟางข้าวจากการไม่เผาตอซัง.กรวัฒน์ วีนิล