นกขุนทอง ชื่อสามัญ Hill Myna ชื่อวิทยาศาสตร์ Gracula religiosa Linnaeus จัดแบ่งเป็น 10 ชนิดย่อย มีการกระจายพันธุ์ในประเทศอินเดีย จีนตอนใต้ เกาะไหหลำ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หมู่เกาะอันดามัน หมู่เกาะนิโคบาร์ หมู่เกาะซุนดา และเกาะปาลาวันประเทศไทยพบเพียง 2 ชนิดย่อยคือ นกขุนทองใต้ และนกขุนทองเหนือ ลักษณะทั่วไปมีขนาดประมาณ 30 ซม. มีปากสีส้มถึงสีแดงอมส้ม ปลายปากมักเป็นสีเหลือง แข้งและนิ้วตีนสีเหลือง นกตัวเต็มวัยมีสีขนดำเหลือบเป็นมัน มีลายพาดสีขาวบริเวณขนปลายปีก เห็นได้ชัดขณะกางปีกบินที่โดดเด่นด้านข้างของหัวและท้ายทอย มีติ่งเนื้อสีเหลืองสด ซึ่งติ่งเนื้อนี้แบ่งแยกชนิด โดยนกขุนทองใต้ จะมีติ่งขนาดใหญ่เป็นสองส่วนไม่ต่อเนื่องกัน แต่นกขุนทองเหนือจะมีติ่งขนาดเล็กและต่อเนื่องกันนกขุนทองเป็นนกที่มีสังคม และมีเพื่อนตลอดเวลา จึงเป็นที่มาของพฤติกรรมเลียนแบบซึ่งกันและกัน เช่น เลียนท่าทาง เลียนแบบเสียงร้องมีความสามารถเลียนเสียงมนุษย์ได้ จึงนิยมเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงกันสูง เมื่อก่อนมีเลี้ยงกันแทบทุกบ้าน มักจะทักกันว่า “เจ้านกขุนทองเอ๋ย” ด้วยเสียงอันเจื้อยแจ้วน.สพ.เกษตร สุเตชะ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ชี้ถึงการจับนกป่าออกมาขายมากว่า 60 ปี ส่งผลให้นกขุนทองแทบจะสูญพันธุ์ไปจากบ้านเราแล้ว ที่พบขายกันตามตลาดค้าสัตว์ป่า มักจะเป็นนกที่ลักลอบนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านการเลี้ยง ให้กินเฉพาะผลไม้ อย่าให้นกขุนทองกินข้าวคลุกไข่ เพราะนกขุนทองมีตับที่ไม่สามารถขับธาตุเหล็กออกจากร่างกายได้ ทำให้เกิด “ภาวะตับวาย” สังเกตเห็นได้จากนกจะหายใจหอบ ร้องไม่มีเสียง อุจจาระมีสีเหลือง กินอาหารลดลง ผอมและท้องโต คล้ายคนเป็นท้องมาน สุดท้ายก็เสียชีวิต.