วีระคุยข้อมูลเพียบ เจ้าตัวยินดีให้ตรวจ “วีระ”ขุดข้อมูลลงพื้นที่หาหลักฐานด้วยตัวเอง แฉโรงงานแป้งมันของครอบครัว “วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล” รุกที่ ส.ป.ก.นับพันไร่ โดน ส.ป.ก.ฟ้องขอยอมความแต่ไม่ยอมออกจากพื้นที่ไม่ชดใช้ค่าเสียหายตามสัญญาหน้าตาเฉยมามากกว่า 10 ปี แถมขยับขยายพื้นที่โรงงานออกไปอีกอื้อ ถามจะแสดงสปิริตลาออกหรือเปล่า ขู่ “ประยุทธ์-ธรรมนัส-ส.ป.ก.” ไม่กล้ายึดที่ดินคนในรัฐบาลคืนใช้ ม.157 เล่นงานแน่ แย้มยังมีข้อมูลที่ดินฉาวโฉ่ของรัฐมนตรีอยู่ในมืออีกรายมาตามสัญญา หลังจากแจ้งความดำเนินคดีกับนักการเมือง 2 พ่อลูก น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ กับนายทวี ไกรคุปต์ อดีต รมช.คมนาคม บุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติใน จ.ราชบุรี แบบกัดไม่ปล่อยแล้ว ล่าสุดนายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชนและเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) โพสต์เฟซบุ๊กแฉมีรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บุกรุกครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.นับพันไร่เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 20 ธ.ค. นายวีระ สมความคิด ประธาน คปต.โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก “วีระ สมความคิด” พร้อมเอกสารหลักฐาน โดยระบุว่า ตามที่เคยแจ้งให้ทราบว่าจะเปิดเรื่อง รมต.ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ บุกรุกครอบครองที่ ส.ป.ก.นับพันไร่ รัฐมนตรีคนดังกล่าวคือนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ ก่อนจะเข้ามาดำรงตำแหน่งนายวีรศักดิ์และครอบครัว ในฐานะเจ้าของกิจการและผู้บริหารบริษัทแป้งมันเอี่ยมเฮงอุตสาหกรรม จำกัด ถูกกล่าวหาว่าบุกรุกที่ ส.ป.ก.ทำโรงงานแป้งมัน ที่หมู่ 12 ต.กุดโบสถ์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมานอกจากนี้มีหลักฐานว่า เลขาธิการสำนักงาน ส.ป.ก.ในขณะนั้น (นายอดิศักดิ์ ศรีสรรพกิจ) ได้ทำหนังสือที่ กษ 1204/5476 ลงวันที่ 11 ก.ค.2548 ให้ ผวจ.นครราชสีมา ดำเนินคดีตามกฎหมายกับบริษัทเอี่ยมเฮงอุตสาหกรรม จำกัด ต่อมากรมที่ดินมีคำสั่งที่ 2242/2548 ลงวันที่ 5 ส.ค.2548 แต่งตั้ง คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีจังหวัดนครราชสีมา แจ้งผลการตรวจสอบหลักฐานการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์จำนวน 7 แปลง ในท้องที่ ต.กุดโบสถ์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ซึ่งข้อเท็จจริงคือไม่มีการขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ แต่ปรากฏว่ามี น.ส.3 และ น.ส.3 ก.ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่กระทำการทุจริตในการออกเอกสารสิทธิ จงใจไม่ปฏิบัติหน้าที่ทำให้ราชการได้รับความเสียหาย อันเป็นความผิดทางวินัยและทาง อาญา แต่โรงงานแป้งมันฯไม่ยอมออกจากที่ดินดังกล่าว ที่ถือว่าเป็นการได้เอกสารสิทธิมาโดยไม่ถูกต้อง เนื่องจากเป็นที่ดินของ ส.ป.ก.จนกระทั่ง ส.ป.ก.ต้องนำเรื่องไปฟ้องศาลแพ่งเพื่อขับไล่และให้ชดใช้ค่าเสียหาย“ในที่สุดมีการทำสัญญาประนีประนอมยอม ความ ระหว่าง ส.ป.ก.โจทก์กับบริษัทแป้งมันเอี่ยมเฮงอุตสาหกรรม จำกัด จำเลยที่ 1 นางยลดา หวังศุภกิจโกศล (ภรรยานายวีรศักดิ์) จำเลยที่ 2 และ น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล (บุตรสาวของนายวีรศักดิ์) จำเลยที่ 3 ในคดีขับไล่ ละเมิด เรียกค่าเสียหาย โดยมีคำพิพากษาตามยอมความคดีหมายเลขดำที่ 1680/2549 คดีหมายเลขแดงที่ 379/2551 ลงวันที่ 29 ก.พ.2551 โดยจำเลยทั้งสาม และบริวาร ยินยอมออกจากที่ดินของโจทก์ (ส.ป.ก.) และยินยอมร่วมกันปรับสภาพที่ดินจำนวน 8 บ่อ ตามฟ้องให้กลับสภาพเดิม โดยนำดินที่มีสภาพเหมาะสมแก่การเกษตร ซึ่งใกล้เคียงกับสภาพเดิมมาถมคืน และปรับสภาพพื้นที่ให้เสร็จภายในระยะเวลา 6 เดือน นับแต่วันที่ 1 เม.ย.2551 เป็นต้นไป หากจำเลยทั้งสามไม่ปฏิบัติได้ จำเลยทั้งสามยินยอมร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายเป็นค่าใช้จ่ายในการปรับพื้นที่ให้คืนสู่สภาพเดิมเป็นเงิน 26,089,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี แต่จนถึงบัดนี้เป็นเวลาล่วงเลยมากว่าสิบปี จำเลยทั้งสามยังไม่ยอมออกจากพื้นที่ดังกล่าว และเชื่อว่า ส.ป.ก.ไม่กล้าเรียกค่าเสียหายจากจำเลยทั้งสาม ทั้งที่มีความเสียหายเกิดขึ้นแก่ ส.ป.ก. (รัฐ) เป็นอย่างมาก”ประธาน คปต. ระบุว่า เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.62 ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบด้วยตัวเอง พบว่ายังมีการบุกรุก ครอบครองที่ ส.ป.ก.ดังกล่าวอยู่ นอกจากนี้ยังพบว่ามีการขยายพื้นที่ของโรงงานออกไปอีกจำนวนมาก มีการขุดบ่อน้ำเสียเพิ่มขึ้นจากปี 2548 อีก 10 บ่อ รวมเป็น 18 บ่อ ดังนั้น เมื่อมีการเปิดเผยความจริงเช่นนี้แล้ว หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ส.ป.ก.จะรีบดำเนินการอย่างไร และนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ จะแสดงความรับผิดชอบด้วยการรีบลาออกจากตำแหน่ง และยินยอมปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมาหรือไม่ ที่สำคัญ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะควบคุมดูแล ส.ป.ก. จะรีบยึดที่ดิน ส.ป.ก.คืนทันทีและฟ้องร้องทางแพ่งเรียกค่าเสียหายกับจำเลยทั้งสามหรือไม่ต่อมานายวีระให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับร้องเรียนเรื่องนี้จากประชาชนก่อนกรณีที่ดินของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี แต่ยังไม่มีเวลาตรวจสอบ กระทั่งเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ลงพื้นที่ไปดูด้วยตา โดยไปยืนส่องอยู่ตรงที่ของชาวบ้านบริเวณด้านข้าง เห็นชัดเจนว่าโรงงานยังดำเนินกิจการอยู่ เมื่อใช้ GPS ตรวจสอบพิกัดก็พบว่าตรงกันกับโรงงานของ รมช.พาณิชย์ ทั้งมีการขยายพื้นที่ออกไปอีก เรื่องนี้แม้ดูเหมือนคดีสิ้นสุดไปแล้ว แต่ทางผู้ถูกฟ้องเองกลับไม่ทำอะไรตามคำสั่งศาลเลยจนถึงขณะนี้ ขอให้สื่อมวลชนไปสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้องได้เลยว่าจริงหรือไม่ ไปถามกับ ผวจ.นครราชสีมาคนปัจจุบันหรือเลขาธิการ ส.ป.ก.คนปัจจุบันดูได้“ทราบข่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ประกาศจะดำเนินคดีกับนักการเมืองที่รุกพื้นที่ป่าทั้งบอกว่าจะยึดคืนทั้งหมดโดยเฉพาะคนที่ดำรงตำแหน่ง ส.ว.ราว 20 คน ที่ถูกสื่อเปิดโปงออกมา แต่กับรัฐมนตรีในพรรคร่วมรัฐบาลทำไมไม่ทำอะไร แล้วที่จะแฉไม่ได้มีแค่ รมช.พาณิชย์ ยังมีรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้อีกหนึ่งคน แต่เป็นใครขออุบไว้ก่อน รอให้กระบวนการของรัฐทำงานก่อน จากข้อมูลหลักฐานทั้งหมดจะเห็นว่า เรื่องนี้ไม่มีการดำเนินการทั้งแพ่งทั้งอาญา พล.อ.ประยุทธ์และ ร.อ.ธรรมนัสจะทำอย่างไร จะไปยึดคืนที่ดินผืนนี้หรือไม่ ตนเปิดหลักฐานให้หมดแล้วแถมยังมีอีกเป็นปึก ท้าทายขนาดนี้แล้วถ้าต้องการข้อมูลสามารถนัดมาได้เลยต่อหน้าสื่อมวลชน กล้าหรือไม่ อย่างไร ก็ตาม ตนมีขั้นตอนที่จะดำเนินการต่อ ให้เวลาที่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายก่อน และถ้าไม่ทำก็เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จะเล่นงานในข้อหาละเว้นตาม ม.157 ด้วย” นายวีระกล่าวต่อมาเวลา 20.20 น. นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า สำหรับปัญหาเรื่องที่ดินที่มีการระบุว่าตนรุกที่ดิน ส.ป.ก.นั้นยืนยันเรื่องทั้งหมดได้จบไปตั้งนานแล้ว และขณะนี้ไม่มีที่ ส.ป.ก.ในครอบครอง ไม่เอาไม่ยุ่งเกี่ยวแน่นอนที่ ส.ป.ก.ตนไม่ได้ทำเรื่องที่ผิดกฎหมายอย่างแน่นอน รวมถึงพื้นที่ที่ทำโรงงานแป้งมันด้วย เรื่องนี้พร้อมให้ตรวจสอบอยู่แล้ว