วันนี้วันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย เป็น “วันพ่อแห่งชาติ” ในวันมหามงคลนี้ ผมขออัญเชิญ พระบรมราโชวาท อันเป็น แก่นแท้ในการปกครองบ้านเมือง ของพระองค์มาลงเพื่อเตือนสติคนไทยทุกคนอีกครั้งหนึ่งผมอยากให้คนไทยทุกคนได้อ่าน พระบรมราโชวาท นี้อีกครั้ง“...ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้คนทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้...”ผมอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม อัญเชิญพระบรมราโชวาทนี้ไปอ่านให้ คณะรัฐมนตรี ได้ฟังอีกครั้ง และให้ยึดถือเป็น “หลักการ” ในการ แต่งตั้งรัฐมนตรี แต่งตั้งข้าราชการการเมือง แต่งตั้งข้าราชการประจำ เพื่อความผาสุกของบ้านเมือง ไม่ให้คนไม่ดีก่อความเดือดร้อนวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองได้ตลอดรัชสมัย 70 กว่าปีที่ทรงครองราชสมบัติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงคิดถึงแต่ประโยชน์สุขของบ้านเมืองและประชาชน ทรงมีพระราชดำรัสในการเสด็จออกมหาสมาคมเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2552 ว่า “...ความสุขความสวัสดีของข้าพเจ้า จะเกิดขึ้นได้ ก็ด้วยบ้านเมืองของเรา มีความเจริญมั่นคงเป็นปกติสุข...”พระองค์ทรงริเริ่ม การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรผู้ยากไร้ได้มีที่ดินทำกิน เนื่องจากทรงเห็นว่า ชาวนาชาวไร่ที่ยากจน ต้องสูญเสียที่ดินที่เคยทำกินให้แก่นายทุน และกลายมาเป็นผู้เช่าหรือไร้ที่ทำกินในที่สุด จึงมีพระราชดำริที่จะปฏิรูปที่ดินทำกิน เพื่อช่วยราษฎรที่ยากจนให้มีที่ดินทำกินตลอดไปชั่วลูกชั่วหลาน โดยทรงดำเนินโครงการเป็นแบบอย่างคือ โครงการจัดสรรและพัฒนาที่ดินตามพระราชประสงค์หุบกะพง รัฐบาลแต่ละชุดต่อมา ได้ดำเนินการตามรอยพระยุคลบาทในเรื่อง การปฏิรูปที่ดินตามพระราชดำริ ตั้งแต่สมัย รัฐบาล ศาสตราจารย์ สัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นต้นมาศาสตราจารย์ สัญญา ธรรมศักดิ์ นายกรัฐมนตรีสมัยนั้น ได้เสนอรัฐสภาออกกฎหมาย พระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ.2518 นับถึงวันนี้ก็ 44 ปีแล้ว ช่วงที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณารับโครงการไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ พระราชทานที่ดินทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์จำนวน 51,967 ไร่ 95 ตารางวา ในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคกลาง ให้แก่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เป็นการประเดิมเริ่มต้น โดยมีพระราชประสงค์ให้ผู้เช่าที่ดินทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์อยู่แต่เดิม ได้ทำกินในที่ดินนั้นต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน ตราบเท่าที่ยังยึดถืออาชีพเกษตรกรรมอยู่ แต่จะไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นการปฏิรูปที่ดินตามพระราชดำริ ได้เริ่มทำอย่างจริงจังในสมัย รัฐบาลนายธานินทร์ กรัยวิเชียร อดีตองคมนตรี อดีตนายกรัฐมนตรี โดยได้เริ่มทำการปฏิรูปที่ดินที่ได้รับพระราชทานมา 50,000 ไร่เศษก่อน มีการแจกเอกสารสิทธิแก่ราษฎรผู้ไร้ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน จัดทำถนน สะพาน ขุดคลอง สร้างอ่างเก็บน้ำ ปรับปรุงคุณภาพที่ดิน แจกปุ๋ย ฝึกอบรมการเพาะปลูกพืชต่างๆ จากนั้นได้บุกเบิกปฏิรูปที่ดินในท้องถิ่นทุรกันดารอื่นๆตามพระราชดำริรวม 17 จังหวัดนี่คือจุดเริ่มต้นของ การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เป็นโครงการพระราชดำริ ใน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรยากจนให้มีที่ดินทำกินไปชั่วลูกชั่วหลาน แต่วันนี้ที่ดิน ส.ป.ก.ตามพระราชดำริ ได้ตกอยู่ในมือของนายทุนและนักการเมืองจำนวนมาก ก็หวังว่ารัฐบาลจะติดตามที่ดินเหล่านี้กลับคืนมา เพื่อให้เกษตรกรที่ยากจนจริงๆ ได้มีที่ดินทำกินไปชั่วลูกชั่วหลานตาม พระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงริเริ่มขึ้นมา.“ลม เปลี่ยนทิศ”