เผยฝันไกลอยากเล่นหนังและมีคอนเสิร์ตตัวเองขึ้นแท่นพระเอกเต็มตัวช่องวันครั้งแรกกับละครดราม่า “หนี้เสน่หา” ทำเอาหนุ่มฮอตขวัญใจสาวๆ ไอซ์-พาริส อินทรโกมาลย์สุต ตื่นเต้นเป็นปลื้ม ยอมรับมี ต่อ-ธนภพ พระเอกรุ่นพี่ที่ดังเปรี้ยงปร้างจากละคร “หัวใจศิลา” เป็นไอดอล“ก็สนุกดีครับ จนตอนนี้เราก็ถ่ายทำกันมาค่อนข้างนานแล้วเหมือนกัน ได้เจอทั้งพี่ๆผู้ใหญ่ พี่นุส-นุสบา พี่ต้อม-พลวัฒน์ ได้เจอพี่ๆคนอื่นๆอีกด้วย เราก็เลยสนุก ตอนแรกเราตื่นเต้นมากนะ เหมือนเรากดดันตัวเองมั้ง เพราะพี่ๆเค้าเล่นกันเก่งมาก เราจะมาเป็นตัวถ่วงหรือเปล่า แล้วเรื่องมันฟาดฟันกันรุนแรงมาก แต่พอมาถึงทุกคนชิลมาก ทุกคนไนซ์กับเรามาก บอกเราใจเย็นๆ ไม่ต้องคิดมาก ฟังพี่อย่างเดียว แล้วเราก็เล่นไปด้วยกัน มันเหมือนแบบทำงานเป็นทีมครับ”เราทำการบ้านมาหนักขนาดไหน?“เรามีช่วงเวิร์กช็อปช่วงแรก แล้วพอดีที่ตอนนั้นมีละครเรื่องหนึ่ง ที่ผมก็เอามาเป็นไอดอล คือหัวใจศิลา ด้วยความที่เราไม่รู้ว่าเราจะเริ่มศึกษาจากไหน ก็เลยใกล้ตัว พี่ต่อช่วยหน่อย เราก็เลยทั้งปรึกษาพี่ต่อ แล้วก็ดูคุณศิลาไปด้วย พอมาถึงหน้างานคนที่คอยช่วยเราเยอะที่สุดก็คือผู้กำกับพี่อาร์ตครับ บางทีเราอ่านบทแล้วก็ตีบทมา อาจจะมีมุมมองที่ต่างกัน พี่อาร์ตก็จะคอยตบๆ ให้มันเข้าที่”>> อ่านเรื่องย่อนิยายทุกเรื่อง คลิกที่นี่ <<แล้วต่อให้คำแนะนำว่ายังไงบ้าง?“พี่ต่อไม่ได้ให้คำแนะนำเป็นแนวทางครับ มันเป็นศิลปะ แล้วทุกคนก็จะมีทางของตัวเอง เอาหลักๆคือ พี่ต่อ ก็ให้กำลังใจ”เราแอบคาดหวังมั้ยว่ามันจะดังเปรี้ยงปร้างเหมือนคุณศิลา?“(หัวเราะ) แอบคาดหวังมั้ย ผมว่ามันเป็นปกติอยู่แล้วของทุกๆคนที่ทำงานตรงนี้ งานทุกๆงานที่เราทำมันใช้เวลาปลุกปั้นนานมาก พอมันได้ออกมาเราก็อยากจะให้ผลงานเราไปได้ดี แต่สุดท้ายแล้วที่ผมรู้สึกว่าผมประสบความสำเร็จที่สุด คือจบจากเรื่องนี้ไปแล้ว ผมต้องรู้สึกว่าผมต้องเป็นนักแสดงที่เก่งขึ้น”รู้สึกยังไงที่ผู้ใหญ่ให้โอกาส?“ก็รู้สึกขอบคุณมากๆ เอาจริงๆผมก็ยังอายุน้อยมาก แต่ว่าผู้ใหญ่ก็ยังเห็นว่าผมมีศักยภาพที่จะทำได้ ผมก็รู้สึกดีใจ เราก็รู้สึกมีกำลังใจเกินไปมากกว่าครึ่งแล้ว”มีอะไรที่เรายังอยากทำอีกมั้ย?“ตอนนี้เพลงกำลังรอปล่อยอยู่ครับ ก็กำลังทำเพลงอยู่ เอาจริงๆเป้าหมายของผมทั้งหมดเลยนะ คือผมอยากเล่นหนัง อยากมีเพลง อยากเล่นคอนเสิร์ต ตอนนี้เราได้เล่นละครแล้ว เหลือหนังใหญ่ เหลือเพลงที่กำลังจะรอปล่อย แล้วก็ขึ้นคอนเสิร์ตครับ พี่ๆรอผมก่อนนะ (หัวเราะ)”คนมองว่าเราได้รับการผลักดันค่อนข้างเยอะกว่าคนอื่นในแก๊ง 9by9?“เหรอ คือส่วนตัวผม ผมไม่รู้สึกอย่างนั้นเลยนะ ผมรู้สึกว่าทุกๆคนก็มีทางเป็นของตัวเอง ทุกคนไม่ได้มีใครมาทับซ้อนกันเลย บอกโปรเจกต์จบ ทุกคนมีทางของตัวเอง อาจจะมีโอกาสที่กลับมารวมกันบ้าง แต่ทุกคนซัพพอร์ตกันแบบน่ารักมากเลย ผมชอบ (ยิ้ม) ทุกครั้งที่เจอกัน ก็จะคุยกันตลอด ว่าช่วงนี้ทำอะไร ทุกคนยุ่งกันมากครับ”.