หนาวแรกของปีนี้ แวะมาทักทายในช่วงที่ฝนยังแวะเวียนมาทำให้เปียกปอนในทุกๆวัน แน่นอน...เรากำลังอยู่ในช่วงของปลายฝน...ต้นหนาวปีนี้...ช่วงวันธรรมดาที่คนไม่พลุกพล่านมากนัก เลยถือโอกาสขึ้นไปเมืองน่านอีกครั้ง โดยการเชื้อเชิญของ ททท.สำนักงานน่าน ที่อยากโปรโมตสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ โดยเฉพาะ...บ้านเปียงซ้อ หมู่บ้านชาวลัวะ ที่อยู่เหนือ อ.บ่อเกลือ ขึ้นไปราว 30 กิโลเมตร เราปักหมุดคืนแรกกันที่ บ้านสะปัน...ชุมชนเล็กๆที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติของขุนเขา มีลำน้ำมางไหลผ่าน ในช่วงหน้าฝนที่เป็นฤดูทำนา นอกจากภูเขาแล้วยังมีวิวทุ่งนาเขียวสดๆให้ชมวิว และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวชิกๆแห่งใหม่ของ จ.น่าน ห่างจากบ่อเกลือภูเขาไปเพียง 9 กิโลเมตรเท่านั้น ไม่กี่ปีมานี้ จากหมู่บ้านเล็กๆที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก สะปัน...กลายเป็นที่ตั้งของโฮมสเตย์เก๋ๆ ซึ่งดัดแปลงจากบ้านไม้ และที่สร้างขึ้นใหม่ๆสไตล์ดิบๆ เพื่อให้กลมกลืนกับธรรมชาติ... สำหรับคืนนี้พวกเราพักกันที่โฮมสเตย์บ้านไม้เล็กๆชื่อ สะปัน รีทรีท...ที่ตั้งอยู่ติดกับลำน้ำมางในหมู่บ้านที่นี่...นอกจากจะสงบเหมาะแก่การพักผ่อนแล้ว ยังเป็นตัวอย่างของสโลแกน บ้านหลักร้อย วิวหลักล้านได้จริงๆส่วนใหญ่แล้ว ที่พักในสะปันจะให้บริการทั้งอาหารเช้า และอาหารเย็น แต่ถ้าใครอยากได้บรรยากาศของการกินหมูกระทะกลางหุบเขา ริมน้ำ ก็สามารถสั่งได้ ทางโฮมสเตย์เขามีวัตถุดิบและหม้อย่างหมูกระทะบริการเรียกว่า ใช้ชีวิตติดดิน...กินง่ายๆ แบบสโลว์ไลฟ์ได้อย่างสบายๆเลยล่ะ... หลับฝันดีที่สะปันในคืนแรก...เสียงไก่ขันในหมู่บ้าน ทำหน้าที่นาฬิกาปลุกให้พวกเราตื่นมาจิบกาแฟ ดูพระอาทิตย์ขึ้น ก่อนจะออกไปขี่จักรยาน ชมวิถีเนิบช้าในหมู่บ้าน ที่มีทั้งสะพานแขวน และน้ำตกสะปัน น้ำตกเล็กๆ สูงไม่เกิน 6 เมตร ลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ และยังเป็นจุดสบของลำน้ำสำคัญ 3 สายของ จ.น่าน คือ ลำน้ำมาง ลำน้ำว้า และ ลำน้ำน่าน เช้านี้...จุดหมายการเดินทางของเรา คือ “โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ บ้านสะจุก-สะเกี้ยง” ซึ่งต้องใช้รถโฟร์วีล ขับขึ้นไปอีกราว 30 กิโลเมตร เราได้ “พี่วิทย์” เจ้าของรีสอร์ต และร้านอาหาร ชื่อกลิ่นไอเกลือ ในเขต อ.บ่อเกลือ เป็นทั้งสารถีและผู้นำทาง ระหว่างทางผ่านจุดกำเนิดแม่น้ำน่าน ในเขตเทือกเขาหลวงพระบาง ที่บ้านสะเละ ตำบลบ่อเกลือเหนือ อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน ที่ต้องเดินเท้าเข้าไปยังจุดตาน้ำในเขตพื้นที่ป่า ประมาณ 500 เมตร...ที่ถ้าแค่ไปดูธรรมดาๆก็คงไม่มีอะไรน่าสนใจมากนักแต่สำหรับเราการได้มาเห็นต้นกำเนิดของ 1 ใน 4 ของแม่น้ำสายหลัก ที่ไหลลงไปรวมกันเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา สายเลือดที่หล่อเลี้ยงคนไทยในเขตภาคเหนือเรื่อยไปจนถึงพระนคร...เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นไม่น้อย เราใช้เวลาประมาณ 20 นาที ที่จุดกำเนิดแม่น้ำน่าน ก่อนจะออกเดินทางต่อไปยังบ้านสะจุก-สะเกี้ยง เพื่อชมความสวยงามและความสำเร็จอันเกิดจากน้ำพระราชหฤทัยของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่มีพระราชดำริให้สร้างโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงขึ้นในหมู่บ้าน เพื่อให้ความรู้เรื่องการทำนาแบบขั้นบันได เพื่อแก้ไขปัญหาป่าเสื่อมโทรม และทำให้ชาวบ้านมีรายได้จากผลผลิตในโครงการ ไม่ว่าจะเป็น เบอร์รี มัลเบอร์รี ชาอู่หลง มะเขือเทศ และพืชผลเมืองหนาวอีกหลายชนิด นอกจากเป็นสถานีพัฒนาการเกษตรในพื้นที่สูงแล้ว ที่นี่ยังมีจุดชมวิวไร่ชาขั้นบันไดแบบสวยๆ ให้ชมด้วย ส่วนที่พัก...ตอนนี้ปิดให้บริการ ถ้าจะพักแนะนำให้พักที่บ่อเกลือ หรือบ้านสะปัน แล้วเดินทางขึ้นไปท่องเที่ยวแบบ One Day trip จะสะดวกกว่าจากสถานีเกษตร เดินทางต่อขึ้นไปอีกไม่ไกล เป็นที่ตั้งของ บ้านเปียงซ้อ...ที่ต้องบอกว่า นอกจากจะเป็นจุดสูงสุดของเมืองน่านแล้ว ยังเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด เป็นธรรมชาติที่สุด และอากาศดีสุดๆนี่ถ้าเก็บโอโซนกลับไปได้ อยากจะอัดกระป๋องกลับไปเลยทีเดียว แต่ที่ต้องเก็บไว้ในความทรงจำเห็นจะเป็นวิวยอดเขา 360 องศา จดขอบฟ้าเมืองน่าน...ที่ไม่ว่าจะยืนมุมไหนก็ถ่ายรูปสวยๆ ได้หมด ยิ่งตอนนี้ เปียงซ้อ...ยังไม่ดังมาก ยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปมากนัก จะไปเสาร์-อาทิตย์ หรือวันธรรมดา ก็ไม่วุ่นวายมาก...แนะนำให้ไปเที่ยวแบบการันตีความสุข...ไปสัมผัสความสวยงามของปลายฟ้า...ปลายฟ้า...ที่ไม่ต้องหลับตาลงก็คงได้พบกัน ได้โอบกอดสวรรค์บนดินแบบฟินสุดๆที่นี่ล่ะ...เปียงซ้อ...ปลายฟ้าน่าน!!!!