(ภาพ:โรงไฟฟ้าบางปะกง ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงและเป็นโรงไฟฟ้าหลักเสริมด้านความมั่นคงของประเทศ)ในบรรดาโรงไฟฟ้าที่สร้างขึ้นมาในประเทศไทย โรงไฟฟ้าบางปะกง ที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ถือเป็นโรงไฟฟ้าหลักที่เสริมความมั่นคงในระบบไฟฟ้าของประเทศนอกจากนี้ยังช่วยสนับสนุนและรองรับความเจริญเติบโตของพื้นที่ชายฝั่งทะเล และการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมในฝั่งทะเลภาคตะวันออกได้เป็นอย่างดีอีกทั้งยังเป็นต้นแบบการสร้างโรงไฟฟ้าที่ยืนหยัดอยู่คู่กับชุมชนในการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะ “โรงไฟฟ้าสีเขียว” ได้อย่างเต็มตัว เนื่องจากมีระบบดูแลสิ่งแวดล้อมดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ติดตั้งเครื่องจับฝุ่นประจุไฟฟ้าสถิต สามารถแยกฝุ่นละเอียดและเหนียวได้ดี มีประสิทธิภาพสูงส่วนน้ำที่ระบายออกจากหอหล่อเย็น จะถูกควบคุมคุณภาพให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานและมีระบบตรวจวัดเป็นระยะๆ นำไปใช้เลี้ยงปลาและสัตว์น้ำได้ดี โรงไฟฟ้าเครื่องที่ 3 ที่ใช้แก้วิกฤติน้ำมันปาล์มล้นตลาดให้กับรัฐบาล โดยรับซื้อน้ำมันปาล์มมาเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า จำนวน 360,000 ลิตร.สำหรับ โรงไฟฟ้าบางปะกง ก่อสร้างขึ้นในปี 2520 เชื่อมโยงจากการค้นพบก๊าซธรรมชาติซึ่งมีปริมาณมากพอในเชิงพาณิชย์เป็นแห่งแรก ที่ “แหล่งเอราวัณ” มีการวางท่อใต้ทะเลเพื่อขนส่งก๊าซธรรมชาติมาขึ้นฝั่งที่ จ.ระยอง และผลิตก๊าซธรรมชาติครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อปี 2524จากนั้น กฟผ. จึงเริ่มก่อสร้าง โรงไฟฟ้าบางปะกง บริเวณริมฝั่งด้านซ้ายของแม่น้ำบางปะกง ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าพลังความร้อนและโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม เพื่อสนองนโยบายรัฐบาลในการพัฒนาแหล่งพลังงานในประเทศ และประหยัดเงินตรารั่วไหลออกนอกปีละมหาศาลพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 และ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเปิดโรงไฟฟ้าบางปะกง เมื่อวันที่ 8 ม.ค.2528 น.ส.สมจิตร พันธุ์สุวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลท่าข้าม อ.บางปะกง นายศานิต นิยมาคม ผช.ผู้ว่าการบริหารจัดการความยั่งยืน กฟผ. นำเยี่ยมชม.ล่าสุด รัฐบาล ได้แก้ปัญหา น้ำมันปาล์มล้นตลาด 400,000 ลิตร โดยให้ กฟผ. รับซื้อน้ำมันปาล์มมาให้ โรงไฟฟ้าบางปะกง ผลิตไฟฟ้า ลอตแรกซื้อเมื่อวันที่ 2 ก.พ.2562 จำนวน 160,000 ลิตร และเดือน พ.ค.2562 ให้สั่งซื้อ เพิ่มอีก 200,000 ลิตรวันก่อน นายศานิต นิยมาคม ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารจัดการความยั่งยืน กฟผ.ได้เชิญสื่อมวลชนไปเยี่ยมการนำน้ำมันปาล์มมาใช้ผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกง น.ส.สมจิตร พันธุ์สุวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลท่าข้าม อ.บางปะกง และ นายสมบัติ บุรมิ ปลัดเทศบาล นำสื่อมวลชนชม เกาะธรรมชาติท่าข้าม.นายวิเชษฐ พิสิฐอมรชัย หัวหน้ากองบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าความร้อน โรงไฟฟ้าบางปะกง อธิบายให้ฟังว่า กำลังผลิตของโรงไฟฟ้าบางปะกง ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังความร้อน 4 เครื่อง เครื่องที่ 1 และ 2 กำลังผลิตชุดละ 550 เมกะวัตต์ ได้ปลดระวางไปแล้วปัจจุบันเครื่องที่ 3 และ 4 กำลังผลิตชุดละ 320 เมกะวัตต์ เป็นโรงไฟฟ้าใช้น้ำมันเตาเป็นเชื้อเพลิงมา 30 ปี ไม่ได้ใช้แล้ว แต่เก็บสำรองไว้ด้านความมั่นคง จนถึงปี 2572 จึงจะปลดระวางดังนั้นเมื่อ รัฐบาล ให้ช่วย กฟผ. แก้ปัญหาน้ำมันปาล์มล้นตลาด จึงได้นำน้ำมันปาล์มมาเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า เพื่อแก้ปัญหาวิกฤติน้ำมันปาล์มล้นตลาด โดยนำมาใช้กับเครื่องที่ 3 ซึ่งมีระบบแยกท่อทำให้ใช้เดินเครื่องได้ สภาพของคอนโดฯปู ที่ทำให้ปูแสมวางไข่ บนเกาะธรรมชาติท่าข้าม.นายศานิต กล่าวเสริมว่า กฟผ. ได้ตั้ง “กองทุนพัฒนาชุมชนรอบโรงไฟฟ้า” ขึ้น นำเงินจากการจำหน่ายไฟฟ้าเข้ากองทุนฯและนำมาใช้ในกิจกรรมต่างๆ อาทิ ด้านการพัฒนาอาชีพ การศึกษา ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณี กีฬาและดนตรี สาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมพร้อมกันนี้ น.ส.สมจิตร พันธุ์สุวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลท่าข้าม อ.บางปะกง และ นายสมบัติ บุรมิ ปลัดเทศบาล ได้มานำเยี่ยมชม โดยมี นายพลากร บุญห่อ หัวหน้าแผนก ปชส.โรงไฟฟ้าบางปะกง และ น.ส.สายรุ้ง เกิดแก้ว พนักงานวิชาชีพระดับ 7 ร่วมอธิบายด้วย นายสุทธิพล ไตรรัตน์สิงห์ ผอ.ร.ร.บางปะกง (บวรวิทยายน) ต.บางปะกง และ น.ส.อมรรัตน์ งามบ้านผือ ครูที่ดูแลนักเรียนเพาะพันธุ์ปลาอีกง ต้อนรับคณะ.น.ส.สมจิตร กล่าวว่า ที่ ต.บางปะกง เป็นชุมชนที่ให้ความสำคัญการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยได้รับการสนับสนุนจาก กฟผ.อย่างดี ทำให้ธรรมชาติริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง มีการฟื้นฟูระบบนิเวศจนสัตว์น้ำต่างๆกลับมาชุกชุมจากนั้นนำไปชม “บ้านปลาธนาคารปู” ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง ด้านหน้า วัดบนบางปะกง ที่มีแหล่งเลี้ยงเพาะพันธุ์ปลานานาชนิด และปูแสม มี น.ส.มลิ เทพรักษา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.บางปะกง กับชาวบ้านช่วยกันดูแลอีกสถานที่คือ “เกาะธรรมชาติท่าข้าม” เป็นพื้นที่อนุรักษ์ป่าชายเลน มีการปลูกป่าชายเลนมาอย่างต่อเนื่องจนอุดมสมบูรณ์ กลายเป็นแหล่งอนุรักษ์ฟื้นฟูปูแสมและปลา มีการทำคอนโดฯปูให้ปูแสมมาวางไข่ด้วย รวมทั้งมีจุดเที่ยวชมธรรมชาติสวยงาม ปลาอีกง ปลาท้องถิ่นของ ต.บางปะกง ที่นักเรียนเพาะพันธุ์อนุรักษ์ไว้.บนเกาะธรรมชาติยังมี พิพิธภัณฑ์ปลาโลมาอิรวดี ที่จะว่ายมาตามกระแสน้ำให้ชมทุกปี เพราะระบบนิเวศริมฝั่งแม่น้ำบางปะกงมีการฟื้นฟู และยังมีการสร้างหอคอยให้ชมธรรมชาติและสัตว์จุดสุดท้ายได้ไปเยี่ยมชม โครงการ “เยาวชนต้นกล้า โรงไฟฟ้าสีเขียว” ซึ่ง กฟผ. สนับสนุนให้เยาวชนในท้องถิ่นอนุรักษ์เพาะพันธุ์ ปลา “อีกง” ซึ่งเป็นปลาท้องถิ่น ที่ ร.ร.บางปะกง (บวรวิทยายน) ต.บางปะกง นายสุทธิพล ไตรรัตน์สิงห์ ผอ. และ น.ส.อมรรัตน์ งามบ้านผือ ครูที่ดูแลนำนักเรียนชายหญิงชั้น ม.6 ที่รับช่วงต่อจากรุ่นพี่ มาบรรยายให้ฟัง น.ส.มลิ เทพรักษา ผู้ใหญ่บ้าน ที่ดูแล “บ้านปลาธนาคารปู”.ธรรมชาติริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง มีการอนุรักษ์ฟื้นฟูกลับสู่ธรรมชาติทั้งพืชและสัตว์หายาก จึงเป็นแหล่งธรรมชาติที่น่าไปสัมผัสอีกแห่ง.ทีมข่าวภูมิภาค