“รายงานวันจันทร์”-กทม.ฝนไม่เกิน 60 น้ำไม่ท่วม-ถ้าเกินมีปัญหาเป็นประจำทุกๆปีเมื่อถึงฤดูฝน กรุงเทพฯ จะต้องประสบปัญหาน้ำท่วมขัง ที่ผ่านมา กทม.ได้พยายามแก้ไขปัญหาระบบระบายน้ำมา โดยตลอด โดยเฉพาะการปรับปรุงระบบระบายน้ำในพื้นที่ต่างๆให้สามารถระบายลงคลอง และสู่แม่น้ำเจ้าพระยาให้เร็วที่สุดสำหรับปี 2562 นี้ กทม.จะมีแผนหรือมีการเตรียมความพร้อมรับมือน้ำฝนอย่างไรบ้าง “รายงานวันจันทร์” ได้ไปพูดคุยกับรองผู้ว่าฯ กทม. ศักดิ์ชัย บุญมา เกี่ยวกับเรื่องนี้-----------------------ถาม-ปีนี้ กทม.มีแผนเตรียมพร้อมรับมือน้ำฝนอย่างไรบ้างศักดิ์ชัย-กทม.ได้ติดตามสถานการณ์ฝนอย่างต่อเนื่องทั้งการติดตามข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา การติดตามข้อมูลเรดาร์ตรวจวัดสภาพอากาศของศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม กทม. เพื่อวางแผนบริหารจัดการน้ำ ทั้งนี้ แผนการบริหารจัดการน้ำในปีนี้ไม่ค่อยแตกต่างจากปีที่ผ่านมา แต่สิ่งที่แตกต่าง คือการเพิ่มอุปกรณ์เครื่องสูบน้ำ เครื่องจักร บูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ทั้งทหาร ตำรวจ กทม. เอกชน และภาคประชาชน รวมถึงมีการประสานงานภายในหน่วยงานของ กทม. อย่างใกล้ชิด เพื่อแก้ไขปัญหาตลอด 24 ชม. โดยเฉพาะจุดเฝ้าระวังน้ำท่วมขัง 56 จุด และจุดเสี่ยงน้ำท่วมขัง 14 จุด ถาม-กทม.น้ำจะยังท่วมอีกหรือไม่?ศักดิ์ชัย–ท่อระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังมีระบบท่อเก่าโดยเฉพาะถนนที่ก่อสร้างมานานแล้ว ซึ่งมีท่อขนาดเล็กประมาณ 60 เซนติเมตร ประกอบกับกายภาพบางพื้นที่เปลี่ยนไป มีการก่อสร้างอาคารคอนโดเพิ่มขึ้น และน้ำที่ใช้ภายในอาคารก็ไหลลงสู่ท่อเก่านั้น ปัจจุบันท่อที่มี อยู่นั้นไม่สามารถรับปริมาณน้ำได้แล้ว หากเป็นแบบนี้อยู่น้ำก็ยังท่วม วันนี้ทำได้ดีที่สุดคือทำอย่างไรให้น้ำลดลงเร็วที่สุดส่วนมาตรการแก้ไขถาวร คือการสร้างระบบระบายน้ำ การปรับปรุง เพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำในพื้นที่จุดอ่อน เชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯได้ แต่จากการสำรวจจุดอ่อนน้ำท่วม กทม. พบว่าบางจุดยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องสาธารณูปโภคที่อยู่ใต้ดิน ซึ่งต้องมีการจัดระเบียบสาธารณูปโภคก่อน จึงเพิ่มระบบระบายน้ำได้นอกจากนี้ มีอีกปัจจัยที่ทำให้น้ำท่วม คือ ขยะอุดตันตามท่อระบายน้ำ เจ้าหน้าที่ กทม.ต้องจัดเก็บตามคลอง ตามท่อระบายน้ำ ตามสถานีสูบน้ำทุกวัน ในส่วนนี้หากเราช่วยกันทุกคน น้ำก็จะระบายได้ดีขึ้น ถาม-ระบบระบายน้ำในกรุงเทพฯยังต้องเป็นคลองอยู่หรือไม่ศักดิ์ชัย-วันนี้กรุงเทพฯไม่สามารถใช้ประโยชน์จากคลองได้ 100% เนื่องจากสภาพคลองในปัจจุบันไม่สามารถรองรับปริมาณน้ำมากๆได้ และการเข้าไปขุดลอกคูคลองในบางพื้นที่ทำได้ยาก มีอุปสรรคในการนำรถ นำเครื่องจักรเข้าไปทำงาน ซึ่งสามารถเข้าไปได้เป็นจุดๆ และนำกำลังคนเข้าไปช่วย สำนักการระบายน้ำจึงใช้ระบบท่อ ระบบอุโมงค์ในการระบายน้ำเป็นหลัก รวมถึงนำระบบแก้มลิง ธนาคารน้ำใต้ดิน pipe jacking มาใช้ในการบริหารจัดการน้ำ ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้างหลายโครงการหากแล้วเสร็จทั้งหมดจะช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯได้ดีขึ้นถาม-จุดอ่อนน้ำท่วมขัง 14 จุด มีที่ใดบ้างศักดิ์ชัย-1. ถนนแจ้งวัฒนะ ช่วงคลองประปาถึงคลองเปรมประชากร (เขตหลักสี่) 2.ถนนรัชดาภิเษก หน้าธนาคารกรุงเทพ (เขตจตุจักร) 3. ถนนพหลโยธิน หน้าตลาดอมรพันธุ์และแยกเกษตร (เขตจตุจักร) 4. ถนนประชาราษฎร์สาย 2 แยกเตาปูน (เขตบางซื่อ) 5.ถนนราชวิถีหน้า ม.สวนดุสิตและเชิงสะพานกรุงธน (เขตดุสิต) 6. ถนนพญาไท หน้ากรมปศุสัตว์ (เขตราชเทวี) 7. ถนนศรีอยุธยา หน้า สน.พญาไท (เขตราชเทวี) 8. ถนนจันทน์ จากซอยบำเพ็ญกุศลถึงที่ทำการไปรษณีย์ยานนาวา (เขตสาทร) 9. ถนนสวนพลู จากถนนสาทรใต้ถึงถนนนางลิ้นจี่ (เขตสาทร) 10. ถนนสาธุประดิษฐ์ แยกถนนจันทน์ (เขตสาทร) 11. ถนนสุวินทวงศ์ จากคลองสามวาถึงคลองแสนแสบ (เขตมีนบุรี) 12. ถนนเพชรเกษม จากคลองทวีวัฒนาถึงคลองราชมนตรี (เขตบางแค) 13.ซอยหมู่บ้านเศรษฐกิจ จากถนนเพชรเกษมถึงวงเวียนกาญจนาภิเษก (เขตบางแค) และ 14. ถนนบางขุนเทียนชายทะเล จาก ถ.พระรามที่ 2 ถึงคลองสะแกงาม (เขตบางขุนเทียน)ถาม-กทม.ใช้งบในการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯเท่าไหร่ศักดิ์ชัย–ปีงบประมาณ 2563 สำนักการระบายน้ำได้รับจัดสรรงบประมาณ 8,000 กว่าล้านบาท ในส่วนนี้ 30เปอร์เซ็นต์หรือประมาณ 2,400 ล้าน ใช้ในการบริหารจัดการน้ำ ทั้งการก่อสร้าง ปรับปรุง บำรุงรักษาระบบระบายน้ำ ระบบบำบัดน้ำเสียในกรุงเทพฯ “ถ้ากรุงเทพฯ มีฝนตกไม่เกิน 60 มม. น้ำจะไม่ท่วม แต่ถ้าเกิน 60 จะเริ่มมีปัญหาแล้ว แต่ กทม.จะพยายามทำให้ลดลงเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน”.