ท่านผู้อ่านที่เป็นแฟนรุ่นเก่าๆของผมคงจะจำได้ ผมเคยพูดไว้บ่อยๆครั้งว่า อยากให้คอลัมน์นี้เป็นส่วนหนึ่งของ “บันทึกสังคมไทย” คือจะพยายามบันทึกเรื่องราวข่าวสารที่อาจไม่ใช่ข่าวใหญ่โตอะไรนัก แต่มีความหมายต่อความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยและการใช้ชีวิตของคนไทยโดยทั่วไปเอาไว้ด้วยผมจึงเขียนถึงการลงทุนสร้างห้างสรรพสินค้า เขียนถึงการกำเนิดของร้านสะดวกซื้อ ร้านกาแฟ หรือร้านอาหาร ทั้งที่บุกมาจากต่างประเทศและของไทยเราเอง ไปจนถึงการใช้ชีวิตบนรถไฟฟ้า การจับจ่ายใช้สอย แฟชั่นใหม่ๆ และความบันเทิงทั้งเก่าและใหม่ๆอยู่เสมอๆเมื่อวานก็เขียนถึง “สวนสยาม” สวนสนุกที่อยู่ยงคงกระพันมา 39 ปี ที่กำลังจะ “รีแบรนด์” เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “สวนสยาม อะเมซิ่ง พาร์ก” ในวันพรุ่งนี้วันนี้ขออนุญาตบันทึกไว้อีกข่าวนะครับ เป็นเรื่องเกี่ยวกับอาหารการกินยุคใหม่ คือการกินนอกบ้าน ตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ ซึ่งเป็นพฤติกรรมใหม่ของครอบครัวไทยในช่วง 30-40 ปีที่ผ่านมาส่งผลให้เกิดร้านอาหารและร้านเครื่องดื่มตลอดจนของหวานดังๆ ทั้งจากต่างประเทศและของไทยเราเองขึ้นมากมายแบรนด์ไทยๆแบรนด์หนึ่งที่ผมเคยเขียนถึงบ่อยมาก ก็คือ “เอ็มเคสุกี้” หรือระยะหลังๆคนไทยมักเรียก “เอ็มเค” เฉยๆ ซึ่งเจริญเติบโตเร็วมากมีสาขาถึง 438 สาขาเข้าไปแล้วทั่วไทย และถ้ารวมเอ็มเคโกลด์ เอ็มเคไลฟ์ เข้าไปด้วยตามตัวเลขที่ค้นได้บอกว่ามีถึง 448 สาขาเสียด้วยซ้ำเป็นตำนานของความสำเร็จของคนไทยๆจากร้านอาหารดั้งเดิมที่ สยามสแควร์ ของป้า ทองคำ เมฆโต ที่รับช่วงมาจากชาวจีนที่เลิกกิจการ และคุณป้าก็บุกเบิกต่อ จนมาได้ลูกเขยวิศวะฯ จุฬาฯ คุณฤทธิ์ ธีระโกเมน และได้รับโอกาสจาก เซ็นทรัล ลาดพร้าว ให้ทดลองเปิดร้านสุกี้ร้านแรกเมื่อ พ.ศ.2529ด้วยนวัตกรรมใหม่ของคุณฤทธิ์ในยุคนั้น คือการคิดค้นหม้อต้มที่ใช้ไฟฟ้าแทนแก๊สได้สำเร็จ ทำให้คนไทยสามารถรับประทานสุกี้ได้โดยไม่ต้องหวาดกลัวว่าเตาแก๊สจะระเบิดอีกต่อไปประกอบกับฝีมือปรุงอาหารของป้าทองคำ ที่กำกับดูแลร้านแรกที่เซ็นทรัล ลาดพร้าวอย่างทุ่มเท ทำให้ เอ็มเคสุกี้ ลือลั่นมาจนถึงวันนี้และที่เป็นข่าวเมื่อไม่กี่วันมานี้อันเป็นเหตุให้ผมต้องหยิบมาเขียนบันทึกไว้ ก็คือข่าวที่ว่า บริษัทเอ็มเค เรสเทอรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ใช้เงิน 2,060 ล้านบาท เข้าซื้อหุ้นของ “แหลมเจริญซีฟู้ด” ด้วยสัดส่วนถึง 65 เปอร์เซ็นต์แปลความหมายได้ ณ บัดนี้ เอ็มเคสุกี้ กับ แหลมเจริญซีฟู้ด ได้เข้ามาเป็นทองแผ่นเดียวกันเรียบร้อยจริงๆแล้วผมและครอบครัวเป็นแฟนคลับของ แหลมเจริญซีฟู้ด มานานมาก เพียงแต่ยังไม่เคยเขียนถึงเท่านั้นผมเคยอุดหนุนตั้งแต่ร้านดั้งเดิมที่ระยอง แล้วก็มาอุดหนุนบ่อยมากที่ร้านย่าน “เหม่งจ๋าย” ซึ่งน่าจะเป็นสาขาแรกใน กทม.เวลาต้อนรับเพื่อนๆฝูงๆจากนิวยอร์กยุคโน้น ผมจะพาไปที่แหลมเจริญเหม่งจ๋าย สั่ง “ปลากะพงทอดน้ำปลา” มาเป็นเมนูหลัก และจำได้ว่าพรรคพวกเพื่อนฝูงจะรับประทานกันเกลี้ยงตัว แม้แต่หัวก็ยังไม่เหลือด้วยความเอร็ดอร่อยต่อมาผมก็ตามไปอุดหนุนที่สาขา รามอินทรา อีกสาขาหนึ่งตอนมาขึ้นห้างผมไม่เคยแวะร้านไหนเลย เพราะพอขึ้นห้างแล้วอยู่ในห้องแอร์ ทำให้มีกลิ่นคาวของอาหารทะเลมากกว่าปกติ ซึ่งผมแพ้มาก ไม่สามารถนั่งอยู่ได้นานนักทุกครั้งที่ไปอุดหนุนร้านที่ย่านเหม่งจ๋ายก็ดี หรือรามอินทราก็ดี ผมจะรับประทานที่โต๊ะนอกห้องแอร์เสมอ เพราะสู้กลิ่นอาหารทะเลไม่ไหวยินดีด้วยอีกครั้งนะครับ ที่ร้านอาหารที่ผมเป็นแฟนคลับทั้งคู่ มีสถานภาพเป็นทองแผ่นเดียวกันเรียบร้อยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ทำให้อาณาจักรเอ็มเคในวันนี้ทั้ง เอ็มเค, ยาโยอิ, มิยาซากิ, เลอสยาม (อาหารไทย) เลอ เพอทิต (อาหารฝรั่ง) ฯลฯ มี แหลมเจริญซีฟู้ด อาหารทะเลเพิ่มขึ้นอีก 1 แบรนด์ต่อไปจะซื้ออะไรมาร่วมอาณาจักรอีกคงต้องตามลุ้นละครับ...ผมเดาว่าไม่อาหารจีนก็อาหารอินเดีย ที่เอ็มเคยังไม่มี เพราะฉะนั้น ภัตตาคารจีนหรืออินเดียดังๆทั้งหลายเตรียมตัวรอได้.“ซูม”