(ภาพ:สุสานลุงโฮ-แฟ้มภาพกลุ่มนักท่องเที่ยวถ่ายรูปหมู่ที่หน้ารูปปั้นของท่านโฮจิมินห์ ผู้นำการปฏิวัติคอมมิวนิสต์ของเวียดนาม ที่พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ ในกรุงฮานอย ซึ่งร่างของท่านยังถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีในสุสาน (เอเอฟพี)2 ก.ย.ที่ผ่านมา เป็นวันครบรอบ 50 ปีการถึงแก่อสัญกรรมของท่าน “โฮจิมินห์” หรือ “ลุงโฮ” รัฐบุรุษ ผู้นำการปฏิวัติคอมมิวนิสต์แห่ง “สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม” ซึ่งร่างของท่านยังถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีให้อนุชนคนรุ่นหลังเข้าเยี่ยมคารวะในสุสานที่กรุงฮานอยวันถึงแก่อสัญกรรมของ “ลุงโฮ” ยังเป็นวันชาติเวียดนามด้วย ซึ่งในโอกาสนี้ รัฐบาลเวียดนามจัดพิธีรำลึกถึงท่านโฮจิมินห์อย่างยิ่งใหญ่ ขณะที่สำนักข่าว “เอเอฟพี” เสนอรายงานเรื่องโฮจิมินห์และศาสตร์แห่งการอาบน้ำยาเก็บรักษาร่างของลุงโฮและอดีตบุคคลสำคัญอื่นๆ ของโลกไว้อย่างน่าสนใจเวียดนามเคยตกเป็นส่วนหนึ่งของจีนนานนับพันปีตั้งแต่ 2 ศตวรรษก่อนคริสตกาล เคยถูกปกครองด้วยระบอบกษัตริย์หลายราชวงศ์ และเคยตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส ก่อนที่โฮจิมินห์ประกาศตั้งพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามขึ้น หลังจักรพรรดิบ๋าว ดั่ย จักรพรรดิพระองค์สุดท้ายสละราชสมบัติในปี 2488 ต่อมาในปี 2497 เวียดนามก็ประกาศเอกราชอย่างเป็น ทางการ หลังรบชนะฝรั่งเศสในยุทธการเดียนเบียนฟู โดยโฮจิมินห์ได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐ ประชาธิปไตยเวียดนามคนแรกถึงกระนั้น โฮจิมินห์ก็ยังอาศัยอยู่อย่างสมถะในบ้านหลังเล็กๆ และปี 2502 สงครามเวียดนามก็อุบัติขึ้น สหรัฐอเมริกาและชาติพันธมิตรกระโจนเข้าร่วมสงครามโดยอยู่ฝ่ายเวียดนามใต้ซึ่งมีฐานที่มั่นที่กรุงไซ่ง่อนซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นนครโฮจิมินห์ สู้รบนองเลือดกับฝ่ายคอมมิวนิสต์เวียดนามเหนือซึ่งมีที่มั่นที่กรุงฮานอยแต่ระหว่างสงคราม ท่านโฮจิมินห์ถึงแก่อสัญกรรมเสียก่อนเพราะหัวใจล้มเหลวเมื่อ 2 ก.ย. 2512 สิริอายุ 79 ปี ไม่ได้อยู่ชื่นชมชัยชนะของเวียดนามเหนือในปี 2518 ซึ่งเป็นความพ่ายแพ้สุดอัปยศของสหรัฐอเมริการ่างของโฮจิมินห์ถูกดองด้วยน้ำยาอาบศพเก็บไว้ในโลงแก้วในสุสานที่จัตุรัสบาดิงห์ในกรุงฮานอยจนถึงปัจจุบัน โดยกรรมวิธีอาบน้ำยาเก็บรักษาร่างได้รับความช่วยเหลือจากสหภาพโซเวียตและถูกปิดเป็นความลับสุดยอด สุสานโฮจิมินห์มีหน่วยทหารที่ถูกคัดเลือกสุดเข้มงวดในชุดเครื่องแบบสีขาวติดปืนยาวผลัดเวรเฝ้าอารักขาตลอด 24 ชั่วโมง แต่ละปีมีชาวเวียดนามและนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าเยี่ยมคารวะหลายล้านคนร่างของโฮจิมินห์ถูกเก็บรักษาไว้แม้ท่านเคยเขียนพินัยกรรมสั่งให้ฌาปนกิจศพและนำอัฐิไปสถิตไว้ที่ภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคกลาง เพื่อเป็นสัญลักษณ์เอกภาพของชาติ แม้มีข่าวลือว่าร่างของโฮจิมินห์ในโลงแก้วอาจไม่ใช่ร่างจริง หรือร่างของท่านถูกส่งไปบำรุงรักษาที่รัสเซียทุกปี แต่รัฐบาลเวียดนามปฏิเสธว่าไม่จริง อารักขาเข้ม-หน่วยทหารในชุดเครื่องแบบเต็มยศสีขาวผลัดเวรเฝ้าอารักขาสุสานโฮจิมินห์ในกรุงฮานอย อย่างเข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อ 2 ก.ย. วันครบรอบ 50 ปีการถึงแก่อสัญกรรมของลุงโฮ (เอเอฟพี)รัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามใช้โฮจิมินห์เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาติมาตลอด จนท่านมีสถานะสูงส่งปานเทพเจ้า แม้คนรุ่นใหม่ ซึ่งราวครึ่งหนึ่งมีอายุต่ำกว่า 30 ปีจะไม่ผูกพันลึกซึ้งกับ “ลุงโฮ” เท่าคนยุคก่อนอดีตผู้นำท่านอื่นที่ร่างถูกเก็บรักษาไว้ด้วยน้ำยาอาบศพคล้ายโฮจิมินห์ รวมทั้ง “วลาดิเมียร์ เลนิน” ผู้นำขบวนการปฏิวัติบอลเชวิคแห่งสหภาพ โซเวียต ซึ่งถึงแก่อสัญกรรมในปี 2467 สิริอายุ 53 ปี และสถิตอยู่ในสุสานที่จัตุรัสแดงในกรุงมอสโก แม้ท่านต้องการให้นำร่างไปฝังไว้กับมารดาที่นครเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์กการเก็บรักษาร่างเลนิน นับเป็นจุดเริ่มต้นของการอาบน้ำยาเก็บรักษาร่างเหล่าผู้นำค่ายคอมมิวนิสต์อื่นๆในยุคต่อมา รวมทั้งโฮจิมินห์ แต่หลังสหภาพโซเวียตล่มสลายในปี 2532 ก็มีกระแสถกเถียงว่าควรย้ายร่างของเลนินไปไว้ที่อื่นหรือไม่ แต่ถูกขัดขวางจากพรรคคอมมิวนิสต์รัสเซียส่วนร่างท่านประธาน “เหมา เจ๋อตุง” ผู้นำการปฏิวัติ ผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งถึงแก่อสัญกรรมเมื่อ 9 ก.ย.2489 ก็ถูกอาบน้ำยาเก็บรักษาไว้ในโลงแก้วที่อนุสาวรีย์เหมา เจ๋อตุง ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ในกรุงปักกิ่ง และเริ่มตั้งแสดงให้ผู้คนเข้าคารวะตั้งแต่ปี 2520ร่าง “คิม อิล-ซุง” บิดาผู้ก่อตั้งประเทศเกาหลีเหนือ ผู้ถูกเชิดชูเป็น “ประธานาธิบดีตลอดกาล” หลังถึงแก่อสัญกรรมในปี 2537 และร่าง “คิม จอง-อิล” ลูกชาย ผู้นำรุ่นที่ 2 ซึ่งถึงแก่อสัญกรรมในปี 2554 และถูกเชิดชูเป็น “เลขาธิการพรรคกรรมกรตลอดกาล” ก็ถูกอาบน้ำยาเก็บรักษาไว้ในโลงแก้วในสุสานพระอาทิตย์ที่พระราชวังกึมซูซานในกรุงเปียงยางร่างของบุคคลสำคัญอื่นๆ ที่ถูกอาบน้ำยาเก็บรักษาศพไว้ ยังมี “เฟอร์ดินาน อี.มาร์กอส” อดีตผู้นำจอมเผด็จการแห่งฟิลิปปินส์ ซึ่งถูก “พลังประชาชน” ลุกฮือขับไล่จนหนีไปลี้ภัยและถึงแก่อสัญกรรมในต่างแดนในปี 2532 อีกคนคือ “เอวา เปรอง” หรือ “เอวิตา” อดีตสุภาพสตรีหมายเลข 1 ของอาร์เจนตินา ภริยาของอดีตประธานาธิบดีฆวน เปรอง ซึ่งถูกเก็บไว้ที่สุสานของครอบครัวในกรุงบัวโนสไอเรสตั้งแต่ปี 2517 หลังสิ้นบุญด้วยโรคมะเร็งขณะอายุ 33 ปี ในปี 2495 ซึ่งช่วงแรกๆร่างของเธอถูกส่งไปฝังซ่อนไว้ที่เมืองมิลานในอิตาลีเมื่อพูดถึงประวัติศาสตร์กรรมวิธีอาบน้ำยาเก็บรักษาสภาพศพ ที่จะละเว้นไม่เอ่ยถึงไม่ได้เลยก็คือเหล่าบุคคลสำคัญในยุคอียิปต์โบราณ โดยเฉพาะ “ฟาโรห์” พระองค์ต่างๆ ซึ่งทั่วโลกรู้จักกันในชื่อ “มัมมี่”!บวร โทศรีแก้ว