เด็กรุ่นๆผมโตในสมัยรัฐบาลทหารฝังใจโฆษณา เชื่อผู้นำ ชาติพ้นภัย ท่านผู้นำเอ่ยปากแนะนำให้อ่านนิทานอีสป...ผมก็อ่านนิทานอีสป อ่านจบ ก็อ่านไปจนถึงชุดอมตนิทาน ลูกสัตว์นิทาน ชั้น ป.2 ลูกแมว แมวและลูกกระรอก นกพิราบ ผมสนุกเรื่อง ลูกวัวสามตัวตาเจียมชาวนา มีลูกวัวอยู่สามตัว ตัวแรกชื่อเผือก เพราะสีของมันเหมือนสีหม้อใหม่ ตัวที่สองชื่อทองแดง เพราะสีของมันเหมือนน้ำตาลปึก แต่เจ้าของมันมักเรียกมันสั้นๆว่าแดง ตัวที่สามชื่อแต้ม เพราะมันมีสีด่างเป็นแต้มๆตาเจียมทำคอกให้มันอยู่ที่ข้างโรงนา และให้เด็กชายจวนลูกชายคนเล็ก อายุเก้าขวบ เป็นผู้เลี้ยงดู จวนเอาข้าวเปลือกใส่รางไว้ให้ตัวละราง แต่วัวทั้งสามกำลังคะนองไม่ชอบกินข้าวเปลือกในรางของตัว ชอบไปแย่งกันในรางของอีกตัวหนึ่ง เป็นดังนี้เนืองๆเจ้าเผือกเอาเปรียบเพื่อนที่สุด พอเด็กชายจวนเอาข้าวเปลือกมาใส่รางของมัน มันจะไม่แตะต้องข้าวในรางของมันก่อน มันจะไปแย่งกินที่รางของแดงหรือแต้มเสมอๆแต่ถ้าตัวหนึ่งตัวใดไปแย่งกินข้าวในรางของมันบ้าง มันจะรีบหันไปที่รางของมันทันที เบียดตัวที่มาแย่งออกไปให้พ้น แล้วรีบกินข้าวเปลือกของมันจนหมดรางเมื่อวัวทั้งสามกินข้าวเปลือกแล้ว จวนจะต้อนออกไปที่ทุ่งนา มันเล่นกันวันยังค่ำ วิ่งไล่กันรอบๆทุ่ง มันชอบทุ่งหญ้าที่เขียวสด มันเล่นจนเพลิน ครั้นพลบค่ำ จวนต้องไปต้อนมันเข้าคอกแต้มชอบเล่นเกเรที่สุด เมื่อเห็นเด็กชายจวนถือไม้อันใหญ่เดินมา จะเปิดประตูคอก แต่มันยังไม่อยากไปนอน จึงวิ่งตรงไปหาเผือกและแดงทางปลายนาโน้น แล้วทั้งสามตัวก็ออกวิ่งหนีไปรอบๆทุ่งเมื่อมันวิ่งไปจนเหนื่อยแล้ว ก็ยอมเข้าคอกโดยดี มันรู้ว่า มีรางข้าวเปลือกสามราง ตั้งรอไว้ให้กินเสมอและมันรู้ว่า ถ้าวิ่งมากๆเช่นนั้น ทำให้กินข้าวเปลือกได้มากอยู่มาวันหนึ่ง ถึงเวลาต้อนวัวเข้าคอก แดงหายไป แดงเป็นลูกวัวที่ดีมาก มันไม่ซุกซนเหมือนเผือกหรือแต้ม...ที่มันหายไปนี่ ทำให้จวนตกใจมาก เขาเที่ยวค้นทั่วทุกแห่ง ที่ยุ้งข้าว และตามท้องนา แต่ไม่พบเขาคิดว่าคงมีใครขโมยแดงไปเสียแล้วฉะนั้นตาเจียมจึงออกติดตามไปทางหนึ่ง ส่วนลูกชายของแกแยกไปอีกทางหนึ่ง สองคนพ่อลูกติดตามแดงจนเหนื่อย ก็ไม่ได้ร่องรอย เผือกและแต้มไม่คิดถึงเพื่อนของมันเลย มันคงวิ่งเล่นตามธรรมดาครั้นกลับเข้าคอก มันกินข้าวเปลือกแล้วก็ไปนอน เด็กชายจวนอยากให้ลูกวัวทั้งสองพูดได้เขาจะได้ถามมันว่า “แดงหายไปไหน”ครั้นเวลาโพล้เพล้ เด็กชายจวน ...เดินผ่านกองฟาง เขาเห็นกองฟางไหวไปมา สักครู่หนึ่งก็เห็นจมูกวัว แล้วก็เห็นหัว “เห็นขา นั่นแน่ๆ แดงนั่นเอง”แดงลุกขึ้นยืนร้อง “มอ มอ” คล้ายจะบ่นว่า “มาไล่ฉันอีกล่ะซี” แล้วสะบัดฟางออกจากตัวเขาไม่ได้ทำโทษมันเลย เอาข้าวเปลือกให้มันกิน แล้วก็จูงไปเข้าคอก เผือกและแต้มเห็นเพื่อนกลับมา ต่างก็เอาข้างเข้าไปสี แสดงความดีใจนิทานเรื่องนี้ ผมได้รสภาษาใหม่ สีข้างเข้าถู เป็นการแสดงความดีใจ ไม่ใช่การพูดโกหกพกลม เอาตัวรอดไปวันๆอย่างที่ใช้กันผมชอบมากตอนลูกวัวสามตัวแม้ดื้อ แต่ก็ยอมกลับเข้าคอก เพราะมันรู้ว่ามีรางข้าวเปลือกสามราง ตั้งรอไว้ให้กินเสมอ และมันรู้ว่า ถ้าวิ่งมากๆเช่นนั้น ทำให้มันกินข้าวเปลือกได้มากนิทานเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า ปัญหาของรัฐบาลไม่หนักหนา ก็แค่ หารางข้าวเปลือกไว้ให้เต็มราง ลูกวัวตัวดื้อ ก็แค่พยศสนุกๆเรียกน้ำย่อยเท่านั้น ถึงเวลาก็กลับมากินการเลี้ยงลูกวัว...ไม่ยาก เท่ากับเอาลูกเสือลูกจระเข้ วุ่นกันทุกวันนี้ ก็เพราะเสือจระเข้นี่แหละ.กิเลน ประลองเชิง