(ภาพ : อาคารศูนย์บริบาลผู้สูงอายุ จ.สงขลา บริการผู้สูงอายุแบบครบวงจร ดูแลผู้สูงอายุ ทั้งร่างกายและจิตใจ ภายในสวนประวัติศาสตร์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อ.เมือง จ.สงขลา)ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุ” จากข้อมูลประชากรปี 2556 ประชากรไทยมีจำนวน 64.6 ล้านคน เป็นผู้สูงอายุมากถึง 9.6 ล้านคน คาดว่าในปี 2573 จะมีจำนวนผู้สูงอายุ 17.6 ล้านคน (ร้อยละ 26.3) และปี 2583 จะมีจำนวนถึง 20.5 ล้านคน (ร้อยละ 32.1)ด้วยเหตุนี้ทำให้หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ร่วมกันดำเนินงานเพื่อคุ้มครอง ส่งเสริม และสนับสนุนสถานภาพ บทบาท และกิจกรรมของผู้สูงอายุ พระสงฆ์ทำพิธีเจิมป้าย “ศูนย์บริบาลผู้สูงอายุ จ.สงขลา” อ.เมือง จ.สงขลา เพื่อความเป็นสิริมงคล ในพิธีเปิดบริการแก่ผู้สูงอายุแบบบูรณาการ.เพื่อให้ผู้สูงอายุมีความเป็นอยู่ที่ดี ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว หรือถูกทอดทิ้งจากลูกหลาน ไม่ให้เกิดความรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า เป็นภาระของลูกหลานและสังคมนอกจากหน่วยงานในระดับประเทศที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้หน่วยงานในระดับท้องถิ่นก็ถือว่ามีบทบาทสูง เนื่องจากมีความใกล้ชิดกับชุมชนและประชาชนโดยตรงองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สงขลา เป็นอีกหนึ่งหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้หันมาเอาจริงเอาจังกับเรื่องผู้สูงอายุเมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา นายนิพนธ์ บุญญามณี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ได้เป็นประธานในพิธีเปิด ศูนย์บริบาลผู้สูงอายุ จ.สงขลา ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 15 ไร่ ภายในสวนประวัติศาสตร์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อ.เมืองสงขลา บรรยากาศภายในบริเวณศูนย์ฯ มีการปลูกต้นไม้ร่มรื่นและตบแต่งอย่างสวยงาม. ประตูทางเข้าศูนย์บริบาลผู้สูงอายุ จ.สงขลา ได้รับการตบแต่งด้วยดอกไม้อย่างสวยงาม ประทับใจแก่ผู้สูงอายุและผู้ที่ไปเยือนได้ชื่นชมความสวยงามธรรมชาติ.มีคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ผู้สูงอายุในพื้นที่จังหวัดสงขลา อสม. ผู้ดูแลผู้สูงอายุ สมาคมเครือข่ายสุขภาพผู้สูงอายุ กลุ่มองค์กรสตรี หน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนประชาชนทั่วไป เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมากนายนิพนธ์ กล่าวว่า การเปิดงานมหกรรมสุขภาพเพื่อผู้สูงอายุ “สูงวัยใส่ใจสุขภาพ” ปี 2562 และพิธีเปิดศูนย์บริบาลผู้สูงอายุ ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาได้กำหนดยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตชัดเจน เพื่อมุ่งหวังให้คุณภาพชีวิตของประชาชนจังหวัดสงขลามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยความร่วมมือและบูรณาการร่วมกับส่วนราชการและหน่วยงานต่างๆ ที่มีภารกิจในด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ซึ่งได้พัฒนาองค์ความรู้ และพัฒนาศักยภาพให้มีบทบาทและหน้าที่ที่เพิ่มขึ้น ภาพถ่ายจากมุมสูงศูนย์บริบาลผู้สูงอายุ ด้านหน้าจะมองเห็นท้องทะเลสวยงาม และบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่บริเวณใกล้เคียง.องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาจึงได้จัดอบรม “อสม.เชี่ยวชาญ” เพื่อให้มีเครือข่ายการดูแลสุขภาพครบทุกหมู่บ้าน รวมทั้งจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพที่จำเป็นต่อสุขภาพจังหวัดสงขลา เพื่อดูแลและจัดสวัสดิการให้กับผู้พิการในจังหวัดสงขลา“สถานการณ์ของผู้สูงอายุในจังหวัดสงขลามีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี ณ ปัจจุบันมีผู้สูงอายุ 219,021 คน หรือร้อยละ 14.7 จึงเตรียมความพร้อมในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ โดยการจัดทำโครงการก่อสร้างศูนย์บริบาลผู้สูงอายุขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2558 เพื่อให้ผู้สูงอายุมีสถานที่ในการทำกิจกรรมต่างๆ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและชุมชน” นายนิพนธ์กล่าวนายนิพนธ์ ยังเปิดเผยอีกว่า ศูนย์แห่งนี้จะเปิดให้บริการแก่ผู้สูงอายุแบบครบวงจร เป็นสถานที่สำหรับดูแลผู้สูงอายุให้มีสุขภาพดีทั้งร่างกายและจิตใจ ลดปัญหาสังคม และรองรับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางสังคมที่มีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น นายนิพนธ์ บุญญามณี นายก อบจ.สงขลา และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมพิธีกดปุ่มเปิดป้ายศูนย์บริบาล ผู้สูงอายุ ภายในสวนประวัติศาสตร์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อ.เมือง จ.สงขลา.การก่อสร้างแบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 วงเงิน 180 ล้านบาท ประกอบด้วย ส่วนอาคารสำนักงานบริหาร ศูนย์ฝึกอบรม หอประชุม, ส่วนศูนย์บริบาลผู้สูงอายุและส่วนดูแลผู้สูงอายุตอนกลางคืน, ส่วนอาคารสนับสนุนและห้องพักระยะที่ 2 วงเงิน 220 ล้านบาท ประกอบด้วย ส่วนอาคารพักพิเศษ, ส่วนอาคารฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพ ซึ่งในขณะนี้ได้ดำเนินการในระยะที่ 1 เสร็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมเปิดให้บริการ พร้อมสนับสนุนงบประมาณใช้จ่ายดูแลผู้สูงอายุประจำปีอีก 26 ล้านบาท ส่วนในระยะที่ 2 จะได้ดำเนินการในคราวต่อไป ผู้สูงอายุมาร่วมร้อยมาลัย ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งที่จัดขึ้นภายในศูนย์บริบาลผู้สูงอายุ จ.สงขลา เพื่อให้ผู้สูงอายุได้ฝึกใช้ศักยภาพของตัวเอง. “ตะกร้าใส่ของ” เป็นหนึ่งในงานฝีมือของผู้สูงอายุที่ผลิตออกมาและนำออกขายเพื่อสร้างรายได้ให้กับตัวเองอีกทางหนึ่ง. ทั้งหมดนี้คือความรับผิดชอบต่อสังคมของหน่วยงานในระดับท้องถิ่น ในการเอาใจใส่ดูแลความทุกข์สุขของประชาชนเชื่อว่าในอนาคตกลุ่มผู้สูงอายุเหล่านี้จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่อไป.สุวิทย์ แก้วห่อทอง