OPPO (ออปโป้) แบรนด์จีนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในตลาดสมาร์ทโฟนประเทศไทย กับจุดแข็งการชาร์จแบตเร็ว ผนวกกับการเน้นคุณสมบัติของการถ่ายรูปซึ่งเป็นจุดสนใจที่สุดของผู้ใช้สมาร์ทโฟนล่าสุด OPPO ได้แนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาด OPPO F 11 Pro เจาะตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลาง ตั้งราคาจำหน่ายที่ 10,990 บาท ซึ่งเป็นตลาดที่มีการแข่งขันรุนแรง หลายๆแบรนด์ได้เปิดตัวไปแล้วก่อนหน้านี้คุณสมบัติเด่นๆของ OPPO F11 Pro แน่นอนว่าเป็นกล้องถ่ายภาพที่พัฒนาขึ้นด้วยกล้องคู่หลัง ความละเอียด 48 ล้าน +5 ล้านพิกเซล ภายใต้แนวคิด “Portrait สวย แม้แสงน้อย”เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ทำงานร่วมกับรูรับแสงกว้าง F/1.79+F2.4 และนำ AI มาช่วยประมวลผลเพื่อให้ได้ภาพถ่ายระดับมืออาชีพ กล้องหน้า Rising Camera ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล F2.0 เทคโนโลยี Tetracell ช่วยตรวจจับแสงและบันทึกรายละเอียดของภาพได้ดีขึ้น โหมด Ultra Night ใช้ AI และลดสัญญาณรบกวนหรือนอยส์ ช่วยปรับความสว่างและขับใบหน้าคนให้เด่นขึ้นจากฉากหลัง ทางด้านแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,000 mAh รองรับเทคโนโลยี VOOC Flash Charge 3.0 ทำให้การชาร์จแบตเร็วขึ้นถึง 20% จอสมาร์ทโฟนเป็นแบบ Panoramic ขนาด 6.5 นิ้ว Full HD อัตราส่วนต่อหน้าจอ 90.9% ไม่มีรอยติ่งมากีดขวาง โดยกล้องหน้าแก้ปัญหาด้วยการเลื่อนขึ้นเลื่อนลงอัตโนมัติ ตัวเครื่องดีไซน์ไล่เฉดสี 2 สี 2 สไตล์กับสีดำ Thunder Black และ สีเขียว Aurora Greenระบบปฏิบัติการ Color OS 6 รุ่นล่าสุดบน Android 9.0 พร้อมโหมด Smart Riding ระบบนำทางด้วยท่าทางแบบกวาดนิ้วขึ้น ผู้ช่วยอัจฉริยะ และบริการคลาวด์ ชิป MediaTek P70 RAM 6 ROM 64 ทาง OPPO ได้จัดส่งสมาร์ทโฟน OPPO F 11 Pro สีเขียวมาให้ทดสอบจากการใช้มา 2 สัปดาห์ มองว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจแบรนด์หนึ่งเริ่มจากการดีไซน์ตัวเครื่องเป็นดีไซน์ใหม่ขอบจอบาง ตัวเครื่องด้านสีสวยงาม ไล่เฉดสีแบบสองสี สีน้ำเงินและสีเขียว ปลดล็อกด้วยการสแกนนิ้วด้านหลังจอได้รวดเร็วสำหรับคนที่รักการถ่ายภาพต้องชอบเพราะทาง OPPO มี AI ช่วยได้จะคำนวณให้เลยว่าต้องการถ่ายรูปอะไร บุคคล อาหาร หรือวิว เป็นต้น ถ่ายเสร็จออกมาใช้ได้แทบไม่มีความจำเป็นต้องใช้แอปพลิเคชันแต่งภาพ ทดลองถ่ายภาพในร้านอาหารที่มีแสงน้อย โหมด Ultra Night ช่วยได้มาก ภาพมีความคมชัดให้สีสันดูแล้วเหมือนกับถ่ายภาพจากกล้อง DSLRเมื่อนำไปถ่ายข้างนอกในสภาวะแสงน้อยอีกรูปแบบหนึ่ง ให้ภาพสว่างขึ้น แต่ก็มีสัญญาณรบกวนหรือนอยส์บ้าง ขณะที่การถ่ายภาพย้อนแสงทำได้ดีทีเดียว ส่วนการถ่ายภาพเซลฟี่นี่เป็นอีกจุดขายถ่ายออกมาได้เนียนดี ถ้าไม่พอใจยังมีโหมด “บิวตี้” ให้ปรับแต่งแบบละเอียดยิบตั้งแต่หน้าผอม ขยายดวงตา ขจัดรอยด่างดำ ฟันขาวหรือไม่ก็ให้ระบบช่วยแต่งให้แบบอัตโนมัติ 6 รูปแบบ อีกจุดเด่นที่ OPPO ไม่ได้หยิบยกมาพูดถึงก็คือกล้องหน้าที่เป็นแบบป๊อปอัปเลื่อนขึ้นเลื่อนลงอัตโนมัติเวลาจะถ่ายเซลฟี่ มีระบบเซฟตี้หากตอนใช้งานแล้วพลาดทำหล่นพื้นตัวกล้องจะถูกเลื่อนเก็บลงแบบออโต้ และถามกลับมาว่าจะให้กล้องกลับมาทำงานต่อไหม นับว่าเป็นการตรวจจับที่ค่อนข้างฉลาดการใช้งานวิดีโอ รองรับเฉพาะการถ่าย 720p กับ 1080p ไม่รองรับ 4K ด้านการใช้งานมัลติมีเดียดูวิดีโอได้เต็มจอ แต่ลำโพงให้เสียงกลางๆ ขณะที่สเปกให้มา RAM 6 และ ROM 64 ถือว่าให้มาน้อยไปเมื่อเทียบกับคู่แข่ง แต่เมื่อย้อนกลับไปดูที่ผู้บริหารค่ายนี้บอกว่า แข่งกันที่กล้อง ชาร์จเร็วแค่นี้พอ การเพิ่มแรมไม่ใช่สิ่งที่นำไปแข่งขันกันได้บทสรุป เป็นอีกแบรนด์ที่น่าสนใจในตลาดระดับกลางๆ ที่หลายค่ายโปรโมตหนักหน่วงในขณะนี้!!