อัตราแลกเปลี่ยนเงินพม่าในเดือนธันวาคม พ.ศ.2561 เงินไทย 1 บาท แลกเงินพม่าได้ราว 46 จ๊าดก่อนเยือนเมือง “เมืองทวาย” ประเทศพม่าตอนใต้ คนไทยไม่จำเป็นต้องแลกเงินจ๊าดแต่อย่างใด เพราะตลอดเส้นทางตั้งแต่ด่านพุน้ำร้อนไปจนถึงตัวเมืองทวาย ใช้เงินบาทได้ทุกแห่งการเดินทางไปทวายในปัจจุบัน แม้จะสะดวกสบายกว่า พ.ศ.อื่นๆ เนื่องจากบริษัทเชื้อสายไทยได้ทำถนนเชื่อมบ้านพุน้ำร้อน-ทวาย ระยะทางประมาณ 163 กม. แต่ก็ยังต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชม. เนื่องจากทางไม่มีการซ่อมบำรุง ทำให้สภาพทรุดโทรมไปตามกาลเวลา“เส้นทางนี้ ไทยสร้าง พม่าใช้ กะเหรี่ยงเก็บเงิน” เสียงกระซิบแว่วมาเนืองๆ ระหว่างเตรียมตัวข้ามชายแดนด่านพุน้ำร้อน อ.เมือง จังหวัดกาญจนบุรี ด่านแห่งนี้เปิดขึ้นมาเนื่องจากคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ.2555 อาศัยอำนาจตามมาตรา 11 และมาตรา 23 ของ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยโดยนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ดังนั้น จึงให้ประกาศเปิดจุดผ่านแดนถาวรพุน้ำร้อน หมู่ที่ 12 ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ.2556 เป็นต้นมา ผศ.ฟ้อนสภาพเส้นทางเดือนธันวาคม 2561 ส่วนใหญ่ยังเป็นดินฝุ่น บางช่วงรถต้องโขยกเขยกไต่ไปตามชายเขา แล่นเลาะแม่น้ำตะนาวศรีไป หากฝนตกก็เป็นอันว่าต้องหยุด เพราะรถมีสิทธิ์ลื่นไถลลงไปในแม่น้ำได้ระหว่างทางยังคงมีด่านเรียกตรวจและเก็บเงินจากนักท่องเที่ยวเหมือนเดิม คณะนักท่องเที่ยวที่ซื้อบริการทัวร์ไม่จำเป็นต้องจ่าย เพราะเจ้าหน้าที่ทัวร์เป็นผู้จัดการให้ทุกอย่าง และคิดรวมไปกับราคาทัวร์เรียบร้อยแล้ว สำหรับคนที่ขับรถไปเอง ถ้าไม่เก่งภาษาและไม่มีเจ้าหน้าที่ไปด้วยน่าจะยุ่งยากไม่น้อยระหว่างทางนอกจากพบด่านแล้ว ยังพบแหล่งร่อนทองของชาวบ้าน แต่ละวันชาวบ้านลงไปร่อนทองในแม่น้ำตะนาวศรี รายได้แม้จะไม่เป็นกอบเป็นกำ แต่ก็ต้องจ่ายค่าดูแลในอัตราที่ผู้ดูแลกำหนด เรียกว่าทำมาหากินร่วมกันไปเมืองทวายมีอัตลักษณ์ของตนเอง ชาวทวายไม่น้อยยืนยันว่า ตนเองเป็นชาวทวายไม่ได้เป็นชาวพม่า เดิมเป็นเมืองท่าขนาดใหญ่ สมัยทวารวดีเคยรุ่งเรืองร่วมสมัยกับเมืองโบราณอู่ทอง นครปฐม และเมืองโบราณยุคทวารวดีอื่นๆสำหรับรอยสยามในทวายอยู่ในย่านที่เรียกว่า “สยามปิน” และยังมี “วัดโยเดีย” ในตัวเมืองคนไทยเก่าแก่ในเมืองทวายนั้น ไม่เหลือร่องรอยอะไรให้เห็นมากนัก ที่พอเห็นอยู่มีเพียงเจดีย์ย่อมุมแปดเหลี่ยม อันเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของเจดีย์ไทยช่วงรอยต่ออยุธยากับกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ความเป็นมาของสยามในทวายในพงศาวดารปี พ.ศ.2112 พม่ายึดกรุงศรีอยุธยาได้ และต่อมาปี พ.ศ.2310 ก็เข้ามายึดได้อีกครั้ง พม่าได้กวาดต้อนผู้คนไปอยู่เมืองต่างๆ อาทิ สะกาย ย่างกุ้ง อังวะ และทวาย เป็นต้น หลังสยามยึดอำนาจคืนมาได้ โดยเฉพาะในต้นกรุงรัตนโกสินทร์มุ่งตีเมืองทวายคืน แต่ช่วงนั้นกระแสลมจากตะวันตกร้อนแรง อังกฤษนักล่าอาณานิคมเข้ามาและยึดพม่าได้ ในที่สุดสร้อยสัมพันธ์ระหว่างสยามกับทวายก็ห่างเหินกันไปอย่างยาวนาน เพิ่งมาอยู่ในความสนใจของไทยอีกครั้ง เมื่อมีโครงการท่าเรือน้ำลึกทวายรอยวัฒนธรรมที่ร่วมกันระหว่างทวายกับสยาม หากย้อนไปในอดีตกาลแล้วพบว่าเมืองทวายมีเมืองชื่อธาการา ลักษณะโครงสร้างมีคูน้ำคันดินล้อมรอบ คล้ายๆกับเมืองโบราณอู่ทอง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี และเมืองโบราณคูบัว จังหวัดราชบุรี เรื่องนี้นักวิชาการชาวทวายบอกว่า เมืองธาการา เป็นเมืองสมัยทวารวดีคณะสำรวจจากมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี นำโดย ผศ.ฟ้อน เปรมพันธุ์ ได้เข้าไปดูซากเมืองเก่าธาการา ซากอาคารเก่าแก่อยู่กลางหมู่บ้าน แสดงว่าชาวบ้านได้สร้างอาคารบ้านเรือนทับโบราณสถานไว้ ซากที่เห็นเป็นอาคารสร้างด้วยอิฐ มีร่องรอยการขุดค้นแล้วปล่อยทิ้งร้างไว้นานแล้ว เห็นได้จากหญ้าขึ้นรกร้าง และยังมีคูน้ำ คันดิน อยู่ริมหมู่บ้าน อาณาบริเวณเมืองเก่านั้น เจ้าหน้าที่รัฐได้นำหลักเอาไปปักไว้ แสดงให้รู้ว่าเป็นแหล่งโบราณสถาน อูลาฉเวนั่นเป็นเรื่องอดีต ปัจจุบันทวายกำลังก้าวสู่ยุคใหม่ ท่ามกลางกระแสอนุรักษ์ และอารยธรรมเก่าที่ยังคงฝังรากลึก เรื่องราวเหล่านั้นสะท้อนออกมาในรูปแบบของศิลปะแขนงต่างๆ อย่างศิลปิน อูลา ฉเว (Uhla shwe) ศิลปินวาดภาพชื่อดังระดับประเทศ อยู่บ้านเลขที่ 11/56 หมู่บ้านโอลกปลัง กลางเมืองทวาย ท่านเชี่ยวชาญวาดสีน้ำมันบนผืนผ้าใบ วันคณะเราเยือนมีภาพชายหาด รูปชาวประมง และเรือจอดชายหาด ท่านบอกว่าสาเหตุที่วาดภาพเหล่านี้ เพราะชอบทิวทัศน์ของเมืองความรู้ทางศิลปะ ไม่ได้เรียนจากสถาบันใดๆ แต่เรียนมาจากครูในกรุงย่างกุ้ง ทำงานวาดรูปมากว่า 50 ปี ราคาภาพเคยขายได้ภาพละ 150 ดอลลาร์ แต่ส่วนใหญ่ขายให้กับชาวพม่าในราคา 25,000 จ๊าด กว่าจะวาดได้สักภาพ และกว่าจะขายได้สักภาพพอเลี้ยงครอบครัวหรือไม่ อย่างไรนั้น ท่านบอกว่า มีร้านขายชาอยู่พอเลี้ยงครอบครัวได้ การวาดภาพ การขายภาพถือเป็นงานอดิเรกเสน่ห์ของทวายในปัจจุบันคือทะเล แม้ท่าเรือน้ำลึกยังค้างคา ไม่รู้ว่าจะเดินต่อไปอย่างไร แต่เสน่ห์ของอาหารทะเลสดๆไม่ว่าจะเป็น กุ้งมังกรตัวโตๆ หอย ปู และปลาทะเลนานาชนิดยังอุดมสมบูรณ์ สินค้าอื่นๆอย่างเครื่องใช้ไฟฟ้าจากไทยเป็นสินค้าที่ต้องการมาก เพราะคุณภาพดี ส่วนโทรศัพท์ที่มีใช้กันเกร่อนั้น มีคำพูดติดตลกของชาวทวายว่า ส่วนใหญ่ซื้อจากประเทศหนึ่งที่ปลอมแปลงสินค้าได้ดี แต่เมื่อนำมาใช้แล้วระหว่างโทร.มีการระเบิดแถมให้ด้วย ระดับอันตรายขึ้นอยู่กับราคาสินค้าที่ซื้อมาใช้สำหรับการเชื่อมโยงระหว่างทวายกับเมืองชายแดนกาญจนบุรี ผศ.ฟ้อน เปรมพันธุ์ ผอ.สำนักศิลปะและวัฒนธรรมกาญจนบุรีบอกว่า มหาวิทยาลัยทวายกับ มรภ.กาญจนบุรีมีโครงการร่วมกันพัฒนาศักยภาพในการเรียนรู้มานานนับ 10 ปี“เดือนธันวาคมนี้ มหาวิทยาลัยทวายมีกำหนดเดินทางเข้ามาเซ็นข้อตกลงแลกเปลี่ยนทางด้านวิชาการ ดูเหมือนทางทวายต้องการให้เราไปช่วยในเรื่องการเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ และทั้งร่วมจัดองค์ความรู้ด้านอื่นๆอย่างเรื่องศิลปวัฒนธรรมเราก็มีโครงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันในอนาคต”นอกจากนั้น “เรามีความมุ่งหวังว่ามหาวิทยาลัยทั้งสองจะมีการแลกเปลี่ยนบุคลากรทางการศึกษาระหว่างกัน มหาวิทยาลัยเรามีโครงการเปิดการเรียนการสอนวิชาภาษาพม่า เพราะว่าจากปัญหาที่ผ่านมา เราไปทวายคนทวายพูดภาษาไทยกับเรา แต่เมื่อคนทวายมาหาเรา เราพูดภาษาพม่าไม่ได้ เราจึงวาดหวังว่าเมื่อเปิดสอนแล้ว จะได้อาจารย์มหาวิทยาลัยมาสอน” สำหรับการเข้าไปศึกษาร่องรอยสยามในทวายครั้งนี้ ผศ.ฟ้อนบอกว่า เราอยากจะมาเรียนรู้และทำข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับทวายไว้เป็นเบื้องต้น ต่อไปเมื่อทวายพัฒนาไปแล้ว เราจะได้รู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างแม้โครงการท่าเรือน้ำลึกจะค้างคา แต่ผู้คนทวายกับไทยไปมาหาสู่กันตลอดกาล สร้อยสัมพันธ์ทางด้านวัฒนธรรมที่ต้องเรียนรู้และเข้าใจกันเป็นเรื่องที่ไม่อาจมองข้ามได้.