ทฤษฎีวิวัฒนาการของชาร์ลส์ ดาร์วิน บ่งชี้ว่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิดควรจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อเร็วๆนี้ กลุ่มนักวิทยาศาสตร์จากสถาบันธรณีวิทยาและบรรพชีวินวิทยาหนานจิง (Nanjing Institute of Geology and Palaeontology -NIGPAS) ของสภาวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีน ที่ได้ศึกษาพืชดอกชนิด แองจิโอสเปิร์ม (Angiosperm) ซึ่งเป็นพืชดอกที่มีระบบท่อลำเลียง และมีดอกเป็นอวัยวะสืบพันธุ์ ส่วนเมล็ดก็มีรังไข่ห่อหุ้ม เผยว่า การวิจัยครั้งใหม่อาจให้คำตอบที่ขัดแย้งกับทฤษฎีของดาร์วินทีมวิจัยเผยว่าพืชดอกชนิดแองจิโอสเปิร์ม มีการเติบโตอย่างรวดเร็วเป็นจำนวนมากเมื่อประมาณ 99 ล้านปีที่แล้ว โดยหลักฐานสำคัญคือซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิล (Fossil) ดอกไม้โบราณชื่อว่า Lijinganthus revoluta ที่ถูกฝังอยู่ในผลึกอำพันสีเหลืองอายุเก่าแก่ราว 99 ล้านปี พบในประเทศพม่า ซึ่งซากฟอสซิลดอกไม้ดังกล่าวมีลักษณะสมบูรณ์ครบถ้วนตามส่วนประกอบของดอกไม้ที่อยู่ในกลุ่มพืชใบเลี้ยงคู่แท้ (Eudicots) นั่นคือมีกลีบเลี้ยง เกสรเพศผู้ กลีบในที่เป็นกลีบชั้นที่อยู่รอบเกสรดอกไม้ และเกสรเพศเมียLijinganthus revoluta เป็นดอกไม้จากยุคครีเตเชียส (Cretaceous) ซากที่สมบูรณ์ของดอกไม้นี้แสดงให้เห็นถึงความคล้ายคลึงกันมากกับดอกไม้ของกลุ่มพืชใบเลี้ยงคู่แท้แกนกลาง (Pentapetalae) ที่เป็นกลุ่มแยกย่อยออกมาจากกลุ่มพืชใบเลี้ยงคู่แท้อีกที ซึ่งการค้นพบนี้จะช่วยเพิ่มข้อมูลใหม่ๆด้านประวัติศาสตร์วิวัฒนาการและนำไปสู่การไขความลับของพืชใบเลี้ยงคู่แท้แกนกลางรวมถึงพืชใบเลี้ยงคู่แท้นั่นเอง.(ภาพ : Lijinganthus revoluta Credit : NIGPAS)