ศิลปินยันไม่มีเบื้องหลัง คนส.ให้รัฐ-หยุดคุกคามคลิปแร็ปเสียดสีระบอบเผด็จการ “ประเทศกูมี” ยอดล้านวิวเป็นเรื่องจนได้ หลัง “ศรีวราห์” รอง ผบ.ตร. สั่งตำรวจ บก.ปอท.ตรวจสอบด่วน เข้าข่ายความผิดหรือไม่ ชี้เอามันอย่างเดียวไม่ได้ จะทำบ้านเมืองเสียหาย ด้านกลุ่ม Rap Against Dictatorship เจ้าของผลงานตอบโต้ ไม่มีเบื้องหลัง ต้องการสะท้อนถึงระบอบปกครองมีทหารเข้ามาเกี่ยว ทำให้ไม่ก้าวหน้า ยินดีให้ความร่วมมือถ้าถูกเรียกสอบ ขณะที่กลุ่มดนตรีแนวพั้งก์ เจ้าของเพจ “จะ 4 ปีแล้วนะไอ้...” เอาด้วยนัดรวมพลต้นเดือน พ.ย. ที่ท่าพระจันทร์ คนส.ออกแถลงการณ์ป้องให้รัฐหยุดคุกคามสิทธิเสรีภาพการแสดงออกของพลเมือง ที่ต้องได้รับการคุ้มครองตาม รธน.ปี 60ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 26 ต.ค. พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผกก.กก.3 บก.ปอท. ในฐานะรองโฆษก บก.ปอท. เปิดเผยถึงกรณีมีการแพร่คลิปเพลงแร็ป “ประเทศกูมี” ที่มีเนื้อหาเสียดสีทางการเมืองอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน รวมทั้งความเหลื่อมล้ำของกฎหมาย กำลังแพร่หลายอยู่ในโลกโซเชียล ว่า พ.ต.อ.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รรท.ผบก.ปอท. สั่งการให้ฝ่ายสอบสวนประชุมพิจารณาว่าเข้าข่ายข้อกฎหมายใดและให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบว่าผู้ปรากฏในคลิปเป็นใคร เพราะว่าเนื้อหาค่อนข้างให้ร้ายประเทศไทย ทำให้เสียหายอยู่หลายเรื่อง เบื้องต้นจากการตรวจสอบน่าจะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14 (2) ที่ระบุว่า ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน“ส่วนที่กลุ่มศิลปินหรือผู้เกี่ยวข้องชี้แจงว่าเนื้อหาของเพลงเป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว ไม่ได้พาดพิงถึงบุคคลใด ถือเป็นสิทธิที่จะโต้แย้งได้ แต่เจ้าหน้าที่ยังคงต้องรวบรวมพยานหลักฐานว่าผิดหรือไม่ต่อไป หากพิจารณาแล้วเข้าข่ายความผิดและมีบุคคลที่ได้รับความเสียหายเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ จะต้องเชิญกลุ่ม ศิลปินที่อยู่ในคลิปเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อประกอบการพิจารณา ส่วนกรอบระยะเวลาดำเนินการเรื่องนี้จะต้องดำเนินการอย่างเร็วที่สุด เพราะความหมายในเนื้อเพลงอาจกระทบกระเทือนกับเศรษฐกิจ อาจทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น” พ.ต.อ.ศิริวัฒน์กล่าวพ.ต.อ.ศิริวัฒน์ยังเปิดเผยอีกว่า ภาพที่ปรากฏในมิวสิกวิดีโอบางส่วนคล้ายกับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ในอดีต มีการจำลองหุ่นแขวนอยู่บนต้นไม้และมีกลุ่มคนคอยเชียร์ให้คนในคลิปนำเก้าอี้ฟาดหุ่น อาจเข้าข่ายเรื่องการก่อความรุนแรงหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถระบุได้ แต่จากภาพรวม อาจเข้าข่ายความผิดใน พ.ร.บ.คอมฯ ส่วนกรณีผู้ที่แชร์ส่งต่ออาจเข้าข่ายความผิดตาม ม. 14 (5) มีโทษอัตราเดียวกันกับผู้โพสต์ คือจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาทรายงานข่าวแจ้งว่ามิวสิกวิดีโอเพลงดังกล่าวเผยแพร่ตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 ต.ค. พบมียอดผู้เข้าชมหรือยอดวิวรวมกว่า 1 ล้านครั้ง โดยมีผู้แสดงความคิดเห็นจำนวนมาก โดยหนึ่งในนั้นมีผู้ใช้ที่ใช้ชื่อว่า “พรรคอนาคตใหม่” เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า “ขอคารวะในจิตวิญญาณนักสู้...”ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงเรื่องนี้ว่าเท่าที่ดูจากคลิปยังก้ำกึ่งอยู่ ต้องให้ตำรวจ บก.ปอท.ตรวจสอบอีกครั้ง เนื้อหาเข้าข่ายขัดคำสั่ง คสช. หรือไม่ ส่วนผู้ที่อยู่ในคลิปจะต้องเชิญตัวมาให้ปากคำ มีเจตนาที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายหรือขัดคำสั่ง คสช. ด้วยหรือไม่ เตือนคนทำเพลง อย่าทำอะไรที่มันสุ่มเสี่ยงต่อกฎหมายบ้านเมือง เพราะไม่เป็นผลดีกับตัวเองและครอบครัว หากผิดกฎหมายที่ทำเนียบรัฐบาล นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า รัฐบาลรู้สึกเสียใจในเรื่องนี้ คิดว่าเยาวชนน่าจะใช้ความสามารถด้านดนตรีในทางที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ไม่อยากให้คิดว่าทำแบบนี้แล้วเท่ ไม่แน่ใจว่าผู้ทำเพราะความตั้งใจของตัวเอง หรือมีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ฝากเตือนแม้เนื้อหาส่อไปในทางต่อว่ารัฐบาล แต่สุดท้ายที่เสียหายมากสุดคือประเทศชาติ เพราะมีการเผยแพร่ไปทั่วโลก คนทำอาจสนุกสนานใช้ข้อมูลตอบโต้หรือว่า กล่าวรัฐบาล แต่สุดท้ายคนที่เสียหายมากที่สุดคือประเทศไทย ขณะนี้มีหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ติดตามเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่รัฐบาลรู้สึกเสียใจ ไม่อยากให้เยาวชนทำร้ายประเทศไทยอีกแล้ว ทั้งนี้ การเผยแพร่คลิปต่างๆ สามารถไปได้หลายทาง แม้จะปิดต้นตอก็ยังสามารถแชร์ต่อได้ การควบคุมจึงไม่ใช่เรื่องง่าย จากการตรวจสอบเชิงเทคนิค ทำให้รู้ได้ว่าคลิปมีที่มาจากแหล่งใดอีกด้าน 1 ในสมาชิกกลุ่ม Rap Against Dictatorship ในฐานะที่เป็นผู้ร่วมแต่งท่อนแร็ป “ประเทศกูมี” ปัจจุบันมียอดวิวกว่า 1 ล้านวิว ให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้าแต่งเพลงนี้ได้พูดคุยกันก่อนแล้ว เนื้อหาเพลงจึงสะท้อนมาจากเหตุในอดีตที่ผ่านมา ในประเด็นการเมืองไทย มีทหารเข้ามาเกี่ยวข้องจนทำให้ประเทศไม่ก้าวหน้า ในฐานะคนรุ่นใหม่จึงอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง ยืนยันจุดประสงค์ไม่ได้ต้องการโจมตีประเทศ แต่ต้องการโจมตีระบอบเผด็จการ คาดไว้แล้วว่าจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ แต่ก็เห็นเป็นเรื่องที่ดีเพราะเสียงวิพากษ์วิจารณ์คือการตื่นตัว ทั้งนี้ ทางกลุ่มต้องขอบคุณสังคมให้การตอบรับ คาดอนาคตจะมีเพลงที่ 2 และ 3 ตามออกมา ส่วนกรณีตำรวจจะเชิญไปสอบ ก็พร้อมให้ความร่วมมือหากเนื้อหาเพลงเข้าข่ายผิดกฎหมาย แต่ขอให้ดูด้วยว่าเนื้อหาเพลงทั้งหมดล้วนเป็นเหตุที่เกิดขึ้นและถูกวิจารณ์ในสังคมมาตลอดอยู่แล้ว แค่นำมาร้อยเป็นเพลงแร็ปเท่านั้นมีรายงานด้วยว่า หลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เนื้อหาเพลงแร็ป ของกลุ่ม Rap Against Dictator-ship ได้มีกลุ่มนักดนตรีแนวพั้งก์ เสียดสีการเมือง ที่รวมตัวกัน 6 วง ตั้งเพจเฟซบุ๊กชื่อ “จะ 4 ปีแล้วนะไอ้...” ออกแถลงการณ์ระบุก่อนหน้านี้ทางกลุ่มเคยเปิดคอนเสิร์ตมา 2 ครั้ง แต่ถูกตำรวจจับไปทำประวัติทั้งวง พร้อมระงับการจัดคอนเสิร์ต ต้นเหตุของเรื่องทุกอย่างไม่ใช่ความผิดของใคร ผู้ร้ายตัวจริงคือระบบเฮงซวยที่ปล่อยให้เผด็จการยึดอำนาจมาถึง 4 ปี ขอให้สหายทุกท่านเตรียมตัวให้พร้อม เราจะทำให้ประเทศนี้รู้ว่า ดนตรีพั้งก์ก็สามารถสร้างประวัติศาสตร์ทางการเมืองได้ มาแสดงพลัง 3 พ.ย.นี้ ที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ขณะที่นายธีระวัฒน์ รุจินธรรม ผู้กำกับชื่อดัง ทำหน้าที่กำกับภาพในคลิปวิดีโอเพลง “ประเทศกูมี” เผยว่า เหตุที่ใช้เหตุการณ์ 6 ตุลา 19 มาเป็นฉาก เพราะแสดงถึงความเป็นจริงของประเทศที่มีบทเรียนอย่างยาวนาน แต่กลับไม่มีใครคิดถอดบทเรียน ประกอบเพลงนี้มีเนื้อหาทางการเมืองค่อนข้างแรงจึงเหมาะสมกัน ทั้งหมดเป็นความร่วมมือของเพื่อนพี่น้องในวงการบันเทิง หากตำรวจจะเชิญตัวผู้เกี่ยวข้อง ทั้งหมดมาตรวจสอบนั้นก็ยินดี เพราะไม่มีสิทธิปฏิเสธอยู่แล้ว ส่วนประเด็นที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า อาจมีบุคคลอยู่เบื้องหลังนั้น ยืนยันไม่มีแน่นอน ทั้งหมดร่วมกันทำโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งใจสะท้อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระบอบเผด็จการออกมาเป็นบทเพลงแร็ปเท่านั้นวันเดียวกัน เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง (คนส.) นำโดยนายอนุสรณ์ อุณโณ คณบดีคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกแถลงการณ์ “การคุกคามสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของพลเมือง กรณีกลุ่มศิลปิน Rap Against Dictatorship” ใจความสรุปว่า ตามที่มีข่าว พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. จะเรียกกลุ่มศิลปินแร็ปเข้าพบพนักงานสอบสวนบก.ปอท. เพื่อตรวจสอบว่าเพลงดังกล่าวเนื้อหาเข้าข่ายขัดคำสั่ง คสช.หรือไม่ และมีเจตนาที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายหรือไม่ รวมถึงการห้ามแชร์คลิปเพลงดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงการไม่ยอมรับในหลักการสิทธิและเสรีภาพ การแสดงความคิดเห็นของประชาชน ที่ได้รับการคุ้มครองตาม รธน. ปี 60 ทั้งนี้ คนส.เห็นว่าการสื่อสารของศิลปินกลุ่มนี้เป็นการใช้ศิลปะกระตุ้นความรู้สึกนึกคิด ตามหน้าที่ของศิลปินในอารยประเทศ ประเด็นที่หยิบยกขึ้นล้วนเป็นประเด็นที่สังคมติดตามให้ความสนใจ คนส. ขอเรียกร้องให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ และเจ้าหน้าที่ ผู้เกี่ยวข้องยุติการข่มขู่ คุกคาม หรือพยายามเรียกตัวกลุ่มศิลปินเข้าให้ปากคำ ตลอดจนการคุกคามในรูปแบบอื่นๆ พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติตามกฎหมาย โดยเฉพาะบทบัญญัติใน รธน.ปี 60 ที่คุ้มครองสิทธิเสรีภาพการแสดงความเห็น ทั้งนี้ คนส.จะร่วมกับภาคส่วนต่างๆปกป้องสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกของศิลปินกลุ่มนี้ ทั้งในแง่ของกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและการเคลื่อนไหวอย่างถึงที่สุด