ต้นสัปดาห์มีดีเปรสชันพัดเข้าไทย แม้จะมีน้ำไหลเข้าเขื่อนเพิ่มขึ้น แต่ยังมีเขื่อนขนาดใหญ่อีก 8 แห่ง จากทั้งหมด 35 แห่ง มีน้ำน้อยกว่า 60%...โดยเฉพาะเขื่อนกระเสียว อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ขณะนี้มีปริมาณน้ำให้ใช้การได้แค่ 30%ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน คาดว่า หลังจากสิ้นฤดูฝน วันที่ 1 พ.ย.2561 วันเริ่มต้นส่งน้ำตามแผนการจัดสรรน้ำฤดูแล้ง เขื่อนกระเสียว น่าจะมีน้ำใช้การเหลืออยู่ 22% ใกล้เคียงปี 2558/59 แต่ในปีนั้นสามารถบริหารจัดการน้ำให้รอดพ้นวิกฤติได้ เพราะการมีส่วนร่วมของประชาชนภายใต้คณะกรรมการจัดการชลประทานเขื่อนกระเสียว หรือคณะกรรมการ JMC ที่มีทุกภาคส่วนร่วมเป็นคณะกรรมการคณะกรรมการ JMC เขื่อนกระเสียวมีความเข้มแข็งมาก สามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนได้รับรางวัลมากมายทั้งในระดับประเทศ และระดับโลกจากองค์การสหประชาชาติแผนการจัดสรรน้ำในช่วงฤดูแล้งนี้ (พ.ย.61-เม.ย.62) เขื่อนกระเสียวมีแผนจะจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค 2 ล้าน ลบ.ม. รักษาระบบนิเวศ 9 ล้าน ลบ.ม. อุตสาหกรรม 1 ล้าน ลบ.ม. และจัดสรรเพื่อการเกษตร เฉพาะอ้อยและพืชต่อเนื่อง (ข้าวนาปีที่ยังไม่เก็บเกี่ยว) 30 ล้าน ลบ.ม. รวมเป็น 42 ล้าน ลบ.ม. ส่วนที่เหลืออีก 16 ล้าน ลบ.ม. จะสำรองไว้ใช้ในช่วงต้นฤดูฝนปี 2562อย่างไรก็ตาม แผนดังกล่าว คณะกรรมการ JMC จะพิจารณาตามความเหมาะสมและสถานการณ์จริงอีกครั้ง จากนั้นจะมีการควบคุมการใช้น้ำอย่างรัดกุมเคร่งครัดไม่ให้มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยปริมาณน้ำที่มีอยู่จะเพียงพอสำหรับใช้ในการอุปโภคบริโภค และรักษาระบบนิเวศ อย่างแน่นอนส่วนการทำนาปรังจะต้องงดทั้งหมด ซึ่งกรมชลประทานมีมาตรการจ้างแรงงานเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้ แต่หากมีฝนตกจนน้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% คณะกรรมการ JMC จะมีการพิจารณาให้ทำนาปรังหรือปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยได้ตามความเหมาะสมและจากความสำเร็จในการบริหารจัดการน้ำของคณะกรรมการ JMC เขื่อนกระเสียว กรมชลประทานจะนำรูปแบบนี้ไปขยายผลใช้กับเขื่อนน้ำน้อยที่เหลืออยู่อีก 7 แห่ง ให้สามารถผ่านพ้นวิกฤติไปได้.สะ–เล–เต