ประกาศเสียงดังฟังชัดเป็นของขวัญวันเกิดครบรอบ 54 ปี ว่าจะรีไทร์จากการเป็นซีอีโออาลีบาบา ในอีก 1 ปีข้างหน้า เพราะไม่อยากตายคาออฟฟิศ แต่ขอตายอย่างสงบบนชายหาดดีกว่า คนอย่าง “แจ็ค หม่า” มักทำอะไรสวนทางชาวโลกเสมอ เขายอมรับว่าไม่มีทางรวยเท่า “บิล เกตส์” แต่สิ่งหนึ่งที่เหนือกว่าเจ้าพ่อไมโครซอฟท์คือ เขาเกษียณอายุได้เร็วกว่าตั้งหลายปี“แจ็ค หม่า” ไม่ใช่คนอวดดี แต่รู้จักตัวเองดีเหลือเชื่อ เขาบอกว่าในชีวิตนี้สิ่งที่เสียใจที่สุดและอยากกลับไปแก้ไขคือ การก่อตั้งอาณาจักรอาลีบาบา กรุ๊ป เมื่อปี 1999 เพราะตั้งแต่นั้นมาก็ต้องแบกความรับผิดชอบ และแรงกดดันมหาศาล ในการบริหารธุรกิจอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีน มูลค่า 420,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พ่วงด้วยชีวิตพนักงานอีก 86,000 คนเจ้าพ่ออาลีบาบายอมรับว่า มันไม่สนุกเลย และไม่ใช่เป้าหมายในชีวิตสักนิด เขาใฝ่ฝันแค่อยากเป็นเถ้าแก่มีธุรกิจเล็กๆเป็นของตัวเอง ไม่ใช่เป็นเจ้าของอาณาจักรธุรกิจใหญ่โตขนาดนี้ ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งหมดให้อาลีบาบา จนไม่เหลือเวลาสำหรับตัวเอง“ถ้าผมเลือกเกิดใหม่ได้ ผมจะไม่ทำธุรกิจใหญ่โตขนาดนี้ ผมอยากมีชีวิตอิสระเป็นตัวของตัวเอง อยากเอนจอยกับชีวิต และกลับไปเป็นครูสอนภาษาอังกฤษจนๆที่ได้เงินเดือน 91 หยวน (13.26 ดอลลาร์สหรัฐฯ) นั่นคือช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดในชีวิต”หลังรีไทร์จากการเป็นซีอีโอ และขึ้นไปนั่งตีขิมเป็นประธานคณะกรรมการบริษัท ส่งไม้ต่อให้ซีอีโอรุ่นใหม่อย่าง “แดเนียล จาง” เข้ามาบริหารแทน “แจ็ค หม่า” ตั้งใจว่าจะกลับไปสอนหนังสืออีกครั้ง และทุ่มเทให้กับการทำงานการกุศล โดยมุ่งพัฒนาด้านการศึกษาเป็นหลักลำพังการบริหารอาลีบาบาให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งท่ามกลางการแข่งขันขับเคี่ยวรุนแรงของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีโลก ก็ว่ายากแล้ว!! แต่ยากยิ่งกว่าและสร้างความปวดหัวมากคือ ต้องวิ่งเต้นคอยเอาใจพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพื่อสร้างสายสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาล จะได้เปิดทางสว่างให้ทำธุรกิจลื่นไหลไร้อุปสรรคหลายปีมานี้ “แจ็ค หม่า” พยายามเข้าไปมีบทบาทอย่างต่อเนื่องในพรรคคอมมิวนิสต์จีน และแสดงจุดยืนต่อสาธารณะสนับสนุนการกวาดล้างคนโกงชาติของรัฐบาลจีน กระนั้นมีการวิเคราะห์จากสื่อบางสำนักว่า เบื้องหลังแท้จริงของการเออร์ลี่รีไทร์ คือต้องการเลี่ยงการตกเป็นเป้าหมั่นไส้ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งกำลังจ้องคุมกำเนิดธุรกิจใหญ่ๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมไฮเทคทั้งหลาย เพื่อป้องกันการผูกขาดความรวยมหาเศรษฐีที่ดินหลายพันล้านอย่าง “เกา เหวินกุย” ซึ่งเคยติดโผรวยที่สุดเป็นอันดับ 73 ของจีน ซาบซึ้งดีถึงพิษสงของรัฐบาลชุดนี้ เพราะเมื่อหลายปีก่อน เขาต้องเผชิญวิบากกรรมถูกเนรเทศออกนอกประเทศด้วยข้อหาคอร์รัปชัน ติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐและฟอกเงิน ชะตากรรมไม่ต่างกันคือ นางเอกสาวร้อยล้านที่มีรายได้มากสุดในจีน “ฟ่าน ปิงปิง” ก็เพิ่งโดนจับเข้าคุกฐานหลบเลี่ยงภาษี และพัวพันคอร์รัปชัน ดับอนาคตในวงการบันเทิงทันทีนี่แค่จุดเริ่มต้นเท่านั้นของมหากาพย์เชือดไก่ให้ลิงดู เพื่อล้มล้างขั้วอำนาจเก่า และเอาใจประชาชน ตามประสานกรู้อย่าง “แจ็ค หม่า” จึงอ่านเกมขาด!! ยอมเก็บกระเป๋าไปซะตอนนี้อาจไม่เจ็บตัว เพราะ “สี จิ้นผิง” เพิ่งแก้รัฐธรรมนูญเปิดทางให้ตัวเองเป็นประธานาธิบดีชั่วนิรันดร์ จากที่เคยจำกัดห้ามผู้นำจีนอยู่ในตำแหน่งเกิน 10 ปี 2 สมัย.มิสแซฟไฟร์