เรื่องคนตาบอดคลำช้าง เล่าแบบนิทาน ผมฟังมาตั้งแต่เด็ก เพิ่งมารู้ในวัยแก่ เมื่ออ่านหนังสือพุทธธรรม ของท่านอาจารย์ พระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตฺโต) เป็นชาดกเรื่องหนึ่งในพระไตรปิฎกสำนวนชาดก ต่างจากสำนวนนิทานแค่ไหน ลองอ่านกันดูสมัยหนึ่ง ในนครสาวัตถี สมณะ พราหมณ์ ปริพาชก จำนวนมากมาย ต่างลัทธิ ต่างทฤษฎี ต่างก็ถือลัทธิทฤษฎีของตนว่า อย่างนี้เท่านั้นจริง อย่างอื่นเท็จทั้งสิ้น แล้วก็เกิดทะเลาะวิวาทใช้หอกคือปากทิ่มแทงกันว่า ธรรมเป็นอย่างนี้ ธรรมไม่ใช่อย่างนี้...ภิกษุทั้งหลายนำความมากราบทูลแด่พระพุทธเจ้า พระองค์จึงตรัสเล่าว่า เรื่องเคยมีมาแล้วราชาพระองค์หนึ่งในนครสาวัตถี ได้ตรัสสั่งให้ราชบุรุษให้ไปนำเอาคนตาบอดแต่กำเนิดทั้งหมดเท่าที่มีในเมืองสาวัตถี มาประชุมกันครั้นแล้ว โปรดให้นำช้างตัวหนึ่ง มาให้คนตาบอดเหล่านั้น ทำความรู้จักราชบุรุษแสดงศีรษะช้างแก่คนตาบอดพวกหนึ่ง บอกว่าช้างอย่างนี้นะ แสดงหูช้างแก่อีกพวกหนึ่ง บอกว่าช้างอย่างนี้นะแสดงงาช้างแก่อีกพวกหนึ่ง แสดงงวงช้าง ตัวช้าง เท้าช้าง หลังช้าง หางช้าง ปลายหางช้าง แก่คนตาบอดทีละพวกๆ ไปจนหมด บอกว่าช้างอย่างนี้นะ ช้างอย่างนี้นะเสร็จแล้วกราบทูลพระราชาว่า คนตาบอดทั้งหมดได้ทำความรู้จักช้างเสร็จเรียบร้อยแล้วครั้งนั้น พระราชาจึงเสด็จมายังที่ประชุมคนตาบอด แล้วตรัสถามว่า “พวกท่านได้เห็นช้างแล้วใช่ไหม?” คนตาบอดก็กราบทูลว่า “ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายได้เห็นแล้วพระเจ้าข้า”พระราชาตรัสถามต่อไปอีกว่า “ที่ท่านทั้งหลายกล่าวว่า ได้เห็นช้างแล้วนั้น ช้างเป็นเช่นไร?”คราวนั้นคนตาบอดที่ได้คลำศีรษะช้าง ก็ว่าช้างเหมือนหม้อ คนที่ได้คลำหูช้าง ก็ว่าช้างเหมือนกระด้ง คนที่ได้คลำงาช้างก็ว่าช้างเหมือนผาล คนที่ได้คลำงวงช้าง ก็ว่าช้างเหมือนงอนไถคนที่ได้คลำตัวช้าง ก็ว่าช้างเหมือนยุ้งข้าว คนที่ได้คลำเท้าช้าง ก็ว่าช้างเหมือนเสา คนที่ได้คลำหลังช้าง ก็ว่าช้างเหมือนครกตำข้าว คนที่ได้คลำหางช้าง ก็ว่าช้างเหมือนสาก คนที่ได้คลำปลายหางช้าง ก็ว่าช้างเหมือนไม้กวาดเสร็จแล้วคนตาบอดเหล่านั้น ก็ได้ทุ่มเถียงกันว่า ช้างเป็นอย่างนี้ ช้างไม่ใช่อย่างนั้น จนถึงชกต่อยชุลมุนกันเป็นเหตุให้พระราชานั้น ทรงสนุกสนานพระทัยมากจบชาดก พระพุทธเจ้าทรงเปล่งอุทานเป็นคาถาความว่า “นี่ละหนอ สมณะและพราหมณ์บางพวก ย่อมมัวติดข้องกันอยู่ในสิ่งที่เป็นทิฏฐิทฤษฎีเหล่านั้นคนทั้งหลายผู้เห็นเพียงส่วนหนึ่ง พากันถือต่างถือแย้ง จึงทะเลาะวิวาทกันช้าง ในความรู้จักของคนตาบอด ทฤษฎี ของคนต่างลัทธิ สมณะ พราหมณ์ และปริพาชก ในความเห็นผม ก็คงเหมือนรัฐธรรมนูญกว่า 20 ฉบับ ของคนไทยถาม อาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ ฉบับของท่าน เลิศเลอเพอร์เฟกต์ เป็นยาวิเศษรักษาโรคประเทศไทยไปได้ถึงยี่สิบปีไปถาม หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กลับได้คำตอบว่า “ต้องฉีกทิ้งสถานเดียว”เมื่อเอารัฐธรรมนูญฉบับที่ว่า ไปให้คนไทยลงประชามติ เรื่องมหัศจรรย์ ก็คือ ในสถานการณ์ ที่เบื่อม็อบหนักหนาตอนนั้น คนไทยก็เอาเรื่องจะมหัศจรรย์ยิ่งกว่า ถ้าเปลี่ยนคำถามว่า จะฉีกทิ้งรัฐธรรมนูญฉบับนี้หรือไม่ เวลาและสถานการณ์ที่เปลี่ยนผ่าน คนไทยที่เบื่อทหาร ก็เอาอีกเหมือนกันเรื่องมหัศจรรย์นี้ เกิดมีกับคนไทย ทั้งๆที่รัฐธรรมนูญกับช้าง ไม่มีอะไรเหมือนกันสักประการเดียว.กิเลน ประลองเชิง