มารับรู้ข้อมูลกันต่อ เรื่องสารเคมีเกษตรจากผู้รู้ที่เป็นกลางในเวทีเสวนา “สนทนาพาราควอต” จัดโดย มูลนิธิวิทยาศาสตร์การเกษตร เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับสังคมข้อสงสัยที่บางฝ่ายออกมานำเสนอ พาราควอตก่อให้เกิดโรคพาร์กินสัน ศ.นพ.นิพนธ์ พวงวรินทร์ ราชบัณฑิตแห่งสำนักงานราชบัณฑิตยสภา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาทและหลอดเลือดสมอง คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ความรู้...ในตำราแพทย์ด้านประสาทวิทยา สารเคมีประเภทยาฆ่าแมลงและยาฆ่าหญ้าเป็นสารมีความเสี่ยงทำให้เกิดโรคพาร์กินสันความหมายทางการแพทย์คือ ต้องเขียนเซฟตี้ทุกอย่างที่มีความเสี่ยง แต่ยังไม่เคยมีรายงานพบพาราควอตทำให้คนเป็นโรคพาร์กินสันเลยสักราย และสถิติผู้ที่เป็นโรคนี้ ไม่มีสักรายเคยทำเกษตรมาก่อนที่สำคัญเป็นข้อมูลเก่าเมื่อ 30 ปีที่แล้ว จากการทดลองในหนูให้ได้รับพาราควอตโดยตรง ผลปรากฏ หนูมีอาการของโรคพาร์กินสัน...แต่หนูไม่มี Blood Brain Barrier หรือตัวกรองกั้นสิ่งแปลกปลอมในเลือดก่อนเข้าสู่สมองเหมือนอย่างมนุษย์ถ้าจะให้ได้ผลชัดเจนต้องทดลองในลิง เพราะมีตัวกรองเหมือนคน...ถ้าลิงเป็น ค่อยมาพูดได้เต็มปาก พาราควอตทำให้เกิดโรคพาร์กินสันฉะนั้นต่อให้พาราควอตเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ได้ ก็เข้าสู่สมองได้ยาก ผู้ได้รับพิษจากพาราควอตทั้งหมดเลยมาจากการกินโดยตรงอย่างเดียว...ไม่เคยมีรายใดได้รับจากการสัมผัส หรือสูดดมสักรายสรุปแล้ว...ปัจจุบันยังไม่มีอะไรพิสูจน์ว่า สารเคมีกลุ่มนี้ทำให้เกิดโรคพาร์กินสันเมื่อความจริงเป็นเช่นนี้ เราคงต้องทบทวนกันแล้วว่า ที่ผ่านมาเรากลัวกันไปเอง หรือเพราะเอ็นจีโอประโคมข่าว ทำให้ผู้บริโภคคล้อยตาม ทั้งที่คนเสพสื่อ คนนำเสนอ ไม่เคยใช้มาก่อนเลยเกลียดกลัวไปโดยไม่รู้ว่า องค์การอนามัยโลกจำแนกสารกำจัดศัตรูพืชและสัตว์ตามระดับความอันตรายเฉียบพลัน พาราควอตถูกจัดอยู่ในกลุ่มสารเคมีอันตรายปานกลาง มีพิษน้อยกว่านิโคตินในบุหรี่เสียอีก...เป็นอีกข้อมูลที่ได้จาก พ.อ.นพ.สุรจิต สุนทรธรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชพิษวิทยา ผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ.สะ-เล-เต