เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ขณะที่ผมนั่งรถกลับบ้านตอน 2 ทุ่มเศษๆเห็นจะได้ พบว่ามีผู้คนจำนวนมาก น่าจะหลายพันคนละครับมานั่งเข้าแถวยาวเหยียดที่หน้าห้างเดอะมอลล์ บางกะปิ บริเวณด้านนอกส่วนใหญ่จะเป็นหนุ่มสาววัยรุ่น และเท่าที่ดูด้วยสายตาจะเป็นผู้ชายเสียมากกว่าผู้หญิงพอกลับถึงบ้าน ผมเปิดอ่านในอินเตอร์เน็ตไปเรื่อยๆ...ในที่สุดก็พบคำตอบว่า ฝูงชนที่มานั่งรอเต็มพรืดหน้าห้างเดอะมอลล์ บางกะปินั้นก็คือสาวกของวงนักร้องวัยรุ่นสาววงหนึ่งที่กำลังโด่งดังเหลือเกินในขณะนี้วง BNK 48 น่ะครับ ตามข่าวว่ารวมตัวก่อตั้งเมื่อปี 2560 นี่เอง ประกอบด้วยสมาชิกที่เป็นเด็กสาวน่ารัก ส่วนใหญ่เรียนมหาวิทยาลัยจำนวน 30 คนเริ่มจากนักธุรกิจบันเทิงไทยเราไปซื้อลิขสิทธิ์มาจากวงเกิร์ลกรุ๊ปของญี่ปุ่น AKB 48 ซึ่งโด่งดังมากที่แดนอาทิตย์อุทัย แล้วนำมาปรับให้เข้ากับรสนิยมคนไทย ก่อนจะปล่อยเพลงและการแสดงออกมาเมื่อประมาณเดือนสิงหาคมปีเดียวกันนั้นเพลงแรกๆไม่ค่อยจะดังเท่าไรนัก แต่ค่ายเพลงน้องใหม่ที่ซื้อลิขสิทธิ์ก็มิได้ย่อท้อ ค่อยๆปล่อยเพลงออกมาเรื่อยๆ พอถึงเพลง “คุกกี้เสี่ยงทาย” เท่านั้นก็ดังเป็นพลุแตกทันทียอดวิวเพลง “คุกกี้เสี่ยงทาย” พุ่งพรวดๆจาก 10 ล้านวิว เป็น 20 ล้านวิว และล่าสุดมาถึง 114 ล้านวิวเข้าไปแล้วในยูทูบสาวๆ BNK48 กลายเป็น “ไอดอล” หรือขวัญใจของหนุ่มๆสาวๆไทยไปในชั่วพริบตา เพราะหลายๆคนมีประวัติเรียนเด่น เต้นดี ร้องดี เป็นดาวมหาวิทยาลัยที่ใครๆก็อยากเอาแบบอย่างทำให้เกิดแฟนคลับที่เขาเรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า “โอตะ” เรือนแสนเรือนหมื่น (เผลอๆอาจจะเรือนล้านแล้วกระมังตอนนี้)ดังนั้น เมื่อมีข่าวว่า ตัวแทนของสาวๆเหล่านี้จะไปจัดงาน BNK 48 Campus Card Handshake หรือ “งานจับมือ BNK 48” ที่ห้างเดอะมอลล์ บางกะปิ บรรดาแฟนคลับ หรือ “โอตะ” นับพันจึงแห่กันไปรอตั้งแต่เย็นจนถึงค่ำแล้วก็ค้างคืนที่หน้าเดอะมอลล์ บางกะปิ เพื่อรอรับบัตรคิว ซึ่งตามข่าวว่าเริ่มแจกตอนตี 5 ของเช้าวันรุ่งขึ้นทำให้ผมนึกถึงความหลังว่า ผมก็เคยไปรอคิวข้ามคืนข้ามวันเหมือนกันที่บริเวณใกล้ๆกับเดอะมอลล์ บางกะปินี่แหละ แต่ช่วงนั้น (30 กว่าปีมาแล้ว) ยังไม่มีเดอะมอลล์ฯ สถานที่ที่ผมไปรอคือ สำนักงานองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย สาขาบางกะปิน่ะครับเขาจะเปิดให้จองโทรศัพท์ประจำบ้าน ผมเพิ่งย้ายไปอยู่บางกะปิใหม่ๆ อยากได้โทรศัพท์สักเครื่องเลยต้องไปเข้าคิวจองข้ามคืนข้ามวัน เพราะเขาบอกว่าจะมีสักประมาณ 500 เลขหมายเท่านั้นยังจำได้ว่าตอนดึกๆของคืนที่ไปรอ ง่วงจนแทบทนไม่ไหว แต่ก็ไม่กล้าหลับ เพราะกลัวคนจะมาแย่งคิว จะลุกไปฉี่ก็กลัวเสียคิวอีก ต้องอดกลั้นทั้งคืน และในที่สุดก็ได้เบอร์โทรศัพท์มาสมใจหมายซึ่งการได้โทรศัพท์มาเครื่องหนึ่งยุคนั้น มีค่าเหมือนได้ทองคำแท่งมาหนึ่งแท่งเลยละครับ เพราะโทรศัพท์เป็นของหายากและขาดแคลนมาก ไม่เหมือนยุคนี้ที่จะซื้อโทรศัพท์กี่เครื่องก็ได้เทียบบัญญัติไตรยางค์กันแล้ว แสดงว่าเสน่ห์ของสาวๆ BNK48 ก็น่าจะมีค่าพอๆกับทองคำแท่งเหมือนกัน ทำให้มีผู้คนนับพันไปเข้าคิวรอข้ามคืนข้ามวันเพื่อจะจับมือกับเธอๆผมก็ขออนุญาตนำมาบันทึกไว้ เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจว่า สังคมไทยเรามี “ไอดอล” ที่หลากหลายจริงๆบ้างชอบนักร้องฝรั่ง บ้างชอบนักร้องเกาหลี นักร้องญี่ปุ่น เป็นติ่งเกาหลี ติ่งญี่ปุ่นจำนวนมาก และมาช่วงนี้ก็หันมาชื่นชอบ BNK 48“นักร้องไทยสไตล์ญี่ปุ่น” ที่แปลเนื้อเพลงทำนองญี่ปุ่นมาเป็นภาษาไทย แต่งตัวคิกขุแบบญี่ปุ่น ยกให้เธอๆทั้งหลายเป็นไอดอลล่าสุดยังดีนะครับ ที่เราเพิ่งจะมีพ่อหมื่นโป๊ปกับแม่หญิงเบลล่าจากละคร “บุพเพสันนิวาส” มาเป็นไอดอลกับเขาด้วย ทำให้คนไทยหันมาแต่งไทย นิยมไทยตามรอยหมื่นโป๊ปกับแม่หญิงเบลล่าดังที่เป็นข่าวขอให้ยึดพ่อหมื่นแม่การะเกดเป็นไอดอลไปนานๆนะครับผมละกลัวว่าพอละครจบ คนไทยจะลืมกระแสไทยกันซะหมด ในที่สุดกระแสเกาหลี กระแสญี่ปุ่น รวมถึงยุโรป อเมริกา จะกลับมาครอบหัวใจคนไทย (หลายๆกลุ่ม) เหมือนเดิม.“ซูม”