“กรุงพนมเปญ” เมืองหลวงของประเทศกัมพูชา และดินแดนแห่งอารยธรรมเก่าแก่ “นครวัด-นครธม” ที่เมืองเสียมราฐ เปลี่ยนโฉมอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญเป็นการเปลี่ยนโฉมอย่างรวดเร็วตั้งแต่สนามบิน ที่เดินหน้าสู่ความทันสมัย สะดวกสบาย ถนนหนทางเริ่มเข้าสู่มาตรฐาน โรงแรมมีทุกระดับให้เลือกพัก สถานบันเทิงเกิดขึ้นราวดอกเห็ด ร้านอาหารตั้งแต่ริมถนน จนถึงระดับภัตตาคารหรูมีให้เลือกชิมมากมายตึกสูงทั้งที่สร้างเสร็จแล้ว และอยู่ระหว่างการก่อสร้างผุดขึ้นให้เห็นทั่วเมือง ถือเป็นความเจริญแบบก้าวกระโดดที่น่าจับตามองสำหรับเพื่อนบ้านของไทย เพราะวิถีชีวิตของชาวกัมพูชาเปลี่ยนไปแบบ 180 องศาทุกวันนี้ชาวกัมพูชาในสายตาชาวต่างประเทศเปลี่ยนไป มีความสุขกับความทันสมัยไล่ตามชาติที่เจริญแล้วมาติดๆ เทคโนโลยีต่างๆมีใช้ครบ ขับรถยนต์หรูกันเกลื่อนเมือง เห็นได้จากโชว์รูมรถขนาดใหญ่มีครบทุกยี่ห้อนายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร อดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ ได้นำ ทีมข่าวไทยรัฐ ไปเยี่ยม นายปัญญารักษ์ พูลทรัพย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ คนใหม่ ที่ทำเนียบทูต จึงมีโอกาสฟังบรรยายสรุปการพัฒนาของกัมพูชา กรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชา มีการพัฒนาความเจริญก้าวไกล ทั้งอาคารบ้านเรือนและตึกสูงสวยงาม ตลอดจนถนนและเส้นทางคมนาคม เชื่อมความเจริญที่ขยายออกรอบนอกเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญตามมุมเมืองต่างๆ เป็นการพัฒนาความเจริญที่น่าจับตามอง.นายปัญญารักษ์ กล่าวว่าในบรรดาประเทศบนแผ่นดินสุวรรณภูมิภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไทยมีที่ตั้งอันเป็นศูนย์กลางความเจริญและการพัฒนา ที่สามารถแบ่งปันประสบการณ์และกระจายความเจริญไปสู่ประเทศรอบข้างได้เป็นอย่างดี และดำเนินการมาแล้วต่อเนื่องยาวนานการที่ไทยตระหนักว่า ประเทศเพื่อนบ้านเป็นตลาดใหญ่ที่สำคัญและมีศักยภาพ โดยเฉพาะ กัมพูชา ที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในแนวหน้าของประเทศสมาชิกอาเซียน ย่อมเป็นเครื่องชี้นำทิศทางด้านการลงทุนของไทย รวมทั้งแนวทางการพัฒนาเครือข่ายการเชื่อมโยงในภูมิภาค ทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศโดยไม่ละทิ้งความเชื่อมโยงระดับประชาชนต่อประชาชน ตลอดความยาวของพรมแดนร่วม 800 กิโลเมตร ซึ่งประชาชนทั้งสองประเทศได้ใช้ชีวิตร่วมกันและไปมาหาสู่กันอย่างเสรี ดุจดั่งเป็นครอบครัวเดียวกันมาช้านานนับตั้งแต่สมัยโบราณกาลการเปิดจุดผ่านแดนถาวรแห่งใหม่ล่าสุดที่บ้านเขาดิน จ.สระแก้ว-บ้านพนมไต จ.พระตะบอง นับเป็นความร่วมมือในลักษณะหุ้นส่วนของภาครัฐทั้ง 2 ฝ่าย ที่จะอำนวยความสะดวกให้การค้าผ่านแดน และการสัญจรข้ามแดนระหว่างประชาชน นักท่องเที่ยวต่างชาติหลั่งไหลไปเที่ยวประเทศกัมพูชามากขึ้นทุกวัน.การฟื้นฟูระบบรางรถไฟที่จะเชื่อมต่อ กรุงเทพมหานคร-กรุงพนมเปญ ให้กลับมาใช้งานได้อีกภายในปีนี้ จะช่วยเรื่องการขนส่งสินค้าและผู้คนที่สอดคล้องกับนโยบายความเชื่อมโยงด้านการค้าการลงทุน ไทยมีต้นทุนสูงในกัมพูชา นักธุรกิจไทยเข้าไปสร้างชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือให้แก่สินค้าไทยว่าเป็นสินค้ามีคุณภาพ ทันสมัย มีราคาที่เหมาะสม และรักษาคุณภาพไว้ด้วยดีตลอดมา รวมทั้งสร้างงานให้แก่ชาวกัมพูชาแต่ด้วยวิทยาการสมัยใหม่และเทคโนโลยีที่รุดหน้า รวมทั้งนักธุรกิจไทยได้เข้าไปสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่กัมพูชา ทำให้กัมพูชามีการพัฒนาประเทศแบบก้าวกระโดด ทั้งด้านระบบการเงินการธนาคารสถานบริการน้ำมันที่พ่วงมาด้วย ร้านกาแฟและห้องน้ำสะอาด การแพทย์ ยารักษาโรค โรงสีข้าว วัสดุก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ร้านอาหาร การท่องเที่ยว การโรงแรม กระบวนการผลิตสินค้าสิ่งทอ การเกษตรแบบยั่งยืน สินค้าอาหารสำเร็จรูป ผุดขึ้นทั่วเมือง นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร อดีต ออท. ณ กรุงพนมเปญ นำทีมข่าวไทยรัฐ เข้าสัมภาษณ์ นายปัญญารักษ์ พูลทรัพย์ ออท.คนใหม่ ที่ทำเนียบทูต.ถือเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของกัมพูชา ให้ก้าวทันความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ตัวเลขการค้าเพิ่มสูงขึ้น และรายได้ประชาชาติที่สูงขึ้น ทำให้ชาวกัมพูชามีกำลังซื้อสินค้าอุปโภค บริโภค และสินค้าไลฟ์สไตล์เพิ่มมากขึ้นนอกจากนี้ กิจการของคนไทยในกัมพูชาก็ได้แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยดำเนินธุรกิจภายใต้หลักจริยธรรมและการจัดการที่ดี ตามมาตรฐานสากล มีความรับผิดชอบทางสังคม ช่วยเหลือเกื้อกูลเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันขณะที่สถานเอกอัครราชทูต โดยกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ได้มีโครงการให้ความช่วยเหลือด้านการพัฒนา การถ่ายทอดวิทยาการและประสบการณ์การพัฒนาระดับชุมชน ทุนการศึกษา และนักเรียนแลกเปลี่ยนเป็นจำนวนมากที่ช่วยยกระดับการพัฒนารวมทั้งเป็นผู้ประสานงานโครงการให้ความช่วยเหลือด้านการศึกษาตามพระราชดำริของ สมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทุกโครงการด้วย นายสุภชัย วีระภุชงค์ นักธุรกิจไทย และ ตวงพร อัศววิไล ที่ปรึกษา ทีวีช่อง 5 กัมพูชา.ด้านมุมมองของนักธุรกิจไทย นายสุภชัย วีระภุชงค์ รอง กก.ผจก.บริษัท ไทยนครพัฒนา จำกัด ที่ไปปักหลักลงทุนที่กัมพูชามานานถึง 27 ปี ปัจจุบันเป็นเจ้าของธุรกิจมากมาย อาทิ โรงงานผลิตยา น้ำดื่ม โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว (โซฟิเทล โภคีธรา) สถานีโทรทัศน์ช่อง 5 กัมพูชา ฯลฯนายสุภชัย หรือ “เสี่ยอ๊อด ทิฟฟี่” เล่าให้ฟังว่า จากประสบการณ์ในกัมพูชาสิ่งแรกที่เห็นคือความมั่นคงทางการเมือง เพราะรัฐบาลของ สมเด็จฮุนเซน ยังเป็นรัฐบาลอยู่จนถึงปัจจุบัน นี่คือข้อได้เปรียบของการพัฒนาจนทำให้ปัจจุบันนี้เศรษฐกิจกัมพูชาเติบโตอย่างต่อเนื่อง จีดีพีเติบโตอยู่ระหว่าง 6 ถึง 7 เปอร์เซ็นต์10 กว่าปีที่ผ่านมา มีนักธุรกิจจากต่างชาติมาลงทุนค่อนข้างมาก ที่เห็นได้ชัดคือ นักธุรกิจจากจีน ล่าสุดก็เป็นสนามบินที่ จ.เสียมราฐ ซึ่งรัฐวิสาหกิจจากมณฑลยูนนานเป็นผู้ลงทุน ได้มีการตอกเสาเข็มไปแล้ว ใช้เวลาจากนี้ไปอีก 5 ปี เฟสแรกที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 7 ล้านคน/ปี จะเปิดทำการได้ ต่อด้วยการพัฒนาเฟสที่สองให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกมากกว่า 15 ล้านคน/ปีขณะที่ จ.สี่หนุวิวล์ จังหวัดที่ติดชายฝั่งทะเลอ่าวไทย มีนักลงทุนจีนลงทุนทำโรงแรมและกาสิโน โดยเฉพาะใบอนุญาตกาสิโนเท่าที่ทราบรัฐบาลอนุมัติไปแล้วกว่า 30 แห่ง พร้อมโรงแรมที่เป็นตึกสูงขนาด 1,000-1,500 ห้อง ส่งผลให้ราคาที่ดิน จ.สีหนุวิวล์ น่าจะแพงกว่า จ.ภูเก็ต ด้วยซ้ำไปความคล้ายคลึงกันในความเชื่อทางด้านศาสนาและศิลปวัฒนธรรม เป็นชาวพุทธด้วยกัน ทำให้นักธุรกิจไทยค่อนข้างจะได้เปรียบนักธุรกิจจากทุกชาติ สินค้าที่นำเข้ากัมพูชา กว่าครึ่งเป็นการนำเข้าจากไทย จากยอดนำเข้ารวมทั้งหมด ชาวกัมพูชายอมรับและเชื่อถือคุณภาพสินค้าไทยมากกว่าสินค้าที่มาจากประเทศอื่นด้วยจุดแข็งหลายๆด้าน นักธุรกิจไทยควรให้ความสำคัญในการขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยอาศัยหลักคุณธรรมนำธุรกิจ ถ้ายึดหลักของความถูกต้อง มีคุณธรรม เชื่อว่าสินค้าไทยจะได้รับการยอมรับและสามารถที่จะพัฒนาตลาดให้เติบโตอย่างมั่นคงต่อไปได้อีกอนาคตหากนักธุรกิจไทยไปลงทุนในกัมพูชาแล้วยึดหลัก คนกัมพูชา คือ เพื่อน พี่น้อง และเป็นญาติธรรมของเรา เพราะเป็นดินแดนพุทธที่มีพ่อคนเดียวกันคือ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า“เราจะโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ บนแผ่นดินกัมพูชาที่กำลังโตอย่างรวดเร็ว” เป็นคำยืนยันของ นายสุภชัย นักธุรกิจที่สัมผัสกัมพูชามายาวนาน.เด่นชัย เด่นชัยประดิษฐ์