เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาหนังสือพิมพ์หลายฉบับลงข่าวว่า “สยาม พาร์ค ซิตี้” หรือที่รู้จักกันดีในนามของสวนสยาม ทะเล–กรุงเทพฯ จะเริ่มโครงการใหม่ในเร็วๆนี้ และจะใช้เงินกว่า 3,000 ล้านบาท ในการลงทุนก่อสร้างโครงการใหม่ดังกล่าวจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง โดย ช่วงแรก จะทำการปรับปรุงพื้นที่บริเวณปราสาทด้านหน้าทางเข้าและภัตตาคารแซลลี่ที่อยู่ด้วยกันให้เป็นอาคาร 2 ชั้น ทรงนีโอคลาสสิก ขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ใช้สอยประมาณ 6,000 ตารางเมตรเพื่อใช้ประโยชน์ในการเป็นจุดนัดพบ จุด จำหน่ายบัตรผ่านประตู จุดประชาสัมพันธ์ และภายในอาคารจะเป็นภัตตาคารขนาดใหญ่ มีห้องจัดเลี้ยง ห้องประชุม ห้องน้ำ และห้องอาบน้ำพร้อมสรรพ ตลอดจนพื้นที่ให้เช่าเพื่อจำหน่ายสินค้าและบริการต่างๆ โดยจะใช้เงินลงทุน 300 ล้านบาทคาดว่าจะสร้างเสร็จเปิดใช้บริการได้ในปี 2562 อีกประมาณ 1 ปีเศษๆ จากนี้เป็นต้นไปสำหรับ ช่วง 2 ซึ่งเป็นหัวใจของการปรับปรุง ได้แก่ โครงการ “สยามเมืองบางกอก” ซึ่งจะก่อสร้างบนเนื้อที่ประมาณ 70 ไร่ บริเวณด้านหน้าทางเข้าสวนสยาม ใช้เงินลงทุน 3,000 ล้านบาท เพื่อจำลองสถาปัตยกรรมอาคารและสถานที่ต่างๆ ของกรุงเทพมหานครมาไว้ที่นี่อาทิ ศาลาเฉลิมไทย, ศาลาเฉลิมกรุง, ห้างแบดแมน แอนด์โก, ห้างบีกริม แอนด์โก, คลองถม, สำเพ็ง, เยาวราช, บ้านพระอาทิตย์ และ ฯลฯสวนสยามคาดว่าโครงการระยะ 2 จะแล้วเสร็จในปี 2563 อีก 2 ปีเศษจากนี้ไปจากถ้อยแถลงดังกล่าวข้างต้นนับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงและผ่าตัดโครงสร้างบางส่วน ตลอดจนการจัดทำโครงการเสริมครั้งใหญ่ที่สุดของ กลุ่มสยาม พาร์ค ซิตี้ นับตั้งแต่มีการก่อตั้ง สวนสยามมา 38 ปีเต็มๆประธานคณะกรรมการกลุ่มบริษัทสยามพาร์ค ซิตี้ ไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ กล่าวกับผู้สื่อข่าวตอนหนึ่งว่า “สวนสยามเปิดให้บริการมานานมากแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องปรับปรุงครั้งใหญ่ เพื่อให้สอดรับกับยุคไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งจากนี้คงไม่ใช่แค่รองรับนักท่องเที่ยวชาวไทยเท่านั้น แต่จะตั้งเป้าไปถึงนักท่องเที่ยวทั่วโลกด้วย”“แนวคิดของโครงการ สยามเมืองบางกอกของผมก็เพื่อที่จะชุบชีวิตของกิน ของใช้และของดีต่างๆในอดีตจากทั่วประเทศ ที่อาจถูกหลงลืมเพื่อให้คนรุ่นหลังได้มีโอกาสสัมผัสอีกครั้ง และให้ผู้ค้าได้มีแหล่งค้าขายที่ถาวร”ที่สำคัญเขาวางแผนจะใช้ สยามเมืองบางกอก เป็นสถานที่จัดแสดงศิลปวัฒนธรรม และการแสดงที่น่าสนใจหมุนเวียนตลอดทั้งปี รวมถึงจัดแสดงสินค้า จัดประชุมสัมมนาภายใต้บรรยากาศของการพักผ่อนและการท่องเที่ยว ในสไตล์กรุงเทพฯย้อนยุคนายไชยวัฒน์มั่นใจว่าโครงการนี้จะมีบทบาทสำคัญในการนำรายได้เข้าสู่กลุ่มบริษัทสยาม พาร์ค ซิตี้ ซึ่งปัจจุบันมีรายได้ประมาณปีละ 500 ล้านบาท ให้กลายเป็น 1,500 ล้านบาท ใน 3 ปีข้างหน้าโดยจะมีผู้เข้ามาใช้บริการจาก 1.7 ล้านคนต่อปี เป็น 3 ล้านคนต่อปี เมื่อเสร็จสมบูรณ์ประธานกลุ่มสวนสยามย้ำในที่สุดว่า ในโครงการใหม่ของเขาจะใช้ระบบเทคโนโลยี เพื่อความสะดวกของลูกค้ามากขึ้น มีทั้งบริการฝากของ การซื้อตั๋ว และการชำระเงินผ่านบัตร “พร้อมเพย์” ของธนาคารต่างๆแบบไม่ต้องใช้เงินสด ขานรับนโยบายก้าวสู่สังคมไร้เงินสดของรัฐบาลอย่างเต็มที่รายละเอียดข้างต้นนี้ ทีมงานซอกแซกสรุปจากข่าวของหนังสือพิมพ์หลายฉบับเมื่อ 2-3 วันที่แล้ว บวกด้วยรายงานในข่าวภาคเย็นของไทยรัฐทีวี ช่อง 32 เมื่อวันที่ 13 ก.พ.หลังจากนั้นก็ทราบข่าวเพิ่มเติมจากการแชร์อย่างกว้างขวางในสื่อสังคมออนไลน์ว่า ได้มีการทุบ “ปราสาทสวนสยาม” อาคารบริเวณทางเข้าที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของสวนสยาม มาถึง 38 ปีเต็มๆไปแล้วทีมงานซอกแซกจึงขอถือโอกาสนี้นำภาพถ่าย ด้านหน้าของ “ปราสาท” มาลงให้ดูชมกันอีกครั้งหนึ่ง (ขอบคุณภาพจาก www.thaipost.net)สวนสยาม ทะเล-กรุงเทพฯเปิดดำเนินการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2523 แรกๆเป็นเพียงสวนน้ำอย่างเดียว ต่อมาก็นำเครื่องเล่นสวนสนุกจาก แฮปปี้แลนด์ ที่เลิกกิจการเข้ามาเสริมจนกลายเป็นทั้งสวนน้ำและสวนสนุกคู่กันจากนั้นก็มีการก่อสร้างเพิ่มเติมขึ้นอีกหลายอย่าง มีทั้งพิพิธภัณฑ์ไดโนโธเปีย และพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งจีน รวมทั้งร่วมกับรัฐบาลจีนจัดเทศกาลหุ่นโคมไฟหลายต่อหลายครั้งแต่แล้วในวันที่ 23 ตุลาคม ปี พ.ศ.2550 ก็เกิดอุบัติเหตุกับเครื่องเล่นอินเดียน่าล็อก ทำให้มีผู้เสียชีวิต และวันที่ 12 มกราคม 2551 ก็เกิดอุบัติเหตุอีกที่เครื่องเล่นซูเปอร์สไปรัล มีผู้บาดเจ็บ 28 ราย ทำให้นายไชยวัฒน์เกิดความท้อแท้ใจประกาศขายกิจการ แต่ก็มีผู้ให้กำลังใจอย่างท่วมท้น จึงตัดสินใจดำเนินการต่อต่อมาในวันที่ 20 เมษายน 2552 กินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด ร่วมกับสมาคมสวนน้ำโลก ได้มอบเอกสารยืนยันว่า “ทะเลเทียม” ของสวนสยาม เป็น “ทะเลเทียมใหญ่ที่สุดในโลก” มีขนาด 13,600 ตารางเมตร เอาชนะทะเลเทียมเจ้าของสถิติโลกเดิมที่ดีโนพาร์ค นครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งมีขนาด 6,053 ตารางเมตรไปอย่างขาดลอยสวนสยามจัดฉลองครบรอบ 30 ปีไปเมื่อ 19 พ.ย.-19 ธ.ค.2553 และมาถึงบัดนี้ ก็ริเริ่มโครงการใหม่ที่กล่าวถึงข้างต้น รวมทั้งการทุบตึกปราสาทสัญลักษณ์ไปเรียบร้อย โดยตั้งเป้าหมายว่าโครงการใหม่ทุกโครงการ รวมทั้ง “สยามเมืองบางกอก” มูลค่า 3,000 ล้านบาท จะแล้วเสร็จในปี 2563 อันเป็นปีที่ 40 ของสวนสยามพอดิบพอดีหากทุกอย่างเป็นไปตามกำหนดการก็เชื่อว่าจะเป็นการฉลองวันเกิด 40 ปีของสวนสนุก + สวนน้ำ ซึ่งต่อไปจะเป็นสวนประวัติศาสตร์ย้อนยุค กทม.ด้วยแห่งนี้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดป.ล. ระหว่างก่อสร้างนี้สวนสยาม พาร์ค ซิตี้ ยังเปิดให้บริการตามปกติอยู่ครับ ใครจะแวะไปอาบน้ำทะเลเทียม หรือเล่นสวนสนุกต่างๆก็เชิญได้เลย เพียงแต่จะไม่มีปราสาทด้านหน้าให้ดูเท่านั้นเอง.“ซูม”
