โปรเฟสเซอร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดคาดการณ์ในอีก 10 ปีข้างหน้า กว่าครึ่งของมหาวิทยาลัยน้อย-ใหญ่ในสหรัฐอเมริกาจำนวน 4,000 แห่งจะล้มละลาย เพราะถูกการศึกษาออนไลน์ตีแตกพ่ายศาสตราจารย์เคลย์ตัน คริสเตนเซน แห่งฮาร์วาร์ด บิซิเนส สคูล มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เปิดเผยว่า ภายใน 10-15 ปีข้างหน้า ครึ่งหนึ่งของมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 4,000 แห่งอาจล้มละลาย อันมีผลมาจากการถูกทำลายล้าง (Disrupt) จากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีเขาระบุในหนังสือเล่มล่าสุด “The Innovative University” ว่า หลักสูตรการเรียนการสอนออนไลน์จะได้รับความนิยมมากขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในราคาที่ประหยัดและคุ้มค่ากว่า โดยปัจจัยหลัง เป็นมูลเหตุที่ทำให้ระบบการเรียนการสอนปกติ ภายใต้มหาวิทยาลัยแข่งขันได้ยากขึ้นเรื่อยๆ และจะต้องล้มหายตายจากโดยจากการประเมินล่าสุด เขาขยับระยะเวลาจาก 10-15 ปี เป็นภายในต่ำกว่า 10 ปีด้วยซ้ำ หลังพบว่าหลักสูตรการศึกษาออนไลน์ได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆศาสตราจารย์คริสเตนเซน ไม่ใช่คนเดียวที่มีความเห็นเช่นนี้ กระทรวงศึกษาธิการสหรัฐฯและสถาบันจัดอันดับมูดี้ส์ ยังประเมินเช่นกันว่า วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยขนาดเล็กจะปิดตัวเพิ่มขึ้น 3 เท่า ขณะเดียวกัน แนวโน้มการควบรวมกิจการระหว่างกันจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวอย่างไรก็ตาม โปรเฟสเซอร์คริสเตนเซนบอกว่า ยังมีบางอย่างที่หลักสูตร์ออนไลน์ไม่สามารถทำแทนการเรียนการสอนในระบบปัจจุบันได้ นั่นก็คือการถ่ายทอดวิชาความรู้จากอาจารย์ที่มีประสบการณ์และมีทักษะในการอธิบายให้เข้าใจ ตลอดจนสร้างแรงบันดาลใจงานวิจัยล่าสุดพบว่า นักศึกษาที่ประสบความสำเร็จและกลับมาบริจาคเงินสนับสนุนสถานศึกษาเดิมเป็นจำนวนมากนั้น ส่วนใหญ่บริจาคเพราะตัวอาจารย์ที่เคยประสิทธิ์ประสาทวิชา ช่วยแรงบันดาลใจเหตุผลของการบริจาคเกือบทั้งหมด ไม่ใช่เพราะคอนเนกชั่น หรือต้องการช่วยมหาวิทยาลัย แต่เพราะต้องการตอบแทนอาจารย์ที่เป็นแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนแปลงชีวิตสิ่งนี้นำไปสู่ข้อสรุปที่ว่า บางทีสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตนักเรียน นักศึกษาที่สถานศึกษาหรือมหาวิทยาลัยจะปลูกฝังได้ ก็คือแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนหรือทำชีวิตให้ดีขึ้น และสิ่งนี้น่าจะไม่อาจถูกทำลายหรือ Disrupt ได้.