มีเหตุให้คิดถึง ฝนโบกขรพรรษ ฝนที่มีสีแดงตกลงเป็นฝอยๆเหมือนหิมะตก ผู้ถูกฝนต้องการจะให้เปียก ก็เปียกไม่ต้องการให้เปียก ก็ไม่เปียก ตกถึงพื้นแล้วก็ละลายหายไป เหมือนน้ำฝนตกลงใบบัว ไม่เปียกใบบัว ครับคัมภีร์พุทธศาสนา เล่าว่า ฝนมหัศจรรย์นี้ ตกแล้วครั้งหนึ่ง ในกรุงกบิลพัสดุ์ ท่ามกลางพระประยูรญาติของพระพุทธเจ้า อันเป็นเหตุให้พระพุทธเจ้าเทศนาเรื่องเวสสันดรชาดกชาวพุทธรู้กันว่า นี่คือมหาชาติ ชาติใหญ่ชาติสุดท้าย ของการบำเพ็ญทานบารมี ของพระโพธิสัตว์ ในวันเวลา แห่งปลายในต้นหนาวอย่างนี้ ควรเล่าสู่กันฟังอีกสักครั้งพระโพธิสัตว์ เป็นพระราชโอรสพระเจ้าสัญชัย และพระนางผุสดี แห่งนครสีพี พระนาม เวสสันดร เมื่อพระชนมมายุ 16 พรรษา อภิเษกสมรสกับ พระนางมัทรี แห่งแคว้นมัททะมีพระโอรสพระธิดา เจ้าชายชาลี เจ้าหญิงกัณหานครสีพี มีช้างคู่บ้านคู่เมือง ชื่อปัจจัยนาค เป็นช้างมงคลช่วยให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล วันหนึ่งเกิดฝนแล้งหนัก ข้าวยากหมากแพงในแคว้นกาลิงคะ ชาวกาลิงคะดั้นด้นมาขอพระเวสสันดร ก็ทรงบริจาคให้ไม่มีช้างมงคล เมืองสีพีฝนแล้ง ชาวเมืองไม่พอใจ เดินขบวนไปร้องเรียนพระเจ้าสัญชัย ขอให้เนรเทศพระเวสสันดรพระเวสสันดร ทูลขอบริจาค สัตตสดกมหาทาน ให้ของอย่างละ 700 เป็นทานอีกครั้งหนึ่งแล้วพร้อมด้วยพระชายา พระโอรสพระธิดา เดินทางไปเขาวงกต ป่าหิมพานต์ บวชบำเพ็ญภาวนาเป็นฤาษีต้นทางไปสู่อาศรมฤาษี มีพรานเจตบุตร เฝ้าไม่ให้ใครเข้าไปรบกวนชูชกพราหมณ์เฒ่า ได้นางอมิตดา เป็นเมียสาวหักหนี้ เมียไม่อยากเหนื่อยออกปากผัวแก่ ให้หาเด็กมารับใช้ ชูชกดั้นด้นเข้าป่า ใช้เล่ห์เพทุบายหลอกพรานเจตบุตร เข้าไปขอชาลีกัณหาสองโอรสธิดาหนีไปซ่อนในสระ พระเวรสันดร ตามไปขอร้อง ให้เห็นแก่การบำเพ็ญโพธิญาณ โปรดสัตว์ให้พ้นจากสังสารทุกข์ ยอมเดินตามชูชกไปพระนางมัทรี ออกไปหาผลไม้ในป่า มีพราหมณ์เฒ่าอีกคน มาออกปากขอ พระเวสสันดรก็ทรงประทานให้ทันทีนั้นพราหมณ์ก็กลายเป็นพระอินทร์ ขอฝากนางมัทรีให้รับใช้พระเวสสันดร บำเพ็ญมหาทานต่อย้อนไปที่ชูชกพราหมณ์เฒ่าเจ้าเล่ห์ พาชาลีกัณหามุ่งหน้าเข้าเมืองสีพี หวังค่าไถ่ใหญ่จากเจ้ากรุงสญชัย ชูชกถูกเลี้ยงดูปูเสื่อเต็มที่ กินมากจนอาหารไม่ย่อย ท้องแตกตายพระเจ้ากรุงสีพี ได้สองหลานคืน สั่งเตรียมกระบวนการช้างม้า และบริวาร เดินทางไปรับพระเวสสันดร พระนางมัทรี เมื่อหกกษัตริย์พบหน้า ก็ทรงโผเข้ากอดกัน กันแสงโศกาจนสลบไสลไปทุกพระองค์ทันทีนั้นเอง ฝนโบกขรพรรษ ก็ตกลงมา ทั้งหกกษัตริย์ฟื้นคืนแล้วทุกพระองค์ ก็เสด็จนิวัตินครสีพีฝนโบกขรพรรษเป็นฝนมหัศจรรย์ เกิดขึ้นในกาละสมัยสำคัญ ของการบำเพ็ญบารมี ให้เปียกไม่เปียกก็ได้ เป็นฝนที่ให้ผลประการเดียว คือคุณปลายฝนต้นหนาวบ้านเมืองเรา ฝนที่เคยตกเม็ดหนาตาเกือบทุกวัน วันนั้น ตกแค่บางตาเป็นละอองฟองฝอย ไม่ทำให้บรรยากาศพระราชพิธีเสียหาย ช่วยให้ร้อนผ่อนเย็น เป็นที่น่าอัศจรรย์นี่หรือไม่ ที่คนไทยกล่าวขานกันว่า พระบรมเดชานุภาพ.กิเลน ประลองเชิง