นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า เนื่องในวันล้างมือโลกองค์การสหประชาชาติ เห็นความสำคัญของการล้างมือว่า ถึงแม้จะเป็นกิจกรรมเล็กๆแต่สามารถป้องกันโรคได้หลายชนิด อาทิ ท้องร่วง ไข้หวัด ไวรัสตับอักเสบเอ โรคมือ เท้า ปาก โรคตาแดง เป็นต้น ซึ่งสามารถเข้าสู่ร่างกายด้วยการหยิบอาหารเข้าปาก ขยี้ตา จมูก รวมถึงผิวหนัง ดังนั้นจึงได้กำหนดให้วันที่ 15 ต.ค.ของทุกปีเป็นวันล้างมือโลก เพื่อให้ทั่วโลกได้ตระหนักถึงความสำคัญของการล้างมือ โดยเฉพาะ 5 จุดสำคัญคือ 1.ปลายนิ้ว 2.หลังมือ 3.ฝ่ามือ 4.ซอกนิ้ว และ 5.ข้อมือ ซึ่งมีเชื้อโรคสูง จึงต้องล้างมือบ่อยๆ เพื่อป้องกันเชื้อโรคต่างๆเข้าสู่ร่างกาย โดยเฉพาะช่วงก่อน-หลังปรุงอาหาร หลังกลับจากออกไปนอกบ้าน กลับจากโรงพยาบาล หลังเล่นกับหมา แมว เป็นต้น ทั้งนี้ มีข้อมูลพบว่า การล้างมือจะช่วยป้องกันโรคท้องร่วงได้ 50 เปอร์เซ็นต์ ป้องกันไข้หวัดได้ 25 เปอร์เซ็นต์ และจากการสำรวจความรู้ความเข้าใจ และการล้างมือของประชาชนไทยที่ผ่านมา แค่การล้างมือหลังเข้าห้องน้ำยังพบว่ามีผู้ที่ให้ความสำคัญ และล้างมือ 25 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ผู้ชายล้างมือน้อยกว่า ทั้งๆที่ในห้องน้ำนั้นถือเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคจำนวนมาก โดยเฉพาะสายฉีดชำระพบเชื้อโรค.
