ฉายกัน 3 วัน 3 คืนไม่จบกับเบื้องหลังฉากความสำเร็จของการพบปะกันระหว่าง “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช.ที่ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากผู้นำเบอร์หนึ่งของโลก ประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” แห่งสหรัฐอเมริกา ณ ทำเนียบขาว วอชิงตัน ดี.ซี.ในระดับที่มีการใช้คำว่า “ให้เกียรติอย่างยิ่ง”ตามข้อเท็จจริงแบบที่มีผู้นำวีไอพีไม่กี่คนที่จะได้พบทั้งเบอร์หนึ่งประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” เบอร์สองรองประธานาธิบดี “ไมค์ เพนซ์” เบอร์สาม “พอล ไรอัน” ประธานสภาผู้แทนราษฎร และเบอร์สี่ผู้อาวุโสสูงสุดวุฒิสภาสหรัฐอเมริกาและอย่างที่เห็นภาพข่าว ประธานาธิบดี “ทรัมป์” ขนวงใหญ่ ทั้งกลาโหม กระทรวงต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ มานั่งประชุมร่วมกับคณะของผู้นำรัฐบาลไทย ตั้งแต่เที่ยงครึ่งถึงบ่ายสามโดยไม่มีการเอ่ยถามถึงปมการเมืองในประเทศไทยบ่งบอกถึงการให้น้ำหนักกับทีม “นายกฯลุงตู่” มากขนาดไหนแม้แต่ช็อตเล็กๆที่แปลความหมายแล้วยิ่งใหญ่ไม่ธรรมดา ตามปรากฏการณ์ที่ “อิวานกา ทรัมป์” ลูกสาวประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังมาร่วมถ่ายรูปกับผู้นำไทยและภริยากระชับความสัมพันธ์ในทุกระดับทุกมิติตอกย้ำสถานะของแขกวีไอพีที่ไม่น้อยหน้าชาติมหาอำนาจระนาบเดียวกันทั้งหมดทั้งปวง จากฉากการพบปะกับประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” มันทำให้ผู้นำรัฐบาลไทยมาอยู่ในจุดที่อยู่ตรงกลางตามเชิงยุทธศาสตร์การเมืองโลกขณะนี้ประคองเกมถ่วงดุลได้แล้วทั้งสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น และรัสเซียเคลียร์แรงกดดันจากต่างประเทศลงไปได้ระดับหนึ่งซึ่งนั่นก็เหลือแค่แรงเสียดทานจากการเมืองภายใน ตามรูปการณ์ที่แปรผกผันกับช็อตที่สะท้อนนัยเป็นชัยชนะทางการเมืองของ “นายกฯลุงตู่” จากฉากความสำเร็จในการเยือนสหรัฐฯมันก็กระตุกแรงกระแทกจากนักการเมืองไทยทันควันตามรูปการณ์แบบที่มีเสียงเหน็บจากฝั่งตรงข้าม ดักคอประจานการต้อนรับอย่างดีของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ต้องแลกด้วยการซื้ออาวุธ ถ่านหิน และการนำเข้าหมูเนื้อแดงจากสหรัฐฯขัดคอไม่ให้ “นายกฯลุงตู่” คุยฟุ้งอวดความสำเร็จด้านเดียวและไม่ได้มีแค่นักการเมืองเท่านั้น ในจังหวะแรงเสียดทานจากคนกันเองก็ยิ่งวางใจไม่ได้กับปรากฏการณ์ปมร้อน “ภาษีน้ำ” ตามเงื่อนไขในร่าง พ.ร.บ. ทรัพยากรน้ำฯที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กำลังพิจารณา โดยไม่ได้มีที่มาที่ไปจาก ครม.แต่อย่างใดแบบที่ “นายกฯลุงตู่” ออกอาการงงๆ ส่งข้อความถึง พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ เกี่ยวกับเรื่องกฎหมายภาษีน้ำ“กูไปสั่งมันตอนไหนวะ”กลายเป็น สนช.เขี่ยลูกไปเข้าทางนักการเมืองทั้งประชาธิปัตย์และเพื่อไทย โหนกระแสอุ้มชาวนา กระตุกกระแสดราม่า เรียกร้องรัฐบาลอย่าซ้ำเติมเกษตรกรคนยากคนจนพากันรุมขย่ม ถล่ม “นายกฯลุงตู่” โดนด่าฟรีไปเหมือนจงใจ “เจาะยาง” คนกันเองแอบทิ่มกันเองและยังไม่ทันหายจากอาการสำลัก “ภาษีน้ำ” ดี ก็มีเหตุแทรกที่กระทรวงการคลังต้องรีบแถลงการณ์เคลียร์กระแสข่าวกรณีเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาประกาศพระราชกฤษฎีกา จนเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า รัฐบาลจะขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มหรือแวตเป็นร้อยละ 9 ทั้งๆที่ของจริงยังคงร้อยละ 7 เท่าเดิมหน้ากระดานข่าวเต็มไปด้วยมาตรการภาษีหลอนๆเข้าเหลี่ยมตีปี๊บประจานรัฐบาลถังแตก บริหารห่วย ทำเศรษฐกิจเจ๊งเป็นจังหวะให้นักการเมืองเร่งเกมไล่จี้ “จุดบอด” ตามโจทย์ที่ทีมเศรษฐกิจรัฐบาล คสช.กำลังแก้ปมที่ผูกโยงกันอยู่ ทั้งแรงบีบเลือกตั้งจากนักการเมือง เรื่องของการซื้อใจชาวนาที่ยังทำได้ไม่เท่ารัฐบาลยี่ห้อจำนำข้าว การกระจายเงินยังไม่ถึงคนจนเต็มเม็ด เต็มหน่วย เพราะส่วนใหญ่ย้อนกลับมาที่กลุ่มทุนใหญ่แรงกระแทกการเมืองภายในรุมถล่มจนไม่รู้มาจากทิศทางไหนเลย.ทีมข่าวการเมือง