สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานว่า กูเกิล (Google) ได้แจ้งต่อพนักงานว่า เนื่องด้วยนโยบายให้ทำงานที่บ้านหรือ Work From Home (WFH) ทำให้กูเกิลไม่สามารถหาแล็ปท็อปให้พนักงานได้ทัน อันส่งผลกระทบให้การจ้างพนักงานใหม่ต้องล่าช้าออกไปด้วย
ปัญหาที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่า ขนาดบริษัทใหญ่ยังมีปัญหาในการสนับสนุนอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการทำงานให้กับพนักงาน เพื่อตอบสนองนโยบายทำงานที่บ้าน
ตั้งแต่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้มนุษย์เงินเดือนต้องทำงานที่บ้าน กูเกิลได้แจ้งต่อพนักงานว่าสต๊อกสำหรับอุปกรณ์ ตั้งแต่คอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป โทรศัพท์มือถือ กำลังขาดแคลน และส่งผลกระทบทำให้การอัปเกรดแล็ปท็อปตามกำหนดเดิมต้องถูกยกเลิกไปก่อน
ทั้งนี้ กูเกิลและอัลฟาเบตในฐานะบริษัทแม่ได้ตัดสินใจปิดออฟฟิศและกำหนดให้พนักงานในเครือกว่า 300,000 คนทำงานที่บ้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงจ้างงานและมีพนักงานใหม่เข้ามาร่วมงานอย่างต่อเนื่อง
เดือนที่ผ่านมา ซุนดาร์ พิชัย ซีอีโอกูเกิลแจ้งว่า ตั้งแต่ต้นปีกูเกิลรับพนักงานใหม่เข้ามาร่วมงานแล้ว 4,000 คน แต่ต้องชะลอการเรียกให้เข้ามาปฏิบัติงาน เนื่องจากมีปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์เพื่อการทำงานที่บ้านที่ต้องมอบให้กับพนักงานใหม่
อย่างไรก็ตาม สำหรับพนักงานที่ทำงานเต็มเวลา รวมทั้งพนักงานทดลองงานที่ไม่สามารถหาอุปกรณ์เพื่อการทำงานที่บ้านได้ สามารถเบิกค่าใช้จ่ายได้สูงถึง 300 เหรียญสหรัฐฯ โดยผ่านการอนุมัติจากหัวหน้างาน

...
กระนั้น ล่าสุดกูเกิลยังกำหนดระเบียบเบิกจ่ายเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความชัดเจน รอบคอบ โดยห้ามพนักงานเบิกค่าอาหาร เฟอร์นิเจอร์สำหรับออฟฟิศในบ้าน แม้ว่างบประมาณด้านการจัดกิจกรรมและการประชุมภายในจะมีเหลือเฟือ เพราะไม่ได้ถูกใช้เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาด
กูเกิลยังแจ้งต่อพนักงานด้วยว่า ขอให้อดทน และบริษัทกำลังพยายามอย่างมากที่จะแก้ปัญหาดังกล่าว สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องกะทันหันทำให้เตรียมการไม่ทัน
ทั้งนี้ กูเกิลจะทยอยเปิดออฟฟิศแบบค่อยเป็นค่อยไป เริ่มต้นในเดือน มิ.ย. 2563 พนักงานกลุ่มแรกที่ต้องเข้ามาทำงานคือพนักงานที่อยู่ประจำออฟฟิศ รวมทั้งตำแหน่งที่ต้องเข้าถึงอุปกรณ์ที่มีอยู่ในออฟฟิศเท่านั้น ส่วนกลุ่มที่ทำงานที่บ้านต่อได้ มีแนวโน้มต้องอยู่บ้านต่อไปทั้งปี.