ได้ชื่อว่าเป็นมหาเศรษฐีใจบุญ แถมติดดิน กินอยู่ง่าย ใช้รถคันเดิม ไลฟ์สไตล์ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนหุ้นรายใหญ่ของโลก ยังสะท้อนผ่านการเลือกใช้โทรศัพท์มือถือ ที่ถึงแม้จะเป็นผู้ถือหุ้นหลักของแอปเปิล แต่เขากลับเลือกใช้มือถือรุ่นฝาพับจากซัมซุง ซึ่งมีราคาราวเครื่องละ 600 บาท

สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานว่า วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีนักลงทุนในหุ้น ได้ควักโทรศัพท์มือถือซัมซุงรุ่นฝาพับ SCH-U320 ออกมาให้ทีมงานดู ระหว่างการสัมภาษณ์ช่วงปลายเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา

เขาบอกว่าเลือกใช้ซัมซุงรุ่นฝาพับ ซึ่งมีวางขายบนเว็บไซต์อีเบย์ ในราคา 20-30 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 640-940 บาท และพูดติดตลกกับทีมงานซีเอ็นบีซีว่า “นี่คือโทรศัพท์ของผม อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ (ผู้คิดค้นโทรศัพท์) ให้ยืมมา แล้วผมลืมคืน”

...

เรื่องนี้เป็นประเด็นขึ้นมา เพราะเบิร์กเชียร์ แฮชธาเวย์ (Berkshire Hathaway) บริษัทของวอร์เรน บัฟเฟตต์นั้น เป็นผู้ถือหุ้นหลักของแอปเปิล โดยถือครองในสัดส่วน 5.5% ในทางกลับกันหุ้นแอปเปิลยังถือเป็นพอร์ตการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดของเบิร์กเชียร์ แฮชธาเวย์ด้วย

การที่นักลงทุนรายใหญ่ของแอปเปิล เลือกใช้ซัมซุง ไม่ใช่ไอโฟน ซึ่งเป็นสินค้าหลักยอดนิยม ทำเงินเข้าบริษัทจำนวนมหาศาล ย่อมถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นข่าว แต่นับว่ายังดีที่บัฟเฟตต์ใช้ไอแพดเป็นเครื่องมือในการเช็กราคาหุ้น อ่านบทวิเคราะห์ หาข้อมูล

เขาบอกว่าใช้ซัมซุง SCH-U 320 มาสักระยะหนึ่งแล้ว ส่วนไอโฟนมีรุ่น X ซึ่งยังไม่ได้เปิดใช้

“มีคนของแอปเปิลส่งไอโฟน X (ไอโฟน 10) มาให้ผมวันก่อน แต่ผมยังไม่ได้ใช้ คนที่ส่งมาให้ใจดีมาก เขียนคำอธิบายวิธีการใช้มาละเอียด เหมือนกำลังสอนเด็ก 3 ขวบ บอกว่าต้องทำอะไรบ้าง ใช้ได้ปลอดภัยไม่เป็นอันตราย แต่ผมก็ยังไม่กล้าพอ เชื่อว่าต้องมีสักวันที่ผมจะสามารถเดินหน้า หยิบมันขึ้นมาใช้ได้”

ความหวั่นเกรงในเทคโนโลยีของบัฟเฟตต์เป็นที่รู้กันทั่วไป ซึ่งพอไปถึงหูทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิล เมื่อปีที่ผ่านมา ทิม คุก ถึงขนาดเสนอตัวนั่งเครื่องบินไปหาบัฟเฟตต์ถึงที่ เพื่อสอนและตั้งค่าไอโฟนให้ด้วยตัวของเขาเอง ขอเพียงแค่บัฟเฟตต์ตอบรับในการพูดคุยกับซีเอ็นบีซีครั้งนี้ บัฟเฟตต์ยังเปิดเผยเกี่ยวกับการขยายการลงทุนของแอปเปิลไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ เช่น บุกสู่ธุรกิจบันเทิงด้วยการผุดช่องทีวีแข่งกับเน็ตฟลิกซ์ โดยลงทุนดึงผู้ผลิตคอนเทนต์ระดับแม่เหล็กเข้ามาร่วมงาน รวมทั้งการเปิดตัวบัตรเครดิตแอปเปิล โดยเขาให้ความเห็นว่า แอปเปิลสามารถทำผิดพลาดได้ 1-2 ครั้ง ในการบุกเข้าสู่ธุรกิจใหม่
บัฟเฟตต์เคยบอกว่า เขาสนใจลงทุนในหุ้นแอปเปิลเพราะความแข็งแกร่งของแบรนด์และความได้เปรียบในการทำธุรกิจ ไม่ได้เกี่ยวกับฐานะการเงินสักเท่าไร.