ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ทาง “แอปเปิล” ได้ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.61 ตามปีงบประมาณล่าสุดของบริษัท สามารถทำสถิติใหม่กับรายได้จากธุรกิจบริการสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ตัวเลขรายได้ประจำไตรมาสล่าสุด ที่ 53,265 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 17% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ 45,405 ล้านดอลลาร์ฯ พร้อมกับรายได้สุทธิประจำไตรมาส 2.34 ล้านดอลลาร์ฯ ต่อหุ้นปรับลด เพิ่มขึ้น 40% โดยยอดขายในต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วน 60% ของรายได้ประจำไตรมาส
“ทิม คุ้ก” ซีอีโอของแอปเปิล กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่จะรายงานผลประกอบการไตรมาสเดือน มิ.ย.ที่ดีที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และเป็นรายได้ประจำไตรมาสที่เติบโตไปถึงเลขสองหลักอย่างต่อเนื่องติดต่อกันสี่ไตรมาส ผลประกอบการไตรมาสที่สามถูกขับเคลื่อนด้วยยอดขายอันแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องของ iPhone ธุรกิจบริการ และอุปกรณ์ต่างๆ และเรารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆของเรา
ยอดขาย iPhone ในช่วงไตรมาสล่าสุดมียอดจำหน่ายรวม 41.3 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมาที่มียอดขาย 41.03 ล้านเครื่อง iPad มียอดจำหน่ายรวม 11.55 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมามียอดจำหน่าย 11.42 ล้านเครื่อง ด้านคอมพิวเตอร์ Mac มียอดจำหน่ายรวม 3.72 ล้านเครื่อง ลดลงเล็กน้อยจากยอดจำหน่าย 4.29 ล้านเครื่องในช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา

...
ทั้งนี้ ตลาดภายในประเทศสหรัฐฯเองมีรายได้เติบโตสูงสุดถึง 20% ขณะที่ตลาดประเทศจีนเติบโตสูงรองลงมาคือ 19% ตลาดกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิกเติบโต 16% ตามด้วยตลาดยุโรป 13% ขณะที่ตลาดประเทศญี่ปุ่นมีอัตราเติบโตของรายได้ต่ำที่สุดในระดับ 7%
“แอปเปิล” ยังได้ประเมินผลประกอบการประจำไตรมาสที่สี่ ประจำปีงบประมาณ 2018 ดังนี้ รายได้อยู่ระหว่าง 60,000 ล้านดอลลาร์ฯ ถึง 62,000 ล้านดอลลาร์ฯ โดยกำไรขั้นต้นอยู่ระหว่าง 38%-38.5% ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอยู่ระหว่าง 7,950 ล้านดอลลาร์ฯ- 8,005 ล้านเหรียญดอลลาร์ รายได้/(รายจ่ายอื่นๆ) 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อัตราภาษี 15% ก่อนรายการแยกต่างหาก
ในวันประกาศผลประกอบการราคาหุ้นของ “แอปเปิล” อยู่ในระดับ 197.34 ดอลลาร์ฯต่อหุ้น ซึ่งมีการคำนวณกันว่า แอปเปิล จะเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก และเป็นรายแรกที่จะมีมูลค่าตามราคาหุ้นหรือมาร์เกตแคปทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ฯ โดยราคาหุ้นของแอปเปิลจะต้องขึ้นไปถึงระดับ 204.49 ดอลลาร์ฯต่อหุ้น
ล่าสุดราคาหุ้นทะลุทำสถิติไปเรียบร้อยแล้ว การที่มาร์เกตแคป 1 ล้านล้านดอลลาร์ฯ หมายความว่า หากมีใครต้องการซื้อกิจการของแอปเปิล จะต้องใช้เงินถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ฯ หรือคิดเป็นเงินไทยคร่าวๆ ถึง 33 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนมหาศาลมากๆเลยทีเดียว.
หนุ่มดิจิทัล
cybernet@thairath.co.th