สสจ.ปทุมธานีสั่งปิดคลินิกเสริมความงาม ชื่อดัง “นิติกาญจน์คลินิก” หลังเกิดเหตุสลด เสมียนสาวร้านซ่อมรถ จยย.เข้าไปแก้ศัลยกรรมจมูกแล้วเสียชีวิตคาห้องผ่าตัด คาดสาเหตุเกิดจากการแพ้ยาสลบ ทำให้เกิดภาวะคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ เลือดเป็นกรด ผลตรวจคลินิกมรณะพบลักลอบเปิดห้องผ่าตัดไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นสถานพยาบาลเถื่อน มีโทษหนักทั้งจำและปรับ แพทยสภาจ่อฟันซ้ำสั่งสอบเอาผิดแพทย์ผู้ปฏิบัติงานในคลินิก ครอบครัวนิมนต์พระสงฆ์ทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ แม่ร่ำไห้ยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสียลูกสาวที่เป็นเสาหลักของบ้าน รับศพกลับไปบำเพ็ญ กุศลที่บ้านเกิด จ.ร้อยเอ็ด ด้านตำรวจเรียกสอบทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ยังไม่แจ้งข้อหาใคร รอผลชันสูตรสาเหตุการตายที่แน่ชัด
จากเหตุการณ์ น.ส.สิรินยา หรือน้องนิวเดชรักษา อายุ 25 ปี เสมียนสาวร้านซ่อมรถ จยย. ไปแก้ศัลยกรรมจมูกที่คลินิกเสริมความงามนิติกาญจน์คลินิก เลขที่ 308-310 หน้าหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี ถนนรังสิต-ปทุมธานี ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี แล้วเสียชีวิตคาห้องผ่าตัดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 15 มิ.ย. สอบถามเจ้าหน้าที่คลินิกอ้างว่า ขณะให้ดมยาสลบแล้วอุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นผิดปกติก่อนที่หัวใจจะหยุดเต้น พยายามปั๊มหัวใจแต่ไม่เป็นผล ตำรวจนำศพส่งชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมเชิญผู้เกี่ยวข้องในคลินิก แพทย์ผ่าตัด รวมถึงเจ้าของคลินิกไปสอบปากคำ
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 มิ.ย. นางจิราภา พลเยี่ยม แม่ของน้องนิว พร้อมญาติๆ นิมนต์พระสงฆ์ไปทำพิธีเชิญวิญญาณของผู้ตายที่คลินิกที่เกิดเหตุ ทุกคนยังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม่น้องนิวเผยทั้งน้ำตาว่า ยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสีย มีลูก 2 คน น้องนิวเป็นลูกคนโตเป็นเสาหลักของครอบครัว จะนำศพลูกสาวไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด ต.โพธิ์ทอง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ขณะที่น้าชายเผยว่า ได้พูดคุยเรื่องการช่วยเหลือทางคลินิกจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพและค่าเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ครอบครัวยังไม่ได้พูดคุยปรึกษาหารือกันว่าจะเอาอย่างไรเพราะทุกคนยังอยู่ในอาการเสียใจ ต้องพาน้องกลับบ้านก่อนค่อยดำเนินการต่อไป
...
จากนั้นครอบครัวเดินทางไปรับศพน้องนิวที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี แพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าหัวใจวายเฉียบพลัน แต่ต้องรอผลการชันสูตรอย่างเป็นทางการประมาณ 1 เดือน น.ส.ประดับเงินพลเยี่ยม น้าสาวเผยว่า หมอบอกว่าความร้อนในร่างกายผิดปกติเมื่อโดนยาสลบทำให้กล้ามเนื้อเกร็ง การตรวจชันสูตรไม่เจอยาตัวนี้ ต้องนำชิ้นเนื้อไปตรวจอย่างละเอียด
ด้านคดี พ.ต.อ.อภิชาติ ทองแพ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เผยว่า หลังรับแจ้งเหตุเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. พนักงานสอบสวนเดินทางไปที่เกิดเหตุพร้อมกับแพทย์ร่วมชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตในเบื้องต้น ก่อนนำส่งชันสูตรอย่างละเอียดที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ต้องรอผลชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดว่าเกิดจากอะไร จะเป็นการกระทำโดยประมาทหรืออย่างไรจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียด รวมถึงตรวจสอบความถูกต้องของการเปิดสถานประกอบการ มีใบประกอบโรคศิลปะถูกต้องหรือไม่ ตอนนี้ได้สอบปากคำญาติผู้เสียชีวิตรวมถึงแพทย์ที่เข้าผ่าตัดผู้อยู่ในเหตุการณ์ไว้แล้ว เบื้องต้นยังไม่แจ้งข้อกล่าวหาใคร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบคลินิกเสริมความงามที่เกิดเหตุพบว่า 1.นิติกาญจน์คลินิกเวชกรรมได้รับอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่ได้ขออนุญาตเพิ่มเติมบริการห้องผ่าตัดเล็กและห้องผ่าตัดใหญ่ในใบอนุญาต 2.แพทย์ผู้ผ่าตัดและวิสัญญีแพทย์ มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมและวุฒิบัตร แสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาศัลยศาสตร์ตกแต่ง และสาขาวิสัญญีวิทยาถูกต้อง แต่แพทย์ทั้ง 2 คนไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพของนิติกาญจน์คลินิกเวชกรรม 3.พบลักษณะที่ไม่เป็นไปตามที่มาตรฐานกำหนดดังนี้ แสดงเวลาทำการสถานพยาบาลไม่ตรงกับที่ได้รับอนุญาต ไม่แสดงป้ายสอบถามอัตราค่ารักษาพยาบาล และไม่แสดงคำประกาศสิทธิผู้ป่วย เวชระเบียนไม่เป็นไปตามที่กฎกระทรวงกำหนด และไม่ขออนุญาตโฆษณาสถานพยาบาลในช่องทางสื่ออินเตอร์เน็ต
การดำเนินการของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี 1.ออกคำสั่งปิดสถานพยาบาลเป็นการชั่วคราว มีผลตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.66 เบื้องต้นระยะเวลา 30 วัน หรือจนกว่าจะดำเนินการให้ถูกต้อง เหตุเนื่องจากเปลี่ยนแปลงการประกอบกิจการของสถานพยาบาลให้แตกต่างไปจากที่ระบุไว้ในใบอนุญาต 2.บรรดาความผิดที่นิติกาญจน์คลินิกเวชกรรมได้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ.2541 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม นำเรื่องเข้าคณะกรรมการเปรียบเทียบคดีสถานพยาบาลประจำจังหวัดปทุมธานี เพื่อพิจารณาให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดี สบส. ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดี สบส. นพ.อภิชน จีนเสวก รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี ผศ.นพ.ต่อพล วัฒนา ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา ร่วมแถลงข่าวกรณีที่เกิดขึ้น
นพ.อภิชนกล่าวว่า สสจ.ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบแพทย์ 4 คน ทั้งแพทย์ผู้ประกอบการ แพทย์ผู้ดำเนินการ แพทย์ผ่าตัด และแพทย์วิสัญญี จากนั้นขอดูเวชระเบียนเหตุการณ์ดังกล่าวได้ข้อมูลว่า คนไข้เป็นเพศหญิงอายุ 26 ปี นัดหมายผ่าตัดเสริมจมูกผ่านทางโซเชียลมีเดียเข้าห้องผ่าตัดเวลา 10.00 น. ตัดกระดูกซี่โครงมาเสริมจมูก ต่อมาเวลา 13.00 น. เริ่มมีความผิดปกติ แพทย์วิสัญญีจึงแจ้งแพทย์ผ่าตัดว่าเกิดความผิดปกติ คนไข้มีภาวะคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ เลือดเป็นกรด เวลา 14.20 น. สันนิษฐานว่าเกิดจากการแพ้ยาสลบ ให้การรักษาตามที่ร่ำเรียนมา จากนั้นเวลา 16.00 น. เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้น โทร.แจ้งสายด่วน 1669 มีทีมกู้ชีพฉุกเฉินชั้นสูงเข้ามาช่วยเหลือทำ CPR ประมาณ 1.30 ชั่วโมง แต่ไม่สามารถช่วยเหลือได้ ยุติการทำ CPR เวลา 17.23 น. จากนั้นตำรวจพร้อมแพทย์ชันสูตรมาถึงพื้นที่ก่อนส่งศพไปที่ รพ.ธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต
รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นคลินิกดังกล่าวขออนุญาตเปิดสถานพยาบาลตั้งแต่ปี พ.ศ.2559 เป็นชนิดไม่รับผู้ป่วยค้างคืน แต่หลังเกิดเหตุการณ์กลับพบว่ามีการต่อเติมเปิดห้องผ่าตัด มีเตียงผ่าตัด มีถังแก๊สดมยา มีไฟส่องสว่างในการผ่าตัด มีถังออกซิเจน แต่เนื่องจากไม่มีการขออนุญาตถือเป็นสถานพยาบาลเถื่อน และยังไม่ทราบว่าแอบเปิดห้องผ่าตัดมานานแค่ไหน มีแพทย์กี่คนที่มาผ่าตัด
ขณะที่ ทพ.อาคมกล่าวว่า กรณีคลินิกเถื่อนโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท และส่งฟ้องต่อพนักงานสอบสวนต่อไป รวมถึงตรวจสอบเอาผิดเกี่ยวกับการโฆษณาโอ้อวด โฆษณาอันเป็นเท็จ มีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท ขณะนี้ สบส.อยู่ระหว่างปรับแก้กฎหมายเพื่อเพิ่มโทษให้หนักขึ้น โทษปรับเพิ่ม 3 เท่า เช่น โรงพยาบาล/คลินิกเถื่อน ที่มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท เพิ่มเป็น 300,000 บาท
ด้าน ผศ.นพ.ต่อพล วัฒนา ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากแพทย์ตั้งใจที่จะไม่ขออนุญาต แพทยสภามีแนวทางในการดำเนินงานของแพทย์ กรณีนี้จะเป็นแนวทางการให้ยาสงบประสาทของแพทย์ในการทำหัตการเกี่ยวกับการเสริมสวย โดยแพทย์ที่ปฏิบัติงานในคลินิกลักษณะ ดังกล่าวทั้งหมดต้องปฏิบัติตามแนวทาง ซึ่งพบว่ามีการละเมิดตามข้อบังคับก็มีความผิด ส่วนจะเป็นความผิดขั้นไหนต้องมีการพิจารณา ภาพรวมมี 4 ขั้น คือ ตักเตือน ภาคทัณฑ์ พักใช้ และเพิกถอนใบอนุญาต ที่ผ่านมาจะเป็นการพักใช้ใบอนุญาต ส่วนกรณีเพิกถอนจะเกี่ยวข้องกับคดีความในชั้นศาล เช่น การฆาตกรรมผู้อื่น ดังนั้น กรณีนี้จะต้องรอให้ สบส.สอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาโทษ
ขณะที่ นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า สบส.ส่งหนังสือเวียนแจ้ง นพ.สสจ.ทั่วประเทศให้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานพยาบาล คลินิกเอกชนต่างๆว่าดำเนินการตามที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้หรือไม่ ที่ผ่านมาก็มีการตรวจสอบอยู่เป็นระยะๆ แต่ได้ขอให้ตรวจสอบอย่างเคร่งครัดมากขึ้น