เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้รับรายงานว่ามีการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในโรงเรียน จำนวน 2 แห่ง คือ โรงเรียนในพื้นที่ จ.มหาสารคาม โดยนักเรียนได้รับเชื้อมาจากผู้ปกครอง จึงมีการแพร่เชื้อไปสู่เพื่อนในห้องเรียนจำนวน 7 คน ทั้งนี้ จากการสอบโรคพบว่า เป็นที่น่าแปลกใจเมื่อได้เห็นผังการจัดห้องเรียน เด็กที่ติดเชื้อไม่ใช่นักเรียนที่นั่งติดกัน แต่เป็นกลุ่มนักเรียนที่นั่งห่างกัน แต่ไปนั่งรับประทานอาหารร่วมกัน ดังนั้น จึงมั่นใจว่าการสวมใส่หน้ากากอนามัย และการเว้นระยะห่างทางสังคมยังเป็นมาตรการที่ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคได้ดี

อีกทั้งยังพบว่าโรงเรียนยังปฏิบัติตามมาตรการของ ศธ. และกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่กำหนดได้อย่างดีเยี่ยม และเมื่อตรวจพบเด็กติดเชื้อได้มีการสั่งหยุดการเรียนการสอนที่โรงเรียนทันที ส่วนอีกกรณีคือโรงเรียนเอกชนนอกระบบใน จ.ยะลา ได้มีการเปิดการเรียนการสอนที่โรงเรียนโดยไม่ได้ขออนุญาตจากคณะกรรมการควบคุมโรคประจำจังหวัด และยังพบว่ามีการเปิดโรงเรียนให้บุคคลภายนอกเข้ามาใช้สถานที่ทำกิจกรรมต่างๆ ที่สำคัญพบนักเรียนรับประทานอาหารโดยใช้ภาชนะร่วมกันอีกด้วย จนทำให้มีการติดเชื้อจำนวนมาก

ปลัด ศธ. กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ จะมีการกำชับให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ติดต่อประสานการทำงานร่วมกับกรมอนามัยอย่างใกล้ชิด รวมถึงให้ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ลงพื้นที่สำรวจโรงเรียนให้ปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ของกระทรวงอย่างเข้มข้น นอกจากนี้จะกำหนดมาตรการผู้รับผิดชอบให้เกิดความชัดเจนในแต่ละขั้นตอนการปฏิบัติงาน เช่น เมื่อพบเด็กติดเชื้อจะต้องทำอย่างไรและใครเป็นผู้รับผิดชอบ และเมื่อมีการสั่งปิดโรงเรียนแล้วจะต้องกำหนดผู้รับผิดชอบด้วย โดย ศธ.จะทำแผนที่มีลักษณะคล้ายกับแผนเผชิญเหตุโควิดส่งให้โรงเรียนยึดปฏิบัติภายใน 1 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ถือเป็นการแพร่ระบาดในสถานศึกษาแต่อย่างใด เพราะกว่า 90% สถานศึกษาตรวจพบนักเรียนที่ติดเชื้อก่อนและสั่งหยุดการเรียนการสอนที่โรงเรียนทันที ดังนั้น เชื่อมั่นว่ามาตรการควบคุมโรคของ ศธ.ยังทำได้ดีอยู่.

...