ยังไม่จบ แค่จัดการวัคซีน พูดจริงๆเลยน่ะ...การที่นายกฯรวบอำนาจเอาไว้ที่ตัวเองทั้งหมดในการแก้ไขปัญหาโควิด-19 ด้านหนึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่อีกด้านหนึ่งก็เป็นอย่างที่เห็นๆกัน

คือขาดการเชื่อมต่อและประสานงานกันอย่างใกล้ชิด จนทำให้เกิดปัญหา คนที่ซวยก็คือประชาชนจนมึนงงกันไปหมด

ล่าสุด สธ.กับ กทม.ก็เกิดปัญหาเรื่องการจัดส่ง “วัคซีน” ซึ่ง สธ.รับผิดชอบตามคำสั่งของ ศบค.ที่มีอำนาจพิจารณาแจกจ่ายไปทั่วประเทศ ผ่าน สธ.ซึ่งมีหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรง

ปัญหาก็คือ มี รพ.หลายแห่งที่ประกาศเลื่อนนัดหมายการฉีดวัคซีนที่ประชาชนลงทะเบียนเอาไว้แล้ว แต่ปรากฏมีการแจ้งให้เลื่อนออกไปก่อนโดยไม่มีกำหนด บางแห่งให้เหตุผลว่าไม่มีวัคซีน บางแห่งบอกว่า สธ.ไม่ยอมส่งมาให้

สุดท้ายจับความได้ว่า สธ.ได้จัดส่งไปแล้วครึ่งหนึ่งจากยอดรวมทั้งหมด แต่ กทม.ไปจัดการแบบเหมือนไม่รู้ว่าสถานการณ์ “วัคซีน” นั้นเป็นอย่างไร คือได้มากก็เร่งใช้จนหมดไปอย่างรวดเร็ว

ไม่ได้มีการวางแผนการดำเนินการอย่างเป็นระบบที่สอดรับกับแผนใหญ่ ทำให้วัคซีนที่ได้รับมาหมดไปอย่างรวดเร็ว ยังสงสัยว่า ผู้ว่าฯกทม.รีบดำเนินการมีวัตถุประสงค์อย่างอื่นแอบแฝงหรือไม่ ยิ่งใกล้เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.จึงหาคะแนนตุนเอาไว้ก่อน

ในที่สุดทั้ง กทม.และ สธ.ต่างก็ออกมายอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นด้วยเหตุ “สื่อสาร” กันไม่ดีพอ มีความรู้สึกว่ารัฐบาลพยายามจะไม่พูดเรื่องวัคซีนที่ไม่เพียงพอ แต่บอกว่าวัคซีนมีไม่ขาดและสามารถฉีดให้ครบทุกคนได้

ว่าที่จริง ถ้า ศบค.ซึ่งเป็นองค์กรสำคัญทำหน้าที่ “สื่อสาร” ทุกเรื่องโดยเฉพาะประเด็นสำคัญเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน ตั้งทีมงานอย่างเป็นระบบ

...

พอมีปัญหาก็ออกมาชี้แจงทำความเข้าใจ หากเกี่ยวข้องกับหน่วยงานไหนก็ส่งตัวแทนมาร่วมชี้แจงและตอบข้อสงสัย เรื่องไม่เป็นเรื่องมันก็จบในทีเดียวและรวดเร็ว

นี่กลายเป็นนายกรัฐมนตรีต้องออกมาแสดงเองทุกเรื่อง ยังไม่จบหรอกครับ...เรื่องโควิด-19 และวัคซีนเพราะมันยังมีปัญหาอีกมาก ประเด็นสำคัญก็คือความต้องการของตลาดสูง

คือประชาชนมีความปรารถนาที่จะได้ฉีด อยู่ที่รัฐนี่แหละที่จะบูรณาการการบริหารจัดการให้ราบรื่นได้แค่ไหนที่จะทำให้ปัญหาทุกอย่างคลี่คลายลงไป

แค่นี้มันก็พอจะวัดมือกันแล้วว่าเก่งกาจแค่ไหน เพราะเนื้องานมันจะบอกเอง ปั้นแต่งยังไงมันก็ไม่เนียน.

“สายล่อฟ้า”