เรื่องราวเดียวกันแบบไทยว่า เสร็จนาฆ่าถึก เสร็จศึกฆ่าทหาร ถ้าแบบจีนว่า เมื่อนกบินหนีไป เก็บธนูไว้ข้างกาย เมื่อกระต่ายตายต้มหมาล่าเนื้อ

เจ้าของประโยคลือลั่นนี้ ชื่อฟ่านหลี มีชีวิตระหว่าง 536-448 ปี ก่อน ค.ศ. สมัยชุนชิวจ้านกว๋อ

คนค้าขาย เรียกเถาจูกง ยอดพ่อค้า นับถือกันเป็นเทพเจ้าแห่งการค้า สถานภาพนี้รู้จักกันน้อยกว่าที่ปรึกษาคนสำคัญของอ๋องโกวเจี้ยน อ๋องแคว้นเยว่ ที่ใช้แผนหญิงงามกำจัดอ๋องแคว้นอู๋

แต่คนดูหนังจีน จะรู้จักมากกว่า ฟ่านหลี คนนี้ คือ คนปั้น และเป็นสามี “ไซซี” หนึ่งในสี่หญิงงามแห่งแผ่นดินจีน

เหยียนมู่สุ่ย เขียนไว้ ใน “ประโยคอมตะ ประวัติศาสตร์จีน (รำพรรณ รักศรีอักษร แปล โพสต์บุ๊กส์ พิมพ์ พ.ศ.2558) ว่า ปลายสมัยชุนชิว เมื่อเยว่หวังโกวเจี้ยน เจ้าครองแคว้นเยว่ ทำลายแคว้นอู๋ได้ราบคาบ ก็ตั้งตนเป็นใหญ่

เหวินจ่ง กับฟ่านหลี สองกุนซือข้างกาย มีความชอบมากที่สุด โกวเจี้ยนแต่งตั้งเหวินจ่ง เป็นอัครมหาเสนาบดี

แต่งตั้งฟ่านหลี เป็นแม่ทัพใหญ่

เหวินจ่งเต็มใจรับ แต่ฟ่านหลีไม่รับ เขาบอกโกวเจี้ยนว่า ” “ท่านหวัง ข้าได้บรรลุหน้าที่แล้ว บัดนี้ถึงเวลาที่ข้าควรจากไป” แท้จริงฟ่านหลีรู้จักโกวเจี้ยนดี

โกวเจี้ยนนั้นความจริงดีใจ แต่แสร้งบอก “อาจารย์ฟ่านหลี อย่างนี้คงไม่ดีแน่ คนเข้าใจก็จะพูดว่า ท่านทำความดีความชอบโดยไม่หวังชื่อเสียง คนไม่เข้าใจก็จะพูดว่า ข้าใจแคบ”

“ท่านหวังมีน้ำใจกว้างขวางมาตลอด” ฟ่านหลีว่า “เมื่อเวลาผ่านไป ทุกคนก็จะเข้าใจดี”

วันรุ่งขึ้น ฟ่านหลีก็พาครอบครัวออกไปจากแคว้นเยว่โดยเงียบๆ

แม้ฟ่านหลีจากไปไกล แต่เขาก็ยังเป็นห่วงเหวินจ่งผู้เป็นสหาย เขาวิตกว่า ไม่ช้าเมื่อเหวินจ่งลุ่มหลงในตำแหน่งลาภยศก็จะถูกโกวเจี้ยนกำจัดทิ้ง

...

เขาเขียนจดหมายถึงเหวินจ่ง “โกวเจี้ยนดูภายนอกเป็นคนมีน้ำใจ แต่ความจริงจิตใจคับแคบ คนเช่นนี้ร่วมทุกข์ได้ แต่ร่วมสุขไม่ได้ อย่าลืม เมื่อนกบินหนีไป เก็บธนูไว้ข้างกาย กระต่ายตายต้มหมาล่าเนื้อ”

ฟ่านหลีเตือนสหาย ประโยคสุดท้าย “หากท่านยังขืนอยู่ต่อไป จะสายเกินแก้”

เหวินจ่งไม่เชื่อว่าโกวเจี้ยนจะเป็นเช่นที่ฟ่านหลีว่า เขาเขียนจดหมายตอบว่า “เหล่าฟ่านเจ้าไม่ควรจากไป แล้วยังมาแนะนำให้ข้าต้องไป เราสองคนเคยทำผลงานยิ่งใหญ่ ตอนนี้ควรถึงเวลาที่จะเสวยสุข”

ฟ่านหลีอ่านจดหมายแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ

การเมืองในแคว้นเยว่เป็นเช่นที่ฟ่านหลีว่า เหวินจ่งนั่งเก้าอี้ อัครมหาเสนาบดีก้นไม่ทันอุ่น

วันหนึ่งโกวเจี้ยนก็เรียกไปบอก “อาจารย์สอนเจ็ดกลยุทธ์ทำลายแคว้นอู๋ ข้าใช้ไปแค่สามกลยุทธ์ก็ทำลายแคว้นอู๋ได้โดยง่าย เหลืออีกสี่กลยุทธ์ยังไม่ได้ใช้

ขอให้อาจารย์นำกลยุทธ์ที่เหลือมาใช้กับตัวเองเถิด”

พูดจบโกวเจี้ยนก็ยื่นกระบี่ให้ เหวินจ่งเข้าใจเขาร้องตระโกน “ฟ่านหลีเอ๋ย เสียดายที่ข้าไม่เชื่อเจ้า” แล้วก็ใช้กระบี่เชือดคอตัวเองตาย

จบเรื่องนี้ มีคำอธิบาย เรื่องทำนองนี้ยังคงมีต่อไป ความละโมบและความเห็นแก่ตัวเป็นสันดานของมนุษย์ มีพลังในการควบคุมมนุษย์ อยู่เหนือศีลธรรมที่มนุษย์เรียนรู้ทีหลัง

เมื่อทำการใหญ่สำเร็จ ผู้มีอำนาจสูงสุดจะสังหารขุนนางที่สร้างความชอบ

เรื่องแบบเมื่อกระต่ายตาย ฆ่าหมาไล่เนื้อ ผมก็จำไม่ได้เสียแล้ว เคยเกิดขึ้นหรือไม่ในบ้านเมืองแบบเราๆ ที่ว่ากันว่ามีแต่ผู้นำที่ทั้งเก่งทั้งดี.

กิเลน ประลองเชิง