นายวราวิช กำภู ณ อยุธยา ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้าง ศธ. เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาถึงปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นหลังได้มอบหมายให้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ตั้งคณะทำงานร่วมกัน เพื่อพิจารณาเนื้องานต่างๆ โดยที่ประชุมมีข้อสรุปว่า ไม่มีงานใดของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) และสำนักงานเขตพื้นที่ (สพท.) ไม่ทับซ้อนกัน ส่วนกลุ่มงานสีเทาที่ไม่สามารถแบ่งกันได้อย่างชัดเจนนั้นได้มีการวิเคราะห์ร่วมกันทั้งสองฝ่ายแล้วพบว่า ไม่มีกลุ่มงานสีเทาที่ไม่สามารถแบ่งงานกันได้ โดยเนื้องานใดที่เกี่ยวข้องกับ กศจ.ก็ให้ กศจ.ดำเนินการ และหากงานใดเป็นหน้าที่ของ สพท.ก็ให้ สพท.ดำเนินการ ดังนั้นจึงถือว่าการปรับโครงสร้างครั้งนี้ไม่มีเรื่องใดที่ไม่ลงตัว
ที่ปรึกษา รมว.ศธ.กล่าวอีกว่า สำหรับการแต่งตั้งบุคลากรในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้แก่ ผู้อำนวยการโรงเรียนและข้าราชการครู และ บุคลากรทางการศึกษา ซึ่งเป็นบุคลากรที่ขึ้นตรง กับ สพฐ. แต่ขณะนี้แต่งตั้งโยกย้ายโดยคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) จึงทำให้เกิดปัญหา ที่ประชุมพิจารณาแล้วมีมติว่า บุคลากรของหน่วยงานใดก็ต้องให้หน่วยงานต้นสังกัดนั้นๆเป็นผู้มีอำนาจเลื่อน ลด ปลด ย้ายได้ จะทำให้เกิดประสิทธิภาพ ซึ่งก็คือให้ สพฐ.เป็นผู้มีอำนาจแต่งตั้งโยกย้ายได้ แต่การโยกย้ายนั้นจะให้พิจารณาในภาพรวมระดับจังหวัด อาทิ จังหวัดที่มีเขตพื้นที่ 8 เขต ก็ให้พิจารณาโยกย้ายครู ผู้บริหารข้ามเขตพื้นที่ได้ภายในจังหวัด กรณีที่ย้ายข้ามจังหวัดให้เสนอเรื่องมาที่ส่วนกลางเป็นผู้พิจารณา ดังนั้นในการโยกย้ายข้าราชการ สพฐ.ก็รับไปปรับแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป อย่างไรก็ตาม ถือว่าข้อสรุปทั้งหมดได้ประโยชน์ทุกฝ่ายโดยไม่ส่งผลกระทบกับใครทั้งสิ้น และมาถึง จุดนี้ก็ยืนยันได้ว่าไม่มีการยุบทั้ง กศจ.และเขตพื้นที่อย่างแน่นอน.
...