ไม่รู้ไปเอาพฤติกรรมเถื่อนถ่อยทำร้ายกันไม่เลือกที่มาจากไหน? คิดว่าจะเงียบไป หลังจากมีเหตุตีกันเกิดขึ้นในโรงพยาบาลติดกันหลายครั้ง จนหลายฝ่ายในกระบวนการยุติธรรมออกมาปรามให้เกรงกลัวกฎหมาย...
แต่เมื่อยังไม่มีใครถูกลงโทษสถานหนักให้เห็นเป็นตัวอย่างจริงๆ เลยยังไม่มีใครเกรงกลัว?
ล่าสุดยังเข้าไปลุยกันในโรงพยาบาล คราวนี้มันเล่นโยนประทัดลูกบอลใส่กันเลย เหตุเกิดใน รพ.เซ็นทรัลปาร์ค ถนนบางนา-ตราด ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
ทำให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล คนป่วย และญาติที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่บาดเจ็บหลายคน!
แต่ไม่นานตำรวจตามจับวัยรุ่น 5 คน อายุยังไม่ถึง 20 ด้วยซ้ำ เปิดปากรับสารภาพอ้างโน่น...อ้างนี่...
สุดท้ายมันอยู่ที่ตัวเองจะตัดสินใจเข้าไปอยู่สถานการณ์ล่อแหลมต่อการติดคุกติดตะรางหรือเปล่า?
ยิ่งนับวันการบุกเข้าไปก่อความรุนแรงในโรงพยาบาลจะมากขึ้น อย่างสถิติเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสถานพยาบาลสังกัด สธ.ปี 2558 เกิดเหตุ 7 ครั้ง ปี 2559 เกิดเหตุ 4 ครั้ง ปี 2560 เกิดเหตุ 10 ครั้ง ปี 2561 เกิดเหตุ 17 ครั้ง และช่วง 4 เดือนของปี 2562 เกิดเหตุแล้ว 11 ครั้ง!
มันดูเหมือนจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ เพราะความไม่เกรงกลัวกฎหมาย?!
จนอัยการต้องออกมาปรามด้วยอีกแรง นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า ห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาลเป็นพื้นที่ห้ามเข้าตามกฎหมายอยู่แล้ว หากใครฝ่าฝืนเข้าไปถือว่าเป็นการบุกรุก มีโทษทางอาญาสูงสุดจำคุกตั้งแต่ 3-15 ปี
เพื่อให้หลาบจำและไม่ให้เกิดการกระทำลักษณะนี้อีก อัยการจะบรรยายพฤติกรรมว่า การบุกรุกโรงพยาบาลเป็นพฤติกรรมอุกอาจ ท้าทายกฎหมาย เพื่อให้ผู้กระทำผิดได้รับโทษสูงสุด 15 ปี
หากมีการทำร้ายร่างกายผู้ป่วยขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ให้การรักษาอยู่ จะถือเป็นการกระทำที่มีเจตนาฆ่า มีโทษร้ายแรงถึงขั้นประหารชีวิต
...
นอกจากคดีอาญาแล้วยังฟ้องแพ่งด้วย เพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย ทั้งทางร่างกายและทรัพย์สิน เนื่องจากอุปกรณ์ทางการแพทย์มีราคาแพงมาก
หากไม่มีเงินชดใช้ จะตามยึดทรัพย์ ยึดบ้าน ยึดที่ดิน ถูกนำทรัพย์สินมาขายทอดตลาด
เพราะฉะนั้น จะเข้าไปราวีกันในโรงพยาบาลต้องคิดให้หนัก พอโดนคดีแล้วมันถอยหลังไม่ได้นะครับ...
สหบาท