อาการมันฟ้อง... เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนทุกอย่างก็เปลี่ยนไปอันเป็นเรื่องปกติ จับอาการ “ทักษิณ ชินวัตร” ย่อมอ่านออกได้ว่า เกิดความต่างระหว่างก่อนหน้านี้กับปัจจุบันนั้น ต่างกันอย่างชัดเจนจากที่เคยอวดเก่ง อหังการ เหนือกว่าทุกคนแต่วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้วกรณีความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา หากเป็นแต่ก่อน “ทักษิณ” คงแสดงอะไรมากกว่านี้ แต่ครั้งนี้กลับทำแค่เพื่อให้ลูกสาวพ้นผิดเท่านั้น คือ ให้ข้อมูลด้านที่เป็นบวกแต่ไม่กล้าที่จะแสดงบทอื่นๆ แม้กระทั่งแสดงความเหนือกว่า “ฮุน เซน” ก็ไม่ทำหรืออย่างการที่ “แพทองธาร ชินวัตร” ลูกสาว ในฐานะนายกรัฐมนตรี ที่ถูกศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ก็ไม่ได้ฟาดหัวฟาดหางใส่องค์กรอิสระอย่างที่เคยทำมาตรงข้ามบอกเพียงว่ามั่นใจว่าน่าจะรอด ไม่มีคอมเมนต์แต่อย่างใดที่สำคัญก็คือ การแสดงถึงการยอมรับคำวินิจฉัย ผลออกมาอย่างไร ก็ไม่มีปัญหา อ้างว่าเป็นกติกาที่จะต้องปฏิบัติตามนั่นก็คือการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีคนใหม่“ชัยเกษม นิติสิริ” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ตัวแทนของ “เพื่อไทย” ที่เหลืออีก 1 คน ให้สภาโหวตแพ้ชนะก็ว่ากันไปพูดง่ายๆว่ายอมรับโดยดุษณี!เพียงแต่ยืนยันว่า รัฐบาลที่ “เพื่อไทย” คุมอำนาจจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ถ้าไม่ได้ก็ “ยุบสภา” ซึ่งเป็นทางเลือกสุดท้ายแต่ยืนยันลูกสาวจะไม่ “ยุบสภา” -ไม่ “ลาออก” อย่างเด็ดขาดลองย้อนภาพกลับไปจะเห็นว่า “ทักษิณ” เปลี่ยนไปจากคนเดิมค่อนข้างชัดเจน เหมือนไร้น้ำยาไม่มีพิษสงแล้วแม้กระทั่งการกล่าวถึงการเมืองทั่วๆไป ยังบอกว่ากติกาที่ใช้ในปัจจุบันนั้น คือปัญหาเพราะคนเขียนกลัวเขาจนทำให้รัฐธรรมนูญปิดกั้นทุกอย่างทำให้การเมืองบิดเบี้ยวก็ต้องมีการแก้ไข!จากนั้นได้พูดถึงพรรคการเมืองต่างๆ เปรียบว่าการเมืองนั้นไม่มีมิตรแท้ ศัตรูถาวร อะไรก็เกิดขึ้นได้และเปลี่ยนได้ไม่ว่า “ภูมิใจไทย” กับ “เพื่อไทย” ก็ตามวันนี้แตกจากกัน แต่วันหน้าอาจจะมาร่วมกันอีกได้!หรือพรรค “ประชาชน” ที่ “ทักษิณ” เคยดูแคลนว่าเป็นพรรคคนรุ่นใหม่ไม่มีประสบการณ์ ไม่มีทางสู้ “เพื่อไทย” ได้วันนี้ “ทักษิณ” บอกว่าทั้ง 2 พรรคนั้น มีแนวทางเหมือนกันคือขายนโยบายคล้ายจะบอกว่า เมื่อมีแนวเดียวกันก็สามารถร่วมงานกันได้“เพื่อไทย” สามารถร่วมรัฐบาลกับพรรคไหนก็ได้ แต่พรรคนั้นจะต้องไม่มีประเด็นเกี่ยวกับสถาบันและ ม.112ปกติที่ผ่านมา “ทักษิณ” ต้องบอกว่าเขาไม่เอามาร่วมรัฐบาลด้วยหรอกนี่ก็เป็นภาพสะท้อนความเป็นไปทางการเมืองที่ทำให้เห็นว่าไม่มีอะไรแน่นอน ทุกอย่างพร้อมจะเปลี่ยนแปลงได้อย่าง “ทักษิณ” ที่ความมั่นใจได้ลดลงไปตามสภาพที่เป็นจริง ทำให้เขาต้องยอมรับ ไม่อวดเก่ง ไม่ทับถมคนอื่นเพราะเขารู้ดีวันนี้ไม่ใช่วันของเขาแล้ว!"สายล่อฟ้า"คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม