“แพทองธาร” เข้ากระทรวงวัฒนธรรมวันแรก รมต.-สส.เพื่อไทยตบเท้าแห่ไปส่ง บ่นแย่ที่สุดถูกพักงานนายกฯ แต่พลังยังเหลือๆลุยงาน วธ. “สุริยะ” ประกบหลานเลิฟเข้ากระทรวงแรงงาน “พงศ์กวิน” รับประหม่า แต่พร้อมสู้ “ภูมิธรรม” นำทัพ รมช.เข้ากระทรวง มท. สั่งการเข้มล้างทุกสี มีแต่สิงห์มหาดไทย ลั่นลุยยาเสพติด-อาชญากรข้ามชาติ-ผู้มีอิทธิพล ขีดเส้น 3 เดือน ใครไม่เวิร์ก โดนย้าย ขู่ฮึ่มล้างบางพวกเกียร์ว่าง ปชป.เลือดไหลไม่หยุด “ดร.เอ้” โบกมือลา หึ่งจับมือ “กัลยา” ตั้งพรรคไทยก้าวใหม่ ลุยการเมืองระดับชาติ “วันนอร์” ป้องสภาฯล่มเหตุ รมต.ติดประชุม ครม.นัดพิเศษ จี้วิป 2 ฝ่ายหารือล้อมคอก “ไหม” หยันสะท้อน รบ.ง่อนแง่นเต็มที แจง ปชน.พร้อมยกมือให้ทุกพรรคที่รับเงื่อนไข “เท้ง” ยันไม่มีดีลหลังบ้านล็อกนายกฯชั่วคราวคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่เดินทางเข้ากระทรวง เริ่มปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.วัฒนธรรม ที่อยู่ระหว่างถูกสั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งนายกฯ ไปเริ่มต้นงานใหม่ ที่กระทรวงวัฒนธรรม โดยมีบรรดารัฐมนตรีและ สส.พรรคเพื่อไทยแห่ตามไปส่ง พร้อมให้กำลังอย่างพร้อมเพรียง“อิ๊งค์” เข้า วธ. รมต.–สส.พท.แห่ส่งเมื่อเวลา 09.09 น. วันที่ 4 ก.ค. ที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.วัฒนธรรม สวมชุดผ้าไทยสีม่วงสีประจำกระทรวง เดินทางเข้ากระทรวงวัฒนธรรมเป็นวันแรก มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รมช.ศึกษาธิการ นาย พลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ กรรมการผู้ช่วย รมว.วัฒนธรรม นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม คณะผู้บริหารกระทรวง วธ. พร้อม สส.พรรคเพื่อไทย อาทิ รอต้อนรับให้กำลังใจ โดย น.ส.แพทองธารสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง อาทิ พระพุทธสิริวัฒนธรรโมภาส พระสยามเทวาธิราช ศาลตา-ยาย แล้วไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำศูนย์วัฒนธรรม อาทิ พระพุทธชินราช พระพิฆเนศ ศาลพระภูมิปลัด วธ.หวานพร้อมสนองนโยบายต่อมานายกฯพบปะผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม โดยนายประสพกล่าวต้อนรับว่า นโยบายที่รัฐบาลผลักดันคือซอฟต์พาวเวอร์ ต่อยอดวัฒนธรรมส่งเสริมเศรษฐกิจ เชื่อว่าพลังซอฟต์พาวเวอร์จะแข็งแกร่งเกิดขึ้นแน่นอนในยุคที่นายกฯ มาควบ รมว.วัฒนธรรม พวกเราจะสนองนโยบายการทำงานอย่างเต็มที่ ภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร จะเป็นบทบาทสำคัญในการยกระดับกระทรวงวัฒนธรรมบ่นแย่หยุดนายกฯ พลังยังเหลือจากนั้น น.ส.แพทองธารกล่าวทักทายข้าราชการว่า ก่อนหน้านี้เคยได้ยินว่ากระทรวงวัฒนธรรมเป็นกระทรวงเล็กๆ แต่วัฒนธรรมของเราทั่วโลกชอบ มีมูลค่าในตัวเอง ตอนนี้อาจแย่หน่อยที่ต้องหยุดทำหน้าที่นายกฯ แต่ดีใจมากที่ได้โอกาสทำงานในส่วนของ รมว.วัฒนธรรม ถือเป็นรัฐมนตรีครั้งแรกฝากเนื้อฝากตัวด้วย อยากให้กระทรวง วธ.เติบโตและยิ่งใหญ่เหมือนหลายประเทศ เช่น เกาหลีใต้ที่ใช้กระทรวงวัฒนธรรมสร้างรายได้ให้ประชาชน เพิ่มรายได้ใหม่ๆ อยากทำให้กระทรวงวัฒนธรรมเป็นเครื่องมือหลักขับเคลื่อนอาชีพใหม่ๆ และโอกาสใหม่ให้คนไทย ตอนนี้ได้พักทำหน้าที่นายกฯ แต่มีโอกาสได้ทำหน้าที่ รมว.วัฒนธรรมเต็มที่ พร้อมแล้วค่ะ ยังมีพลังเหลืออีกเยอะมากในการทำงาน หวังว่าทุกคนจะมีพลังมากๆเช่นกัน“พงศ์กวิน” ถือฤกษ์ยามยิบเริ่มงานที่กระทรวงแรงงาน นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.แรงงาน ถือฤกษ์เวลา 08.19 น. เข้ากระทรวง มีนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นำอธิบดีทุกกรมและคณะผู้บริหารกระทรวงรอต้อนรับหน้าตึก 15 ชั้น ก่อนนำขึ้นห้องทำงานบนชั้น 6 ใช้ฤกษ์นั่งเก้าอี้เซ็นรับตำแหน่งเวลา 08.39 น. โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม นำดอกไม้เข้าให้กำลังใจหลานชาย จนเวลา 09.19 น. นำดอกไม้ธูปเทียนเข้าสักการะพระพุทธสุทธิธรรมบพิตร พระพุทธชินราช ศาลพ่อปู่ชัยมงคล ศาลท้าวมหาพรหมเทวฤทธิ์และศาลพ่อปู่ชินพรหมมา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงแรงงาน 5 จุดยอมรับประหม่าแต่ก็พร้อมสู้นายพงศ์กวินกล่าวยอมรับว่าประหม่าแต่ก็พร้อมสู้ เตรียมพร้อมทำงานเต็มที่ มีเรื่องของผู้ใช้แรงงานที่ยังเป็นปัญหาหลายเรื่อง ศึกษารายละเอียดต่างๆ ไว้เรียบร้อยแล้ว เรื่องตึก Skyy 9 และอีกหลายเรื่องจะขอไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม ไม่ต้องห่วงจะทำให้ชัดเจนแน่นอน มีเป้าหมายทำให้เป็นกระทรวงแรงงานเพื่อโอกาสแรงงานไทย ด้านนายสุริยะ กล่าวว่า ตนกำกับดูแลกระทรวงแรงงานจึงมาให้กำลังใจ นโยบายของพรรค พท.เรื่องค่าจ้าง 600 บาท ภายใน ปี 2570 กระทรวงแรงงานคงต้องไปพิจารณา ได้ข้อมูลครบถ้วนแล้วค่อยมาหารืออีกครั้งแรงงานเก็บผลไม้ตะโกนหา รมต.ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่กระทรวงแรงงาน น.ส. ธนพร วิจันทร์ เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน นำสหภาพคนทำงานต่างประเทศแห่งประเทศไทย และกลุ่มแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการไปทำงานเก็บผลไม้ป่าที่ประเทศฟินแลนด์หลายจังหวัดมาชุมนุมใต้ตึกที่ทำงานรัฐมนตรี ใช้โทรโข่งตะโกนเรียกนายพงศ์กวินให้ลงมารับฟังปัญหาถูกหลอกไปทำงาน ไม่ได้ค่าจ้าง ขอให้ช่วยเหลือเยียวยา แต่รอนานกว่า 2 ชั่วโมง ยังไม่ได้พบ จึงมาดักรอทางลงลิฟต์ชูป้ายเรียกร้องให้หยุดขบวนการค้ามนุษย์แรงงานเก็บเบอร์รี่ป่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดินแดง 8 นาย ดูแลความเรียบร้อย“ภูมิธรรม” นำทีม รมช.เข้ากระทรวงขณะที่เวลา 08.30 น. ที่กระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย (มท.) สวมชุดสีกากี เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่เป็นวันแรก พร้อมนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย มี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัด มท. นำคณะผู้บริหารระดับสูง มท. หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ข้าราชการและสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ทั้งหมดสวมชุดข้าราชการสีกากีรอต้อนรับ จากนั้นนายภูมิธรรม นำคณะเข้าถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บริเวณหน้าพระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร และเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ พระตำหนัก เข้าสักการะสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ณ อาคารสัมฤทธิ์วิทยากร วัดราชบพิธสถิต มหาสีมาราม ราชวรวิหาร แล้วกลับเข้า มท.สักการะศาลพระชัยมงคล ศาลพระกาฬไชยศรี และพระอนุสาวรีย์สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงทุกจุดล้างทุกสีลั่นมีแต่สิงห์มหาดไทยจากนั้นนายภูมิธรรมมาประชุมมอบนโยบายให้กับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ประจำ มท.ที่มี ผวจ.ปริมณฑลและจังหวัดใกล้เคียง 15 จังหวัดร่วมประชุม ที่ห้องราชสีห์ โดยประชุมผ่านระบบ Video Conference ไปยังศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัด ที่มีหัวหน้าหน่วยงานในสังกัด มท.ประจำภูมิภาค หัวหน้าหน่วยงานในสังกัด มท. ส่วนกลางประจำภูมิภาค ร่วมประชุมและถ่ายทอดการประชุมไปยังที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง มีนายอำเภอ ปลัดอำเภอ พัฒนาการอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมรับฟัง นายภูมิธรรมกล่าวว่า หวังว่าจะทำให้ มท.เป็นหนึ่งเดียวขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล ทำให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤติ อยากเห็นความเป็นปึกแผ่นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ที่นี่ไม่มีสิงห์แดง สิงห์ดำ สิงห์ขาว สิงห์เขียว สิงห์ทอง สิงห์น้ำเงินไม่มี มีแต่สิงห์ของ มท. ไม่สนับสนุนให้เล่นพรรคเล่นพวก ต้องการคนมีความสามารถ ทำงานพิสูจน์ตัวเองได้เลย หัวใจสำคัญของการบริหารราชการแผ่นดิน ถ้านโยบายออกมาแล้วไม่ขยับ ไม่เข้มข้น ไม่ดำเนินการ เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ ใครยังนิ่งเฉยหรือใกล้เกษียณแล้วไม่ทำอะไร ถ้ามีปัญหาสำคัญต้องจัดการให้จบลุยยานรก–อาชญากรข้ามชาติ–ผู้มีอิทธิพลนายภูมิธรรมกล่าวว่า ก่อนมา มท.ได้จัดการแก้ไขปัญหาเป็นผู้รับผิดชอบซีล สต็อป เซฟใน 14 จังหวัด แต่คราวนี้เน้นแก้ปัญหายาเสพติดทั่วประเทศ วันนี้ต้องหยุด เป็นหน้าที่ของ ผวจ.และผู้บังคับการจังหวัด มท.เป็นเรือธงสำคัญต้องดำเนินการให้ได้ ร่วมกับศูนย์ยาเสพติดของ ป.ป.ส. ทหารและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะประชุมวันที่ 14 ก.ค.บูรณาการทุกภาคส่วนให้เป็นเอกภาพ รวมถึงการปราบปรามผู้มีอิทธิพล อาชญากรข้ามชาติ ในฐานะรองนายกฯ ดูแลด้านความมั่นคง ดูแล ปปง.จะสาวไปถึงเส้นทางการเงิน เร็วๆนี้จะทยอยให้เห็นว่าใครบ้างที่เข้าไปเกี่ยวข้องขีดเส้น 3 เดือนไม่เวิร์ก โดนย้ายนายภูมิธรรมให้สัมภาษณ์หลังมอบนโยบายว่า อยากเห็นผลงานเป็นรูปธรรมจับต้องได้ภายใน 3 เดือน ถ้าไม่อย่างนั้นขออนุญาตก่อนถึงเดือน ก.ย.ขอปรับกำลังใหม่ เพื่อให้ได้คนเหมาะกับงาน ตอบสนองการแก้ไขปัญหาได้ ไม่ว่าข้าราชการทุกระดับ ถ้าอยากเห็นอะไรดีขึ้น คิดว่าเป็นปัญหาให้มาบอก ประตูห้องตนเปิดตลอดเวลา ให้ปลัด มท. รองปลัด มท. ผู้ตรวจราชการ มท. และอธิบดี รวมทั้ง ผวจ.ทุกคน อยากเห็น มท.เป็นอย่างไร อะไรที่รู้สึกอึดอัดติดใจอยากทำแล้วไม่ได้ทำขอให้มาบอก ถ้ามาบอกแล้วกล้าทำ ทำได้ก็สนับสนุน ถ้าทำไม่ได้ก็ได้พิสูจน์กันตามศักยภาพที่มี ภายใน ก.ย.นี้ได้เห็นแน่ ใครทำอะไรถูกต้องเหมาะสมกับงานตัวเองเพียงใด ถ้ายังไม่ดีขอปรับ ทำให้ทุกคนตื่นตัว ทำงานได้เต็มที่ขู่เข้มล้างบางพวกเข้าเกียร์ว่างเมื่อถามว่า ช่วงนายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ส่งผลให้ข้าราชการเกียร์ว่างหรือไม่ เนื่องจากประเมินกันว่ารัฐบาลอยู่ได้ไม่กี่เดือน นายภูมิธรรมตอบว่า ถ้าไม่ทำถ้าเกียร์ว่าง เท่ากับโดนมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เชื่อว่าข้าราชการทุกคนพร้อมทำงาน ที่ไม่ใช่รับใช้ใคร แต่เป็นการแก้ปัญหาวิกฤติของประเทศ ทั้งนี้ คนเกียร์ว่างแปลว่าไม่อยากทำงาน ก็ต้องทำให้ไม่ทำงาน“ดร.หญิง”รับสะกดคำผิดขอปรับปรุงตัวน.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ หรือ ดร.หญิง รมช.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์การพิมพ์ภาษาไทยผิดว่า ขอยอมรับอย่างซื่อตรงว่าบางครั้งเกิดความผิดพลาด บางครั้งใช้ไมค์ทอล์กให้พิมพ์อัตโนมัติ ยอมรับด้วยความจริงใจว่าเกิดความผิดพลาด ได้มารับตำแหน่ง รมช.ศึกษาธิการจะปรับปรุง หลังจากนี้เรื่องผิดพลาดเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้น อยากเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็กและเยาวชน ส่วนการออกเสียงควบกล้ำ ตนมีปัญหาสุขภาพ แต่จะทำให้ดีที่สุด หากใครได้ติดตามเป็นคนพูดเรื่องการศึกษาของพรรค พท.มาตลอด เช่น การสอบ TCAS การทำโครงการให้เด็กไทยมีสุขภาวะจิต จะนำมาสานต่อในกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องที่ผิดพลาด ยอมรับ แต่การทำงานได้มาทำหน้าที่ตรงนี้อยากให้มองเนื้องานเต็มที่ เพราะตั้งใจแก้ปัญหาการศึกษาและปัญหาครู หลังจากนี้ทุกคนจะได้เห็นว่าจะทำอะไรได้บ้าง แต่ต้องหารือกับ รมว.ศึกษาธิการก่อนจับตา “จักรภพ” คัมแบ็กโฆษก รบ.ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า การประชุม ครม.ครั้งต่อไปวันที่ 8 ก.ค.ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกฯ เป็นประธานการประชุม นอกจากวาระปกติแล้ว คาดว่าจะมีการเสนอแต่งตั้งข้าราชการการเมืองของรัฐมนตรีใหม่ และมีรายงานข่าวว่าจะมีการเสนอชื่อแต่งตั้งโฆษกประจำสำนักนายกฯคนใหม่ มีชื่อนายจักรภพ เพ็ญแข อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ และอดีตโฆษกประจำสำนักนายกฯมาแทนนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โดยนายจักรภพได้กรอกประวัติและตรวจสอบคุณสมบัติเรียบร้อยแล้ว ส่วนรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ 1 ตำแหน่งที่ว่างคาดว่าจะเป็นโควตาพรรค พท.“เดชอิศม์” มอง ปชป.อยู่ช่วงรีเซ็ตที่กระทรวงมหาดไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรค ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ปชป.ว่าเสียดายเหมือนกัน เขาเป็นคนดี มีคุณภาพ ตอนนี้พรรคอยู่ในช่วงรีเซ็ต เหมือนที่ตนบอกพรรค ปชป.ต่อจากนี้จะต้องมีเอกภาพเท่านั้น ถ้าไม่มีเอกภาพแปลว่าสมัยหน้าจะไม่มีชื่อเดชอิศม์ ขาวทอง อยู่ในพรรค ปชป. เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ เพราะเหมือนพรรค ปชป.เลือดจะไหลออกอย่างต่อเนื่อง นายเดชอิศม์กล่าวว่า เป็นธรรมชาติของพรรค ปชป. เพราะเป็นพรรคที่ไม่มีเจ้าของ จะสั่งด้วยคนเดียวไม่ได้ ทุกอย่างอยู่ด้วยมติของพรรค หลายคนรับมติพรรคไม่ได้ก็ต้องไป เพราะหากไม่เคารพมติพรรค ไม่ปฏิบัติตามมติพรรค เราก็อยู่ไม่ได้จนถึงทุกวันนี้มั่นใจ 25 เสียง ปชป.ในสภาอยู่ครบเมื่อถามว่าจะมั่นใจในสภาได้หรือไม่ว่าพรรคปชป.จะมีเสียงอยู่ครบ นายเดชอิศม์กล่าวว่า ครบ เพราะเป็นมติพรรคทุกคนต้องปฏิบัติตาม พรรค ปชป.มี 25 เสียงแน่นอน การโหวตจะไม่มีผิดพลาด เมื่อถามว่าถ้ามีคนงดออกเสียงจะเป็นความผิด มีบทลงโทษหรือไม่ นายเดชอิศม์กล่าวว่า ถือว่าไม่ได้ปฏิบัติตาม มติพรรค อาจมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูข้อเท็จจริง มติพรรคกับเอกสิทธิ์ สส.ต้องแยกกัน ส่วนการประชุมสภาฯวันแรกเกือบล่ม จำนวนคนในรัฐบาลน้อยลง ต้องกำชับมากขึ้นและต้องเข้มงวด สมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ เสียงปริ่มน้ำมากกว่านี้ ถ้าทุกคนรับผิดชอบการประชุมสภาฯ เชื่อว่ารัฐบาลไปได้ หากว่างเว้นจากการทำงานไปสภาฯเลย“ดร.เอ้” ไขก๊อกทิ้ง ปชป.อีกรายก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 08.45 น. ที่พรรค ปชป.นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ อดีตรองหัวหน้าพรรค มอบหมายให้เลขานุการยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคและทุกตำแหน่งภายในพรรค ต่อมาเวลา 10.00 น. นายสุชัชวีร์เข้ามาที่พรรคกราบสักการะองค์พระแม่ธรณีบีบมวยผม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำพรรค แล้วแถลงถึงการลาออกดังกล่าวว่า ได้ยื่นหนังสือ ลาออกจากสมาชิกพรรค มีผลตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. เป็นต้นไป ได้โทรศัพท์ไปหานายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค แจ้งเรื่องขอลาออกแล้ว การตัดสินใจก้าวออกจากพรรคในครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากความขัดแย้ง แต่เกิดจากอุดมการณ์ที่ยึดมั่นมาตลอดที่ต้องการทำการเมือง ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในประเทศอย่างแท้จริง จะมุ่งมั่นเริ่มต้นแก้ปัญหาประเทศด้วยการพัฒนาคนเรื่องการศึกษา ได้ตัดสินใจอย่างรอบคอบว่าจากนี้ไปจะใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์ทั้งหมดไปใช้เปลี่ยนแปลงประเทศรับคุย “กัลยา” ตั้งพรรคไทยก้าวใหม่เมื่อถามว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะพรรคตัดสินใจร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ ทำให้การเมืองจมอยู่ที่เดิม นายสุชัชวีร์กล่าวว่า เป็นการตัดสินใจของพรรค ตนให้เกียรติหัวหน้าพรรคและผู้ใหญ่ในพรรค ขอย้ำเหตุผลว่ามีความฝันอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงของประเทศ สถานการณ์ขณะนี้รอไม่ได้จริงๆ เชื่อว่าอีกหลายคนคิดแบบตนเช่นกัน ขณะนี้ไทยมีวิกฤติด้านการเมือง สังคม เศรษฐกิจและความมั่นคง หากต้องการเปลี่ยนแปลงมีจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดคือการพัฒนาคนและสร้างการศึกษา จึงตั้งใจมุ่งหน้าทำงานเรื่องนี้ เมื่อถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลต่อไปก็ผลักดันการศึกษาได้ นายสุชัชวีร์กล่าวว่า อย่างที่ทุกคนเห็นว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คงรอไม่ได้และถึงเวลาแล้ว เมื่อถามย้ำว่าจะไปตั้งพรรคไทยก้าวใหม่ และจะเป็นหัวหน้าพรรคด้วยตนเองใช่หรือไม่ นายสุชัชวีร์กล่าวว่า “ครับ แต่ขณะนี้ยังคุยกับผู้ร่วมอุดมการณ์เดียวกันอีกมาก” เมื่อถามว่ามีคุณหญิงกัลยา โสภณพนิชอดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป. ด้วยหรือไม่ นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า คุณหญิงกัลยาถือเป็นปูชนียบุคคลด้านการศึกษาและด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี อยู่ระหว่างพูดคุยกับคุณหญิง ขอให้ติดตาม และยังจะมีอีกหลายคน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่มีพลัง มีอุดมการณ์ มีความกล้าหาญ ดังนั้น อยากเชิญชวนทุกคนให้ออกมาทำงานด้านการเมืองร่วมกับตนรออีกสักพักค่อยเปิดตัวบ้านใหม่นายสุชัชวีร์กล่าวอีกว่า ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้ที่นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว และไปทำหน้าที่ รมว.วัฒนธรรม เป็นกำลังใจให้ และอยากขอให้ ครม.ชุดใหม่ได้วางทิศทางของประเทศ เพราะทั้งคนไทยและคนต่างชาติเสียความมั่นใจกับไทยไปมากแล้ว และไม่ขอวิจารณ์หน้าตารัฐมนตรีของกระทรวงศึกษาธิการทั้ง 3 คน ต้องให้โอกาสเพราะทั้ง 3 คนเพิ่งเริ่มต้นทำงาน ส่วนการจะเปิดตัวพรรคการเมืองใหม่ ยังคงต้องรออีกสักพัก เมื่อถามว่า มีเสียงสนับสนุนให้ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.สมัยหน้า นายสุชัชวีร์กล่าวว่า ที่จริงงาน กทม.เป็นงานที่ตนรัก แต่สถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้พวกเราทุกคนต้องช่วยกัน เกิดวิกฤติเศรษฐกิจเชื่อมโยงกับการศึกษา คนไทยไม่สามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้จริงๆ การศึกษาเป็นจุดเป็นจุดตาย เป็นทางรอดขอประเทศ จึงโฟกัสไปที่เรื่องการเปลี่ยนแปลงระดับประเทศ“กัลยา” อุบไต๋วันนี้ยังอยู่พรรค ปชป.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป.และอดีต รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ยอมรับ ได้พูดคุยกับนายสุชัชวีร์เห็นพ้องต้องกันว่าการจะพาประเทศก้าวข้ามปัญหาไปได้ คือต้องให้การศึกษาแก่คนรุ่นใหม่ เน้นการวิจัยและพัฒนาคน สิ่งนี้เท่านั้นที่จะนำพาชาติให้เจริญรุ่งเรืองและแก้ปัญหาต่างๆ ส่วนการตั้งพรรคการเมืองยังไปไม่ถึงจุดนั้น เพียงแค่คุยกัน ยังเป็นสมาชิกพรรค ปชป.ไม่ได้ลาออกไปไหน เมื่อถามย้ำว่าอนาคตจะลาออกเช่นเดียวกับนายสุชัชวีร์ หรือไม่ คุณหญิงกัลยากล่าวว่า ยังไม่ทราบ แต่วันนี้ยังอยู่กับ ปชป. และพรรคการเมืองอื่นก็ยังไม่ได้ตั้ง เป็นเพียงการพูดคุยและคิดตรงกันมุ่งเน้นเรื่องการศึกษา หลังจากนี้ต้องคุยกับนายสุชัชวีร์อีก“นิพนธ์” บอกอึดอัดกับบรรยากาศ ปชป.นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรองหัวหน้าพรรคปชป. ปฏิเสธกระแสข่าวจะไปตั้งพรรคไทยก้าวใหม่ร่วมกับนายสุชัชวีร์และคุณหญิงกัลยาว่า ไม่ทราบที่มาของข่าว และไม่ได้พูดคุยกับนายสุชัชวีร์ที่จะไปตั้งพรรคใหม่ ได้สอบถามคุณหญิงกัลยาที่มีชื่อด้วย บอกว่าท่านยังไม่ได้คิดที่จะตั้งพรรคใหม่ ขณะนี้ยังเป็นสมาชิกพรรค ปชป.อยู่ แต่อนาคตจะเป็นอย่างไรท่านยังพิจารณาอยู่เป็นระยะ คงอยู่ในสภาพเดียวกันกับอีกหลายคนที่อยู่ในสภาวะอึดอัดกับบรรยากาศในพรรค ทุกคนยอมรับว่าอึดอัด แต่ถึงขนาดไปตั้งพรรคใหม่หรือไม่ ยังไม่ถึงขนาดนั้น“วันนอร์” ป้องสภาล่ม รมต.ติดถก ครม.นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯกล่าวถึงกรณีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ ชิงปิดประชุมสภาเมื่อวันที่ 3 ก.ค. หนีสภาฯล่มว่า เนื่องจากเป็นการประชุมวันแรก และรัฐมนตรีหลายคนเป็น สส.ติดประชุม ครม.นัดพิเศษ และมีประชุมคณะ กมธ.สามัญและ กมธ.วิสามัญ แต่เป็นหน้าที่ สส.ทุกคนทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ต้องมาประชุมให้ครบองค์ประชุม วิปฝ่ายค้านและวิปรัฐบาลควรคุยกันจะทำอย่างไรให้องค์ประชุมเดินหน้าได้ เพราะมีกฎหมายสำคัญค้างพิจารณาหลายฉบับ หากมีการนับองค์ประชุมเช่นนี้ การประชุม กมธ.อาจต้องประชุมวันอื่นที่ไม่ใช่วันพุธและวันพฤหัสฯ การเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำคงไม่เกี่ยวกับการประชุม รัฐบาลเสียงข้างมากก็ล่มได้ หากสมาชิกอยู่ในห้องไม่ครบ องค์ประชุมเป็นหน้าที่ สส.ทุกคน ส่วนข้อเสนอมีนายกฯเฉพาะกิจผ่านร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 69 ไปก่อน ไม่สามารถแสดงความเห็นได้ว่าเหมาะหรือไม่ แต่ถ้าเป็นตามกรอบรัฐธรรมนูญทุกฝ่ายดำเนินการได้ปรับได้เพื่อประโยชน์ประชาชน“ไหม” เย้ยสะท้อนรัฐบาลง่อนแง่นน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ประชุมสภาฯล่มว่า เรื่องนี้นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาลเตือน สส.แล้วว่าห้ามขาด ห้ามลา ห้ามมาสาย แต่ท้ายที่สุดสภาฯก็ล่ม คงเป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยดีนักในการโหวตกฎหมายสำคัญๆครั้งต่อไป แสดงถึงความไม่มีเสถียรภาพ ความง่อนแง่นของสถานะฝั่งรัฐบาล วันที่ 9 ก.ค. ประชุมนัดถัดไป มีร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เข้าเป็นลำดับแรก หากว่าจะขอถอนแต่ต้องมีการโหวตว่าจะยอมให้ถอนหรือไม่ให้ถอน เราต้องเดินหน้าโหวตไปเลยสำหรับกฎหมายฉบับนี้ หากถอนไปแล้วไม่ได้มีการแก้ไขไม่ควรถอน ดังนั้นวันที่ 9 ก.ค. จะเข้าสู่โหมดนับองค์ประชุมโดยปกติ ต้องมีการเช็กเสียงกันอีกครั้งในสภาวะเช่นนี้ไม่ได้มองว่าเล่นเกมทางการเมือง สมัยฝ่ายค้านร่วมกับพรรค พท. เราเรียนรู้การใช้แท็กติกต่างๆที่จะใช้เช็กเสียงพรรคร่วมรัฐบาลย้ำเงื่อนไข ปชน.ทางออกของประเทศน.ส.ศิริกัญญากล่าวถึงรายละเอียดเงื่อนไขที่จะโหวตให้นายกฯชั่วคราวว่า ยังยืนยันในเงื่อนไข 7 ข้อ แต่คนเอาไปตีความต่างๆนานาว่าเราจะโหวตให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท. หรือโหวต ให้นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯพรรค พท. เราต้องขอยืนยันว่าปิดชื่อพรรค ปิดชื่อนายกฯไปเลย หากรับเงื่อนไขได้พร้อมยกมือให้ เรากำลังพูดถึงฉากทัศน์ที่หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หลุดจากนายกฯ ต้องเปิดทางให้โหวตนายกฯคนใหม่ ตอนนั้นอาจวุ่นวายกว่าเดิม บรรดาพรรคร่วมรัฐบาลพยายามจะขย่มเก้าอี้ต่อรองอำนาจ คงยิ่งขย่มกว่าเดิม อาจรวมเสียงข้างมากไม่ได้ด้วยซ้ำ ไม่ได้มีข้อกังวลว่าเป็นใคร แต่ขอให้อยู่ในลิสต์แคนดิเดต และมี สส.มากพอ รวมถึงรับเงื่อนไขของเรา เราได้หมด อยากใช้เสียงของเราอย่างมีค่ามากที่สุดในการนำเสนอทางออกให้ประเทศ ไม่ให้นำไปสู่ทางตัน หรือไปเรียกร้องให้เกิดการใช้อำนาจนอกรัฐธรรมนูญอื่นๆ“เท้ง” ยันยังไม่มีดีลหลังบ้านผู้นำชั่วคราวช่วงบ่าย ที่โรงแรมรอยัลริเวอร์ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ปชน. ให้สัมภาษณ์ย้ำถึงเงื่อนไข 7 ข้อ โหวตเลือกนายกฯชั่วคราวว่า ไม่ได้เจาะจงใครเป็นพิเศษ ไม่ได้หมายถึงพรรคหนึ่งพรรคใด เมื่อถามว่าพรรค พท.ตอบโต้ว่าสถานการณ์ยังไม่ได้ถึงทางตัน นายณัฐพงษ์กล่าวว่า เป็นการตอบที่ไม่ได้ผิดอะไร น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ยังเป็นนายกฯอยู่ การเดินหน้าไปสู่การเลือกนายกฯคนใหม่ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญ อาจมีตัวเลือกอื่นๆ สถานการณ์ตอนนี้ยังมีอีกหลายช่องทาง ที่จะนำไปสู่การเลือกนายกฯคนใหม่ พรรค ปชน.นำเสนอแต่เนิ่นๆ ต้องการป้องกันไม่ให้กระแสอารมณ์สังคม นำไปสู่การเรียกร้องให้มีนายกฯนอกระบบ ส่วนมีใครติดต่อมาให้โหวตแล้วหรือยัง ตอนนี้ยังไม่มี มีการพูดคุยกันในระดับแกนนำ ตอนนี้ยังไม่มีดีลหลังบ้านอะไรทั้งนั้นต่อให้ “อิ๊งค์” กลับมาก็ไร้เสถียรภาพเมื่อถามว่าร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เข้าสู่วาระการประชุมสภาฯแล้ว พรรคปชน.จะโหวตให้ถอน หรือโหวตตลบหลังให้ประชุม จนร่างนี้ไม่ผ่าน นายณัฐพงษ์กล่าวว่า อยู่ที่ท่าทีพรรค พท.ว่าจะให้ความเชื่อมั่นว่าถ้าถอนแล้วจะไม่นำกลับมาอีก เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ข้อเท็จจริงคือสภาล่ม สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลขาดเสถียรภาพ ไม่เห็นว่าที่ผ่านมา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร กำกับเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลได้จริง และไม่ได้คิดว่าการที่กลับมาจะควบคุมเสียงของรัฐบาลได้เพิ่มมากขึ้น สภาพที่ขาดเสถียรภาพ พรรคร่วมรัฐบาลส่งข้อเรียกร้องไปยังพรรค พท.ได้ตลอดเวลา ยังเกิดขึ้นอยู่แล้วศาลไต่สวนหมอ-พยาบาลคดีชั้น 14ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนคดีหมายเลขดำที่ บค.1/2568 เรื่องการบังคับโทษจำคุกนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เพื่อหาข้อเท็จจริงการบังคับโทษคดีถึงที่สุดกับนายทักษิณเป็นไปตามผลคำพิพากษาของศาลฎีกาหรือไม่ โดยไต่สวนพยานกลุ่มแพทย์ พยาบาล 5 ปาก เช่น พยาบาลในสถานพยาบาลเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ รพ.ตำรวจ ในจำนวนนี้มี พญ.รวมทิพย์ สุภานันท์ แพทย์ประจำ รพ.ตำรวจ และ นพ.ณัฐพร แพทย์ประจำ รพ.ราชทัณฑ์ รวมถึงพยาบาลประจำสถานพยาบาลราชทัณฑ์ 1 คน และนายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตัวแทนโจทก์นำเอกสารใส่กระเป๋าลากเข้าชี้แจงศาล“ทนายทักษิณ” ยื่นประวัติรักษาใน ตปท.นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ กล่าวว่า ประวัติการรักษาต่างประเทศเป็นข้อมูลเจ็บป่วยถือเป็นความลับ ได้รับความคุ้มครอง และนายทักษิณสงวนสิทธิ แต่เป็นประเด็นที่ศาลอยากรู้ว่าเจ็บป่วยจริงหรือไม่ หรือเป็นการอ้างเลื่อนลอย จึงได้เตรียมประวัติการรักษาต่างประเทศเสนอต่อศาลด้วย นอกเหนือจากประวัติการรักษาของราชทัณฑ์ เพราะไม่มั่นใจว่าราชทัณฑ์เตรียมเอกสารประวัติการรักษาสมบูรณ์หรือไม่ และเพื่อไม่ให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัย ทั้งนี้ ได้เตรียมบัญชีพยานไว้ 4 ปาก แต่ยังไม่ทราบว่าศาลจะอนุญาตหรือไม่ต่อมาศาลได้อ่านกระบวนพิจารณาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองวันนี้นัดไต่สวน คดีหมายเลขดำที่ บค.1/2568 อัยการสูงสุดและคณะกรรมการ ป.ป.ช.โจทก์และทนายจำเลย มาศาล ส่วนจำเลยได้รับอนุญาตจากศาลไม่มาฟังการพิจารณา ศาลไต่สวนพยานได้ 5 ปาก ให้เลื่อนไปไต่สวนในวันที่ 8 ก.ค. เวลา 09.00 น. ตามที่นัดไว้เดิมอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่