ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้สถานการณ์ของประเทศไม่ค่อยจะแจ่มใสเท่าใดนัก มีหลายเรื่องหลายราวที่ไม่ค่อยแจ่มใส ทั้งภายในประเทศและนอกประเทศ“กัมพูชา” ประเทศเพื่อนบ้านที่เคยอยู่ร่วมกันมาดีๆ ก็เกิดความขัดแย้งที่ไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด เพราะเหตุใดทำไม “ฮุน เซน” จึงอยากทะเลาะเสียเหลือเกินความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมี “ทักษิณ ชินวัตร” เพื่อนเกลอ เข้ามาพัวพันด้วยมีการวิเคราะห์กันว่าเหตุคงเนื่องมาจากเรื่อง “กาสิโน” ที่ “ทักษิณ” ผลักดันให้ไทยออกกฎหมาย “กาสิโน” ทำให้ไทยมี “กาสิโน” ซึ่งทำให้กัมพูชามีคู่แข่งเท่ากับทุบ “หม้อข้าว” ที่ตระกูล “ฮุน” เสพสุขกันอย่างสบายๆมานานแล้วจึงต้องหาเรื่องทะเลาะกับไทย!มุ่งเล่นงาน “ทักษิณ” และลูกสาวซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีทำให้เกิดปัญหาขัดแย้งและพยายามปล่อยข่าวว่าจะแฉเรื่อง “ทักษิณ” ในเรื่องการเปลี่ยนผู้นำประเทศและโยงไปถึงสถาบันแต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไร แต่ไปพูดถึงเรื่อง “ทักษิณ” แกล้งป่วยที่น่าสังเกตก็คือ “ทักษิณ” ไม่ออกมาเคลื่อนไหวหรือแสดงความเห็นอะไรนับแต่เกิดปัญหาขัดแย้งกันก็เลยเกิดความสงสัยกันว่าเพราะกลัว “ฮุน เซน” จะแฉอะไรที่เป็นความลับจึงได้แต่ดูเหตุการณ์อยู่ห่างๆ แม้ “ลูกสาว” จะถูกโจมตีและทำให้เก้าอี้สั่นคลอนก็ตามนั่นเป็นประเด็นที่เกี่ยวพันกับประเทศเพื่อนบ้านแต่ประเด็นใหญ่เรื่องรัฐบาลที่กำลังสั่นไหวไม่แพ้กัน หลังจากที่ “ภูมิใจไทย” ถอนตัวออกจากรัฐบาลเพราะไม่พอใจที่ยึดกระทรวงมหาดไทยเวลากำลังอยู่ในช่วงการจัด ครม.ชุดใหม่ที่ดูเหมือนง่ายแต่ไม่ง่าย แม้จะมีเก้าอี้แจกจ่ายให้พรรคร่วมรัฐบาลที่ยังกอดคอร่วมงานกันต่อไป ทำให้มีเสียงหนุนจนเดินหน้าต่อไปได้แต่การจัดการก็ไม่ง่ายเพราะพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคนั้นมีปัญหาภายใน และแย่งชิงเก้าอี้กันอุตลุด อีกทั้งก็มีปัญหาด้านคุณสมบัติจึงต้องตรวจกันอย่างละเอียดมิฉะนั้นหัวหน้าพรรครัฐบาลคนมีอำนาจแต่งตั้งอาจจะโดนสอยได้!ทำให้การจัด ครม.จึงเกิดความล่าช้าและเกิดความขัดแย้งควบคู่กันไป ทำให้ ครม.ชุดใหม่ แทนที่จะได้คนเก่งมีคุณภาพเพื่อสร้างผลงานกลับกลายเป็นว่าพรรคไหนส่งชื่อมาก็ต้องรับ เดี๋ยวเกิดปัญหานี่แหละคือสภาพการณ์ที่เป็นจริงนอกจากนี้ยังมีแรงกดดันจากม็อบรวมพลังแผ่นดินที่บรรดาแกนนำล้วนมีประสบการณ์มาอย่างโชกโชนที่รัฐบาลจะวางใจไม่ได้แม้แต่นาทีเดียวประเด็นก็คือจะจุดติดหรือไม่ ถ้าติดก็ยุ่งไปทั้งประเทศอีกด้านหนึ่งก็คือนิติสงครามที่มุ่งเล่นงาน “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี หลายแง่หลายมุม เริ่มต่อวันที่ 2 ก.ค.ศาลรัฐธรรมนูญจะประชุมเพื่อพิจารณาจะรับคำร้องที่ สว.ยื่นให้วินิจฉัยว่าฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่จากกรณี “คลิปฉาว”!หากศาลรับพิจารณาและเห็นชอบให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ก็เห็นลางแล้วว่า “ยุ่งแน่”จากนั้นก็ต้องรอคำวินิจฉัยที่จะตามมาไม่รู้เส้นทางจะเป็นไปตาม “เศรษฐา ทวีสิน” หรือไม่วันนี้ต้องเริ่มคิดได้แล้วจะหาทางลงอย่างไร?"ลิขิต จงสกุล"คลิกอ่านคอลัมน์ “สับรางวันอาทิตย์” เพิ่มเติม