นายกฯลงพื้นที่ จ.สระแก้ว ถกผลกระทบจากมาตรการจำกัด การเข้า-ออกจุดผ่านแดนไทย-กัมพูชา ด้าน ผวจ.สระแก้ว ดุเดือดชงเข้มทบทวนโควตามัน-เลิกเว้นค่าธรรมเนียมผ่านแดน ชะลอหรือยกเลิกกิจกรรมความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา 75 ปีออกไปไม่มีกำหนด พร้อมให้ระงับความช่วยเหลือแบบให้เปล่าทุกกรณี ยกเว้นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ให้ทบทวนโครงการก่อสร้างสะพานโป่งน้ำร้อน จากนั้นนายกฯลงพื้นที่คลองลึก มีทั้งคนรอให้กำลังใจและชุมนุมชูป้ายต่อต้านก่อนไปเยี่ยมชมการเรียนการสอนที่โรงเรียนอรัญประเทศ ก่อนกลับกรุงแจกข้าวเหนียวไก่ย่างเจ้าหน้าที่ ด้านกองทัพภาคที่ 1 ออกคำสั่งอนุโลมการข้ามแดนของชาวไทยและชาวกัมพูชา รวมทั้งนักเรียนนักศึกษากัมพูชาที่ข้ามมาเรียนฝั่งไทย ให้อยู่ในห้วงเวลาที่กำหนดเท่านั้น “ภูมิธรรม” เตือนคนไทยอย่าฟังลมปากฮุน เซน เรื่องนายกฯคนใหม่ ด้านที่ประชุมสภากลาโหมสั่งทุกหน่วยยกระดับมาตรการความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์รับมือการโจมตีจากกลุ่มแฮกเกอร์กัมพูชา รวมทั้งให้เหล่าทัพเตรียมแผนรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจนำไปสู่การใช้กำลังทหารนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ จ.สระแก้ว ตรวจราชการเยี่ยมเยียนให้กำลังใจทหาร-ชาวบ้านตามแนวชายแดน พร้อมดูเรื่องการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ขณะที่ตำรวจเผยกัมพูชาไม่ร่วมมือปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์เตรียมประสานนานาชาติกดดันนายกฯไปสระแก้วถกผลกระทบชายแดนเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 มิ.ย. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ จากกองบินตำรวจ แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ ไปยังค่ายสุรสิงหนาท อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว แล้วเดินทางต่อด้วยรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ดสีดำ ทะเบียน กท 888 กรุงเทพมหานคร ไปยังโรงเรียนอรัญประเทศ เป็นประธานประชุมหารือผลกระทบจากมาตรการจำกัดการเข้า-ออก จุดผ่านแดนไทย-กัมพูชา โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 นายปริญญา โพธิสัตย์ ผวจ.สระแก้ว ตัวแทนเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมเสนอระงับความช่วยเหลือทุกกรณีนายปริญญา ผวจ.สระแก้ว กล่าวรายงานสถานการณ์และมีข้อเสนอในที่ประชุมว่า แต่ละปีมีการนำเข้ามันสำปะหลังจากกัมพูชา ผ่านช่องทาง จ.สระแก้ว ปีละ 1 หมื่นล้านบาท จึงเสนอให้ทบทวนโควตานำเข้า เพื่อให้มันสำปะหลังของไทยได้รับการรับซื้อมากยิ่งขึ้น รวมถึงขอให้ยกเลิกการยกเว้นค่าธรรมเนียมผ่านแดน คนละ 1,000 บาท ช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพราะสงกรานต์ที่ผ่านมาเงินยกเว้นดังกล่าวมีมูลค่าสูงถึง 74 ล้านบาท หากเลิกยกเว้นจะทำให้มีเงินเข้ามาพัฒนาประเทศ นอกจากนี้ยังชะลอหรือให้ยกเลิกกิจกรรมความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา 75 ปี ออกไปโดยไม่มีกำหนดและระงับความช่วยเหลือแบบให้เปล่าทุกกรณี ยกเว้นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม รวมถึงให้พิจารณาทบทวนโครงการก่อสร้างสะพานโป่งน้ำร้อน ที่ใช้งบกลางในการก่อสร้างสะพาน เนื่องจากสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา หนองเอี่ยน-สตึงบท ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ ที่ก่อนหน้านี้มีการก่อสร้างให้ จึงจำเป็นต้องมีการพิจารณาทบทวนหลายเรื่อง ขึ้นอยู่กับนายกฯ รัฐบาล และกระทรวงในการพิจารณามุ่งเน้นสันติไม่ต้องการให้ปะทะขณะที่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ทุกคนที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าฯต้องรู้ปัญหาดีกว่าภาคส่วนอื่นๆ ถ้ากระทรวงและรัฐมนตรีทุกอย่างเรียบร้อย จะให้ลงพื้นที่กันเยอะขึ้นเหมือน สส.เพื่อจะได้รู้ปัญหาของประชาชน ประธานหอการค้าฯพูดถูกว่า ตรงนั้นมีปัญหาเรื่องการค้าขายไม่ได้ เพราะมีปัญหาเรื่องชายแดนเกิดขึ้น กองทัพทำอย่างเต็มที่เพื่อสันติวิธี ถ้าจะทำอะไรต้องคิดข้อนี้เป็นข้อแรกก่อนว่า ทำอย่างไรให้เกิดสันติวิธี ทำอย่างไรไม่ให้เกิดการปะทะ ตนไปเยี่ยมให้กำลังใจอยู่กับทหารเป็นหมื่นราย จะทำอย่างไรให้ทหารตรงนั้น ไม่เกิดการปะทะและสู้รบกัน ให้เขายังกลับบ้านได้ กลับไปหาครอบครัวได้ ที่ไม่ให้เสียเลือดเสียเนื้อ นี่คือสิ่งที่คิดตลอดจริงๆว่าต้องทำให้ได้พร้อมปรับโควตานำเข้าสินค้านายกฯกล่าวต่อว่า ตอนนี้เรื่องค้าขายสำคัญมาก ปลัดกระทรวงพาณิชย์รายงานว่า ลงพื้นที่ไปดูสินค้าเกษตรต่างๆ ว่ายังติดอยู่ที่ชายแดนหรือไม่ ราคามันสำปะหลังตกต่ำเรื่อยๆ ต้องทำราคาของเราให้ดีก่อน จะให้กระทรวงพาณิชย์กำหนดโควตาราคามันสำปะหลังใหม่ ในประเทศต้องได้ก่อน ถือเป็นโอกาสดีในการทบทวนมาตรการใหม่ว่าอะไรบ้างที่เรานำเข้ามาจากต่างประเทศ แล้วทำให้ราคาสินค้าเราไม่ตก ทั้งนี้ เราให้อำนาจกองทัพดูว่าหน้างานควรทำอย่างไรปิดหรือเปิด คนหน้างานจะเห็นได้ชัดเจน จะได้ทราบด้วยว่าเกิดอะไรขึ้น วันนี้ที่มาดูหลักๆเป็นเรื่องการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติที่เป็นปัญหาที่ใหญ่ มาตรการจำกัดการเข้า-ออกจุดผ่านแดน เมื่อมีการจำกัดเวลาแบบนี้แล้ว ผู้ที่ได้รับผลกระทบ รัฐบาลจะช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง คือเป้าหมายหลักที่มาในวันนี้เอกชนถ้ากระทบมั่นคงต้องดูทำอย่างไรต่อน.ส.แพทองธารกล่าวอีกว่า เรื่องปัญหาชายแดนทีมไทยแลนด์ดูแลอยู่ ขอให้ใช้กลไกลผ่านกระทรวงมหาดไทยดูแลประชาชน ขอให้ตรวจสอบเรื่องการทำงาน การขอความช่วยเหลือของประชาชนจะต้องรวดเร็วขึ้นและโปร่งใส เรื่องสินค้าที่ตกค้างต้องฝากสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทบทวนตรงนี้ด้วยว่า มีอะไรไหมที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง หากเป็นบริษัทเอกชนแต่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ นำตรงนี้ไปพิจารณาได้ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไปอาจจะขอข้อมูลจาก กสทช.เพิ่มขึ้นว่ามีอะไรบ้างที่สุ่มเสี่ยง เรื่องการปราบอาชญากรรมข้ามชาติ ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ต้องสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนเยอะๆ ว่าเราต้องการทำอะไรบ้าง ท่านแม่ทัพภาคที่ 1 ทราบเรื่องปัญหาชายแดน สามารถมาเข้าทีมไทยแลนด์ได้เพื่อพูดคุยเรื่องปัญหาต่างๆจากนั้นนายกฯเยี่ยมชมการเรียนการสอนของโรงเรียนอรัญประเทศและร่วมกิจกรรมทักทายเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมกล่าวว่า เด็กสมัยนี้กล้าแสดงออก ขอให้กำลังใจน้องๆทุกคน เรียนอะไรขอให้ผ่านไปด้วยดี อ่านอะไรก็ให้เข้าสมอง ขอให้สอบได้ จากนั้นได้ถ่ายรูปและทักทายกับเด็กๆอย่างเป็นกันเองไปคลองลึก คนให้กำลังใจ-ต่อต้านเวลา 11.45 น. น.ส.แพทองธารและคณะเดินทางมายังด่านพรมแดนคลองลึก ให้กำลังใจหน่วยราชการในพื้นที่ ผวจ.สระแก้ว รายงานสถานการณ์ที่ด่านพรมแดนคลองลึก ว่าปัญหาในพื้นที่ผู้ค้าขายส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชากว่าหมื่นคน ขณะนี้มีการผ่อนปรนให้ผู้ค้าสามารถอยู่ในพื้นที่ได้ นายกฯจึงหันไปคุยกับ พล.อ.ณัฐพลว่าประชาชนส่วนใหญ่ในพื้นที่สามารถเริ่มปรับตัวได้แต่กลับเป็นผู้ประกอบการมากกว่า ในพื้นที่เองกำลังรับนโยบายเพื่อไปปรับ จากนั้น นายกฯได้เดินทักทายประชาชนที่มารอให้การต้อนรับและมอบดอกไม้ให้กำลังใจพร้อมชูป้ายข้อความว่า “นายกฯอิ๊งค์ สู้ๆ จากคนสระแก้ว” “ชาวสระแก้ว เป็นกำลังใจให้นายกฯแพทองธาร” จากนั้นได้รับฟังรายงานสถานการณ์ในพื้นที่ ขณะที่บริเวณหน้าด่านพรหมแดนคลองลึก มีประชาชนประมาณ 30 คนมาปักหลัก ชูป้ายตะโกนไล่นายกฯ และถือป้ายข้อความโจมตีนายกฯให้กำลังใจทหารพราน-โรงเรียน ตชด.ต่อมาเวลา 12.55 น. น.ส.แพทองธารเดินทางไปกองร้อยทหารพราน 1202 บ้านป่าไร่ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารพราน มี พ.อ.เมธี คำเต็ม ผู้บังคับชุดควบคุม กรมทหารพรานที่ 12 มาต้อนรับ นำนายกฯเดินตรวจเยี่ยม ให้กำลังใจทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ บริเวณบังเกอร์พร้อมมอบอาหารแห้งให้กำลังพล นายกฯกล่าวว่า วันนี้ขอมาให้กำลังใจทุกคนที่อยู่ที่นี่ ทราบว่าต้องมาประจำอยู่ที่นี่ห่างไกลจากครอบครัว ขอบคุณที่เสียสละทุ่มเทแรงกาย แรงใจ ทหารคือรั้วของชาติปกป้องให้เกิดสันติภาพ ทุกท่านอยู่ใกล้สุดขนาดนี้ ต้องใช้ทั้งความอดทน อดกลั้นจากสิ่งยั่วยุ ขอให้การทำงานต่อไปจากนี้ราบรื่น ถ้ามีอะไรก็ตามที่รัฐบาลและตนสามารถให้ความสนับสนุนเพิ่มเติมได้ ขอให้บอกกันมาเพื่อดูแลสถานการณ์ ท่านมีหน้าที่ดูแลประชาชน รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลท่านต่อ ขอบคุณในความทุ่มเทมากๆอีกครั้ง ดีใจที่ได้มาเจอกับทุกท่านในวันนี้มอบขนมเด็ก นร.-ดูหลุมหลบภัยเวลา 13.10 น. น.ส.แพทองธารเดินทางไปยังโรงเรียน ตชด. ประชารัฐบำรุง 1 ต.ป่าไร่ ให้กำลังใจและดูการเรียนของเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3-5 พร้อมฝากให้เด็กๆตั้งใจเรียน ก่อนกล่าวทักทายว่า วันนี้มาให้กำลังใจทักทายทุกคน พร้อมสอบถามเด็กนักเรียนว่ารู้จักหรือไม่ว่าพี่ชื่ออะไร เด็กนักเรียนตอบว่า “รู้จัก นายกฯอิ๊งค์” จากนั้นนายกฯมอบขนม นม อุปกรณ์กีฬาให้กับเด็กนักเรียนก่อนถ่ายภาพหมู่ร่วมกันแล้วเดินมาดูหลุมหลบภัยที่สร้างอยู่ ในรั้วโรงเรียน ห่างจากชายแดนประมาณ 4 กิโลเมตร พร้อมสอบถามว่าหลุมหลบภัยดังกล่าวใช้งานได้กี่ปี มีทั้งหมดกี่หลุม และขอให้ครูเตรียมความพร้อมดูแลเด็กๆในโรงเรียนด้วยอ้อนกะมาให้แต่กลับได้รับกำลังใจจากนั้นเวลา 13.45 น. น.ส.แพทองธารเดินทางมาที่ค่ายสุรสิงหนาท อ.อรัญประเทศ เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง มีนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง ร่วมด้วย นายกฯกล่าวว่า ปัญหาชายแดนไม่ว่าจะเป็นเรื่องชายแดนหรือปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ สแกมเมอร์์ต่างๆ ตนและรัฐบาลเป็นห่วงวันนี้เป็นโอกาสดีได้มาฟังปัญหาของประชาชนโดยตรง ขอขอบคุณกำลังสำคัญที่อยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นกำนันผู้ใหญ่บ้านชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ตำรวจ ทหารทุกท่านที่ให้ความร่วมมือทำงานในดูแล ปกป้องดูแลประชาชนในพื้นที่ของตัวเองให้อยู่เย็นเป็นสุขและปลอดภัย ขอบคุณตัวแทนท้องถิ่นทุกท่านที่ทำงานกันอย่างอดทน เพื่อดูแลประชาชนให้ดีที่สุด ความจริงอยากมาให้กำลังใจคนในพื้นที่ แต่กลายเป็นคนในพื้นที่ให้กำลังใจตน รู้สึกขอบคุณจากใจจริง เป็นนายกฯขอทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเช่นกัน อะไรที่อยากจะให้สนับสนุนอย่างไร บอกผ่าน ผวจ.สระแก้วถึงดิฉันได้ จากนั้นนายกฯเดินตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ก่อนมอบข้าวเหนียวไก่ย่างจำนวน 700 ชุด ที่นายกฯแวะเหมามาจากแม่ค้า ก่อนเดินทางมาค่ายสุรสิงหนาท ซึ่งแม่ค้าบอกว่าช่วงนี้ค้าขายเงียบๆหน่อย จากนั้นจึงเดินทางกลับกรุงเทพฯอนุโลมผ่านแดนตามมนุษยธรรมวันเดียวกันนี้ กองทัพภาคที่ 1 มีหนังสือด่วนที่สุดถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริเวณด่านชายแดน -กัมพูชา อนุโลมให้กับชาวไทยชาวกัมพูชาที่ต้องการเดินทางกลับภูมิลำเนาผ่านจุดผ่านแดนในพื้นที่ จ.สระแก้ว และเป็นไปตามด้านมนุษยธรรม ตามความเหมาะสม ความจำเป็น ผบ.กองกำลังบูรพาจึงกำหนดมาตรการเพิ่มเติม คืออนุโลมเปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศฯ และจุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด ให้ชาวกัมพูชาที่จำเป็นต้องเดินทางเข้ามาซื้อเครื่องอุปโภค-บริโภค ใช้หนังสือเดินทางท้องถิ่น (บอเดอร์พาส) และไม่อนุญาตให้นำยานพาหนะทุกชนิดทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล รถ จยย.เข้ามา ยกเว้นรถจักรยานสองล้อและอยู่ในราชอาณาจักรไทยได้ไม่เกิน 1 วัน โดยอนุโลมเปิดด่านให้ชาวกัมพูชาเข้ามาไทยได้วันละไม่เกิน 1 พันคน แบ่งเป็น 3 ห้วงเวลา 1.ตั้งแต่ 08.00-09.30 น. จำนวน 300 คน 2.เวลา 10.30-12.00 น. จำนวน 300 คน 3.เวลา 13.00-15.00 น. จำนวน 400 คน ส่วนชาวกัมพูชาที่ประสงค์เดินทางกลับภูมิลำเนา พร้อมยานพาหนะเช่นรถยนต์ส่วนบุคคลและ รถ จยย. เพื่อตัดบัญชีใบขนสินค้าพิเศษ ตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขของด่านศุลกากร นำกลับไปได้ตั้งแต่ 08.00-16.00 น.นักเรียนนักศึกษาข้ามแดนได้ 2 ช่วงเวลาส่วนการเดินทางของนักเรียนยังเดินทางข้ามแดนไปเรียนหนังสือได้ตามปกติ 2 ห้วงเวลาคือเวลา 06.00-08.00 น. และเวลา 17.00-18.00 น. ส่วนผู้ป่วยอำนวยความสะดวกด้านมนุษยธรรมตามความเหมาะสมและความจำเป็นเช่นด้านการรักษาพยาบาล การส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินและกรณีเร่งด่วนต้องเดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาล ในส่วนจุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา อ.ตาพระยาฯและจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ อ.อรัญประเทศ อนุโลมให้ชาวกัมพูชาที่มีความจำเป็นเข้ามาซื้อเครื่องอุปโภค บริโภคที่จำเป็นได้ โดยใช้หนังสือผ่านแดนท้องถิ่น (บอเดอร์พาส) ของจังหวัดบันเตียเมียนเจยเท่านั้น ไม่เกินวันละ 300 คน ตั้งแต่เวลา 08.00-12.00 น. ห้ามนำรถยนต์และรถ จยย.เข้ามายกเว้นรถจักรยานสองล้อสแกนละเอียดถ้าจะไป รพ.ใน กทม.ด้านการเดินทางไปเข้ารับการรักษาพยาบาลในพื้นที่ กทม.และกรณีที่นัดพบแพทย์ เดินทางเข้ารับการรักษาพยาบาลได้โดยต้องแสดงเอกสารหลักฐานใบนัดแพทย์ หนังสือเดินทาง และว่าจ้างยานพาหนะจากฝั่งไทยในการเดินทาง โดยประสานการเดินทางข้ามแดนกับสำนักงานประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 และ ตม.เป็นผู้อนุญาต ลงตราประทับอนุญาตให้อยู่ในไทยได้ไม่เกิน 2 วัน ส่วนชาวไทยเดินทางกลับภูมิลำเนา พร้อมยานพาหนะส่วนบุคคลกลับเข้ามาในราชอาณาจักร โดยใช้หนังสือผ่านแดนและพาสปอร์ต ตามข้อกำหนดของตรวจคนเข้าเมือง ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.เข้มคนเข้าออกสะพานมิตรภาพนอกจากนี้ยังเข้มงวดการเดินทางเข้าออกผ่านจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพ ไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท โดยเปิด-ปิดเวลา 08.00-16.00 น. งดการผ่านเข้า-ออกของยานพาหนะทุกประเภท งดการเดินทางผ่านเข้า-ออกของประชาชน นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยชาวต่างชาติและการค้าขายทุกประเภท ส่วนจุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน ชาวกัมพูชาที่จำเป็นต้องเข้ามา ใช้หนังสือผ่านแดนของ จ.พระตะบองเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ใช้พาสปอร์ต ไม่อนุญาตให้นำยานพาหนะเดินทางเข้ามา (ยกเว้นรถจักรยาน 2 ล้อ) อยู่ในไทยได้ไม่เกิน 2 วัน ตามเวลาที่กำหนด ชาวกัมพูชาที่จะกลับภูมิลำเนาพร้อมยานพาหนะ รถจักรยานยนต์ รถยนต์ส่วนบุคคล เพื่อทำการตัดบัญชีใบขนสินค้าพิเศษ ตามหลักเกณฑ์ เงื่อนไขและวิธีการที่ด่านศุลกากรอรัญประเทศกำหนด เดินทางกลับได้ในเวลา 08.00-16.00 น. ขณะที่ชาวไทยเดินทางกลับเข้ามา พร้อมยานพาหนะส่วนบุคคล (รถจักรยานยนต์, รถยนต์ส่วนบุคคล) ใช้หนังสือผ่านแดนและพาสปอร์ตตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. ทั้งนี้ จากคำสั่งดังกล่าวกองกำลังบูรพาได้ทำหนังสือแจ้งไปยังกัมพูชาแล้วแต่กัมพูชายังไม่ให้ความร่วมมือทร.แจงยิงโดรนที่ชายแดนจันทบุรีวันเดียวกัน พล.ร.ต.ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธินใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลัง จันทบุรี ตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เป็นโดรน ไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรี เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้วและเป็นไปตามที่ได้ชี้แจงถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้ กองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรนเตือนคนไทยอย่าฟังลมปากฮุน เซนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผอ.สำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ออกมาโพสต์ข้อความว่า กัมพูชาประกาศจะตัดไฟจากไทย 9 จุด แต่กัมพูชาตัดไฟจากไทยเพียง 3 จุด ยังคงใช้ไฟฟ้าจากไทยอีก 6 จุด ว่า ให้ว่าไปตามสภาพที่เป็นตามสัญญาต่างๆที่ได้ทำไว้ ส่วนใดที่ผิดข้อสัญญาก็ว่าไปตามนั้น ไม่มีปัญหาอะไร ขณะนี้กัมพูชายังโอเคอยู่และขยันออกข่าว มุ่งหวังต่อสู้สงครามจิตวิทยา ปัญหาที่ด่านถาวรคลองลึก อ.อรัญประเทศ ที่เกิดขึ้นคือเปิดด่านไม่ตรงกัน เมื่อเจรจากันแล้วก็เข้าใจกัน เมื่อถามว่า สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภา ออกมาระบุว่าไทยจะได้ผู้นำใหม่ใน 3 เดือน มีวัตถุประสงค์อย่างไร นายภูมิธรรมถามกลับว่า “คุณเชื่อสมเด็จฮุน เซน เหรอ” อย่าไปสนใจเรื่องนี้เลยไทยต้องระมัดระวังท่าทีรอบด้านเมื่อถามว่ากัมพูชาต้องการเรียกร้องความสนใจจากนานาชาติ จะมีมาตรการตอบโต้หรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ขณะนี้ไทยดำเนินมาตรการต่างๆ ไม่ได้ทำตามความยั่วยุของไทย หรือดำเนินตามความรู้สึกของคนที่อยากให้ทำด้านใดด้านหนึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมืองระหว่างประเทศ ต้องระมัดระวังท่าทีอย่างรอบด้าน เพราะจะส่งผลกระทบทุกอย่าง สิ่งที่บันทึกไว้หรือประท้วงเก็บเป็นข้อมูลไว้ทั้งหมด เพราะเป็นเรื่องที่ในอนาคตไม่ทราบว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่มีหลักฐานเป็นที่ยืนยันเก็บไว้ ประชาคมโลกจะเข้าใจประเทศไทยหรือไม่ เห็นว่า UN ได้ประกาศให้ประเทศกัมพูชาเป็นแหล่งสแกมเมอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่สหรัฐฯก็ระบุว่าเป็นแหล่งฟอกเงิน ประชาคมโลกก็ไม่มีปัญหาอะไรเตรียมดำเนินคดีเจ้าของตึกฐานฯแก๊งคอล ด้าน พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร. กล่าวถึงสถานการณ์หลังการปิดด่านและการตัดระบบโทรคมนาคมในพื้นที่ชายแดนกัมพูชา ส่งผลให้แนวโน้มการหลอกลวงทางไซเบอร์มีแนวโน้มลดลง โดยพบว่าปัจจุบันการหลอกลวงทางไซเบอร์ มีกัมพูชาเป็นที่ตั้งฐานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์เป็นอันดับ 1 ปัจจุบันได้สกัดกั้นทางภาคพื้นและระบบโทรคมนาคมต่างๆ ไปในระดับหนึ่ง เห็นได้ชัดจากการโทรศัพท์เข้ามาหลอกลวง สัญญาณอินเตอร์เน็ตจะถูกตัดบ่อยครั้ง เป็นผลจากการตัดระบบโทรคมนาคมบริเวณชายแดนกัมพูชา และเตรียมดำเนินคดีกับเจ้าของตึก 25 ชั้น กับ 18 ชั้น ที่ปอยเปตที่เป็นฐานปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลไปถึงเจ้าของตึกทั้ง 2 หลัง เพื่อเอาผิดทางคดีคอลเซ็นเตอร์ต่างๆที่เกี่ยวข้อง ที่ผ่านมาไม่ค่อยได้รับความร่วมมือจากกัมพูชา ในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์พบข้อมูลใครเกี่ยวข้อง ฮุย วัน กรุ๊ปจเรตำรวจกล่าวอีกว่า เมื่อมีสถานการณ์ความตึงเครียดที่ชายแดน ก็ยังไม่ได้ติดต่อตำรวจกัมพูชาหรือทางการกัมพูชา ในการประสานข้อมูลการปราบ ปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สำหรับขยายผลไปถึงกลุ่มทุนเทาต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับกัมพูชา โดยเฉพาะกลุ่มฮุย วัน กรุ๊ป ตำรวจมีข้อมูลระดับหนึ่งว่า มีบุคคลใดเกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าว แต่ยังไม่มีพยานหลักฐานชัดเจนว่า บริษัทดังกล่าวเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง แม้จะมีข้อมูลจากสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNODC เรื่องการตั้งฐานแก๊งคอลเซ็นเตอร์และเส้นทางการเงิน ก็ยังไม่เพียงพอที่จะใช้ดำเนินคดีได้ จึงต้องแสวงหาพยานหลักฐานอื่นๆเพิ่ม เพราะบริษัทดังกล่าวไม่ได้ตั้งฐานอยู่ในไทย กรณีที่ทูตสหรัฐฯเข้าพบนายกรัฐมนตรี ตำรวจพร้อมให้ความร่วมมือในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยเตรียมประสานขอข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางการเงินของแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มเครือข่ายและผู้เกี่ยวข้องต่างๆมาใช้ประกอบในการดำเนินคดี รวมถึงการจับตาดูผู้ที่เดินทางเข้าออกประเทศบริเวณชายแดนที่กำลังมีปัญหาว่าจะมีบุคคลใดที่มีหมายจับ หรือเป็นที่จับตามองของนานาชาติและตามหมายของประเทศไทยหรือไม่ฮุน เซน สั่งทหารเตรียมพร้อมขั้นสูงสำนักข่าวขแมร์ ไทม์สของกัมพูชา รายงานว่า สมเด็จฮุน เซน ประธานองคมนตรีกัมพูชา เข้ารับตำแหน่งผู้บัญชาการระดับสูงด้านโลจิสติกส์ ทำหน้าที่ดูแลการส่งกำลังบำรุงสนับสนุนทหารกัมพูชาที่ประจำอยู่ตลอดแนวพรมแดนไทย-กัมพูชา คำประกาศมีขึ้นระหว่างสมเด็จฮุน เซน เดินทางไปเยือนทหารในแนวหน้า ที่จังหวัดอุดรมีชัย ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของกัมพูชา เพื่อประเมินสถานการณ์และดูแลขวัญกำลังใจของหน่วยรบ ขณะที่นายเจีย ทิริธ โฆษกวุฒิสภาของกัมพูชา ระบุว่า สมเด็จฮุน เซน ยังคงครองยศนายพล 5 ดาว และต้องการสนับสนุนกองทัพกัมพูชาอย่างเต็มที่ พร้อมสั่งการให้หน่วยรบอยู่ในสภาพเตรียมพร้อมขั้นสูง อย่าไปกลัวศัตรูที่พยายามจะทำลายอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนของกัมพูชายกระดับรับมือกลุ่มแฮกเกอร์กัมพูชาช่วงเย็นวันเดียวกัน พันเอกหญิง ดังใจ สุวรรณกิตติ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงการประชุมสภากลาโหม ที่ บก.ทอ. ว่า มีการหารือถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทย-กัมพูชา ตามแนวชายแดนและเน้นย้ำให้ทุกหน่วยติดตาม โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของกำลังรบและยุทโธปกรณ์ใกล้แนวชายแดน ทั้งนี้ ยังได้สั่งให้ทุกหน่วยยกระดับมาตรการความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ เพื่อรับมือการโจมตีจากกลุ่มแฮกเกอร์กัมพูชาโดยเร่งด่วน ให้มีการติดตาม เฝ้าระวัง แลกเปลี่ยนข้อมูลภัยคุกคามกับหน่วยงานพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง รวมถึงแจ้งเตือนหน่วยที่เกี่ยวข้องทันทีเมื่อตรวจพบภัยคุกคามให้เหล่าทัพเตรียมแผนรับมือใช้กำลังทหารโฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวอีกว่า พร้อมกันนี้ที่ประชุมมีการกำชับให้กองบัญชาการกองทัพไทยและเหล่าทัพ จัดทำแผนการรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจนำไปสู่การใช้กำลังทหาร เช่น แผนรับมือผู้หนีภัยจากการสู้รบ แผนรักษาความปลอดภัยตามแนวชายแดน แผนช่วยเหลือพลเรือน แผนการใช้กำลัง โดยเฉพาะหน่วยเคลื่อนที่เร็ว เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาวไทยในกัมพูชาและการอพยพกลับประเทศ รวมทั้งแผนเสริมกำลังเมื่อสถานการณ์รุนแรงขึ้น ให้เตรียมยุทโธปกรณ์ อาวุธประจำหน่วยและประจำกาย โดยเฉพาะกระสุนและวัตถุระเบิดให้เพียงพอ พิจารณาปรับแผนงาน โครงการและงบประมาณเพื่อซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ จัดหาสิ่งอุปกรณ์ที่ขาดแคลน พร้อมทั้งมอบหมายให้กองบัญชาการกองทัพไทยเป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำรายงานสถานการณ์แบบบูรณาการ เสนอแนวทางการเตรียมการ เพื่อตอบสนองสถานการณ์และรักษาเสถียรภาพชายแดนในทุกมิติอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่