นายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” ลงพื้นที่ จ.สระแก้ว เยี่ยมให้กำลังใจทหาร-ชาวบ้านชายแดน รมว.ดีอี ซัด “ฮุน เซน” พูดไปเรื่อยเรื่องนายกฯคนใหม่ เย้ยติดโซเชียลหนัก หัวเตียงนอนมีโทรศัพท์หลายสิบเครื่องวางไว้และชาร์จแบตตลอดตื่นมาคงดูโทรศัพท์ทันที ยันข้อมูลชัดกัมพูชาศูนย์กลางแก๊งคอลฯ ที่ประชุม ศบ.ทก.ย้ำแม้ไทยควบคุมเข้า-ออกด่าน แต่ยังยึดหลักมนุษยธรรม วอนโซเชียลหยุดปั่นก้าวก่ายกิจการภายใน หวังลดตึงเครียด จี้กัมพูชาแสดงความจริงใจแก้อาชญากรรมข้ามชาติ กมธ.ต่างประเทศประณามกัมพูชาจ้องพังเสถียรภาพไทย ด้านตำรวจพร้อมรับมือชุมนุมใหญ่อนุสาวรีย์ชัยฯ เสาร์ที่ 28 มิ.ย.
สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยังตึงเครียดต่อเนื่อง โดยชาวกัมพูชาจำนวนหนึ่งที่เข้ามาทำมาหากินในฝั่งไทย พากันเดินทางกลับประเทศอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวไทยยังหลั่งไหลไปเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ พร้อมมอบของขวัญเป็นกำลังใจแก่เหล่าทหารที่ดูแลปราสาท
“ประเสริฐ” ซัด “ฮุน เซน” พูดไปเรื่อย
ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ ช่วงเช้าวันที่ 25 มิ.ย. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่าอีก 3 เดือนประเทศไทยจะได้นายกรัฐมนตรีใหม่ ว่า ไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวกับการโพสต์ของสมเด็จฮุน เซน เป็นการทำนายไปเรื่อยปราศจากข้อเท็จจริง ยืนยันว่ารัฐบาลไทยอยู่ได้มั่นคง เสียงสนับสนุนเพียงพอ เมื่อถามว่าการที่สมเด็จฮุน เซน ใช้โซเชียลมีเดียดิสเครดิตและแทรกแซงการเมืองภายในประเทศไทยจะดำเนินการอย่างไร นายประเสริฐ กล่าวว่า มีคนไปดำเนินการเอาผิดแล้ว ส่วนจะร้องต่อนานาชาติด้วยหรือไม่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงต้องไปดำเนินการ
...
เย้ยฮุน เซน ติดโซเชียลมีเดียหนัก
รมว.ดีอีกล่าวอีกว่า ที่เฟซบุ๊กสมเด็จฮุน เซนหายไป เพราะเจ้าตัวปิดเอง กระทรวงดีอีไม่ได้ปิด แต่เป็นเรื่องดีเพราะไม่อยากดูอยู่แล้ว ส่วนที่สมเด็จฮุน เซน กล่าวหาว่าหน่วยงานรัฐของไทยพาทัวร์ไปลงเฟซบุ๊กนั้นไม่จริง คงเป็นความรู้สึกและข้อกังวลของตัวสมเด็จฮุน เซนเอง เพราะเห็นว่าเจ้าตัวติดโซเชียลมีเดียมาก ดูหัวเตียงมีโทรศัพท์วางไว้และชาร์จแบตตลอด แสดงว่าสมเด็จฮุน เซน ตื่นมาคงจะดูโซเชียลมีเดียแล้ว ยืนยันว่าการใช้โซเชียลมีเดียของกัมพูชาโจมตีหรือกล่าวหาประเทศไทย ในฐานะประเทศเพื่อนบ้านการได้รับผลกระทบก็ต้องป้องกันคนไทยจากการถูกหลอกลวง เพราะคนไทยต้องมาก่อน
ยันข้อมูลชัดกัมพูชาศูนย์กลางแก๊งคอลฯ
เมื่อถามว่านายเจีย วันเดธ รมว.ไปรษณีย์และโทรคมนาคมแห่งกัมพูชา ตอบโต้ไทยกล่าวหาว่ากัมพูชาเป็นศูนย์กลางอาชญากรรมข้ามชาติ แต่ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอาชญากรรมข้ามชาติว่า เป็นการแก้ต่างของกัมพูชา ข้อมูลฝ่ายความมั่นคงของไทยและต่างประเทศยันชัดเจนว่า ศูนย์กลางอาชญากรรมอยู่ที่กัมพูชา จากนี้คงต้องหาความร่วมมือกับประเทศอื่นๆในการปราบปราม เพราะข้อเท็จจริงชัดว่าปอยเปตและเมืองสำคัญของกัมพูชาเป็นแหล่งคอลเซ็นเตอร์ เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวไทยจะเปิดด่านชายแดน นายประเสริฐกล่าวว่า ไม่ขอแสดงความเห็น เพราะเป็นอำนาจฝ่ายความมั่นคง เป็นเรื่องละเอียดอ่อน สถานการณ์ตอนนี้ฝ่ายความมั่นคงจับตาตลอด
นายกฯลงพื้นที่ จ.สระแก้ว 26 มิ.ย.
วันเดียวกัน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 26 มิ.ย. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 นำคณะร่วมลงพื้นที่ จ.สระแก้ว จุดแรกเดินทางไปยังโรงเรียนอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ เป็นประธานหารือผลกระทบจากมาตรการกำหนดเปิดปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ชายแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 ทั้งการค้าขายและพืชผลทางการเกษตร การป้องกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมข้ามชาติ จากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
ให้กำลังใจทหาร–ชาวบ้านชายแดน
จากนั้นนายกฯและคณะเดินทางไปยังด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตรงข้ามเมืองปอยเปต จ.บันทายมีชัย กัมพูชา ติดตามสถานการณ์บริเวณด่านชายแดน พร้อมพบปะพูดคุยกับประชาชน ผู้ประกอบการและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน จากนั้นช่วงบ่ายนายกฯเดินทางไปยังบริเวณบ้านดงงู อ.อรัญประเทศ พบปะพูดคุยให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร พบปะกับนักเรียนและครู ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนประชารัฐบำรุง 1 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กองอาสารักษาดินแดน ที่ว่าการ อ.อรัญประเทศ ต.บ้านใหม่ หนองไทร
เปิดด่านรับคนป่วยเขมรเข้ามารักษาตัว
ที่ทำเนียบรัฐบาล เที่ยงวันเดียวกัน นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ว่า ตามที่มีคำสั่งยกระดับการผ่านแดนตามแนวชายแดนไทย- กัมพูชา มีผลให้จำกัดการผ่านแดนของบุคคลที่เข้มข้นขึ้น แต่ยังคงอนุญาตสำหรับบุคคลที่มีความจำเป็นและเหตุผลทางมนุษยธรรม ได้รับรายงานว่า การอำนวยความสะดวกการเข้าออกส่วนใหญ่เป็นไปตามปกติ เช่น การอนุญาตให้ชาวกัมพูชากว่า 7 พันคนเดินทางกลับประเทศ ยกเว้นบางกรณีที่มีรถติดค้างอยู่บ้างที่ได้มีการคลี่คลายไปแล้ว ส่วนการอำนวยความสะดวกทางมนุษยธรรมยังดำเนินการไปตามปกติ อย่างในพื้นที่ จ.สุรินทร์ สระแก้ว จันทบุรี ที่เปิดด่านรับผู้ป่วยของกัมพูชา 7 ราย เพื่อให้ได้รับการรักษาทันท่วงที
ย้ำไทยให้ความสำคัญมนุษยธรรม
นางมาระตีกล่าวว่า แม้มีความจำเป็นที่จะยกระดับความเข้มข้น แต่ที่ประชุมย้ำว่า ฝ่ายไทยให้ ความสำคัญกับหลักมนุษยธรรม ให้ความสำคัญกับการรักษาความสัมพันธ์ฉันมิตร ในระดับประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ ขณะเดียวกัน ยังหารือถึงการบูรณาการทำงานร่วมกันของ ศบ.ทก. และกลไกที่เกี่ยวข้องที่จะดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลไทย ที่ได้ยกระดับความเข้มข้น เรื่องการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ การหลอกลวงทางออนไลน์ การค้ามนุษย์ การลักลอบขนยาเสพติด มาตรการที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศยกระดับ มีจุดมุ่งหมายโดยตรงต่อธุรกิจเครือข่ายอาชญากรรมทางไซเบอร์เป็นหลัก ไม่ได้มีเป้าหมายต่อประชาชนทั่วไป แต่เป็นไปเพื่อความปลอดภัยของประชาชน บริเวณชายแดนทั้งสองประเทศ
วอนโซเชียลหยุดปั่นก้าวก่ายยั่วยุ
นางมาระตีกล่าวด้วยว่า ยืนยันว่ารัฐบาลไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกประเทศด้วยความจริงใจ เพื่อต่อสู้กับภัยคุกคาม และขอความร่วมมือประชาชนไทยไม่แสดงความเห็นที่อาจจะเป็นการยั่วยุหรือรุนแรงสุดโต่งเพื่อไม่ให้สร้างความตึงเครียดเพิ่มเติม รัฐบาลไทยต้องการเห็นการแสดงออกในโลกโซเชียลที่สร้างสรรค์ ไม่ก้าวก่ายกิจการภายในของอีกฝ่าย เพื่อลดอุณหภูมิความตึงเครียด เป้าหมายสำคัญของไทย (กระทรวงการต่างประเทศ) ยังคงต้องการเห็นการกลับสู่โต๊ะการหารือ โดยหวังว่าฝ่ายกัมพูชาจะตอบสนองต่อคำเชิญเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการเขตแดนส่วนภูมิภาค (อาร์บีซี) ในโอกาสแรก
จี้จริงใจแก้อาชญากรรมข้ามชาติ
ด้าน พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย โฆษก ศบ.ทก. กล่าวว่า สถานการณ์ชายแดน โดยเฉพาะจุดผ่านแดนต่างๆ ที่ยกระดับมาตรการควบคุมการผ่านเข้าออกที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น เป็นผลจากการตั้งใจของไทย ในการปราบปรามขบวนการธุรกิจอาชญากรรมข้ามชาติตามแนวชายแดน ที่ผ่านมากัมพูชาเคยกล่าวถึง ความต้องการในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติภายในกัมพูชา จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาแสดงความจริงใจในการให้ความร่วมมือกับฝ่ายไทย ในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ สำหรับมาตรการเยียวยาประชาชน ผู้ประกอบการไทยทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องปากท้อง การค้า การขนส่งสินค้า รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจและให้ดำเนินการมาตรการเร่งด่วน ในการช่วยเหลือเยียวยาไปบางส่วนแล้วและเร่งหารือในที่ประชุม ศบ.ทก. อย่างต่อเนื่องในการกำหนดมาตรการเพิ่มเติม เพื่อให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกภาคส่วน ทั้งประชาชน ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง
ประณามกัมพูชาจ้องพังเสถียรภาพไทย
อีกด้านที่รัฐสภา น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร สส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ประธานกรรมาธิการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า กมธ.เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวกับปัญหาพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชามาให้ข้อมูลได้ข้อสรุปว่า ไทยมีความประสงค์ชัดเจน ต้องการเจรจาผ่านกรอบทวิภาคี คลี่คลายปัญหาขัดแย้ง ยึดหลักความปลอดภัยอธิปไตยทั้ง 2 ประเทศเป็นที่ตั้ง โดยเฉพาะความปลอดภัยของประชาชนที่อาศัยอยู่ชายแดน แต่ที่ผ่านมากัมพูชา พยายามยั่วยุให้เกิดความร้าวฉาน ทั้งการนำคนเข้ามาในพื้นที่ข้อพิพาท การร้องเพลงชาติตามปราสาทต่างๆ การวางกำลังล้ำเข้ามาในเขตพื้นที่ สิ่งที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดน ไม่ใช่แค่การขู่จะเกิดการปะทะกัน แต่ยังมีสงครามจิตวิทยา ผ่านการสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะฝ่ายการเมืองฝั่งกัมพูชาที่แสดงความเห็นสุดโต่ง ไม่ประสงค์เข้าสู่การพูดคุยอย่างวิถีสากล เป็นการแทรกแซงการเมืองภายในประเทศไทย เพื่อต้องการผลประโยชน์ทางการเมืองที่กัมพูชาจะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นในปี 2570 เป็นผลประโยชน์กลุ่มคนที่ยอมสละมิตรประเทศที่คอยช่วยเหลือใช้วิธีชกใต้เข็มขัด กมธ.ขอประณามการกระทำของกัมพูชาที่ส่งผลต่อเสถียรภาพการเมืองและความมั่นคงประเทศไทย ทำลายความสัมพันธ์ 2 ประเทศ
คปท.–ศปปส.ยื่นหนังสือ รทสช.
ในส่วนการชุมนุมประท้วงนายกฯ เวลา 11.00 น. องค์กรเครือข่ายรวมพลังปกป้องอธิปไตย ประกอบด้วย คปท. กองทัพธรรม ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล นายใจเพชร กล้าจน นายอานนท์ กลิ่นแก้ว มายื่นหนังสือถึงนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หน.พรรครวมไทยสร้างชาติและ สส.ของพรรค เรียกร้องให้พรรครวมไทยสร้างชาติถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลกรณีคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรี มีนายหิมาลัย ผิวพรรณ ผอ.พรรครวมไทยสร้างชาติ ออกมารับหนังสือแทนนายพีระพันธุ์ที่ติดภารกิจ เสร็จแล้วกลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนเดินสายเชิญชวนประชาชนในย่านลาดพร้าว บางกะปิ รามคำแหง พระราม 9 ดินแดง พญาไท ให้มาร่วมชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิวันที่ 28 มิ.ย.
“หงา คาราวาน” ให้นายกฯลาออก
ที่ลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพ มหานคร (BACC) เวลา 14.00 น. กลุ่มศิลปินหลากหลายแขนงกว่า 20 คน นำโดยนายสุรชัย จันทิมาธร หรือ “หงา คาราวาน” นักร้องและผู้ก่อตั้งวงคาราวาน นายวสันต์ สิทธิเขตต์ ศิลปินและนักเคลื่อนไหวทางสังคม ร่วมกันแถลงข่าวในนาม “เครือข่ายศิลปินปกป้องแผ่นดินไทย” ประกาศจุดยืนทางการเมือง เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง เพื่อยุติความขัดแย้ง ลดการเผชิญหน้า พร้อมประกาศจุดยืนไม่เอารัฐประหารทุกรูปแบบและยืนยันว่าการเปลี่ยนผ่านทางการเมืองจะต้องเป็นไปตามเจตจำนงของประชาชนผ่านกลไกประชาธิปไตยที่ถูกต้องเท่านั้น ด้านนายสุรชัยกล่าวว่า ทุกการเคลื่อนไหวจะอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายและยึดหลักสันติวิธี เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของประเทศและประชาชนทุกคน
ตำรวจเตรียมพร้อมจัดกำลังดูม็อบ
ขณะที่ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร. เปิดเผยว่า สตช.เตรียมความพร้อมดูแลการชุมนุมที่จะมีขึ้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ วันที่ 28 มิ.ย. โดยขอความร่วมมือจากผู้ชุมนุมให้ใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกภายใต้กรอบของกฎหมาย เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อประชาชนและการใช้พื้นที่สาธารณะ ได้มอบให้ บช.น.รับผิดชอบหลักในการบริหารจัดการการชุมนุม บังคับใช้กฎหมายตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 เน้นย้ำการใช้แนวทางเจรจา พูดคุย ทำความเข้าใจกับผู้จัดชุมนุม ขณะนี้ บช.น.ได้รับหนังสือแจ้งการชุมนุมเรียบร้อยแล้วและได้ประสานกับผู้จัดชุมนุม รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยได้จัดกำลังตำรวจประมาณ 1,200 นาย ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดให้หน่วยสืบสวนดูแลความเคลื่อนไหวด้านการข่าว ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด ตั้งจุดตรวจ/คัดกรองบุคคลและยานพาหนะในเส้นทางจราจรหลัก บริเวณสถานีรถไฟฟ้า ป้องกันและเฝ้าระวังการเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลที่อาจไม่หวังดี หรือมีเจตนาก่อความไม่สงบ ขอความร่วมมือจากประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านพื้นที่การชุมนุมในวันดังกล่าว หากพบเห็นเหตุผิดปกติหรือเหตุฉุกเฉินใด ๆ แจ้งตำรวจได้ที่หมายเลข 191 ตลอด 24 ชั่วโมง
เขมรเปิดประตูด่านรับศพ
ที่จุดผ่านแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ช่วงเช้าตรู่วันที่ 25 มิ.ย. มีชาวกัมพูชากว่า 40 คน และนักเรียนกัมพูชาที่มาเรียนในไทย มารอข้ามแดนกลับไปยังฝั่งกัมพูชา กระทั่งเวลา 08.00 น. มีชาวไทยที่อยู่ฝั่งกัมพูชา เข้ามาคุยกับเจ้าหน้าที่ไทยว่าทำไมฝั่งไทยยังไม่เปิดประตู เจ้าหน้าที่จึงอธิบายว่า ประตูฝั่งไทยเปิดตั้งแต่เวลา 06.00 น. แต่ฝั่งกัมพูชาเปิดเวลา 09.00 น. ขณะที่เช้าวันนี้ รถรับ-ส่ง นักเรียน ที่เข้าไปรับนักเรียนชาวกัมพูชาที่หน้าด่านต้องตีรถเปล่ากลับ เนื่องจากกัมพูชาไม่เปิดประตูให้นักเรียนกัมพูชาข้ามเข้ามาเรียนในไทย นอกจากนี้ในช่วงเที่ยงบรรดาพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาที่ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม พากันปิดร้านเดินทางกลับประเทศที่ด่านช่องจอมจำนวนมาก บางส่วนเร่งขายของด้วยการลดกระหน่ำกว่า 40-50% ไม่ว่าจะเป็นรองเท้า ที่นอน ชุดชั้นใน หาทุนไปใช้ประทังชีวิตที่กัมพูชา เพราะไม่รู้ว่าสถานการณ์จะกลับมาคลี่คลายเป็นปกติอีกนานเมื่อไหร่ ขณะที่ช่วงบ่ายทหารฝั่งกัมพูชาต้องเปิดประตูรอบสองในเวลา 13.50 น. และปิดในเวลา 14.05 น. เนื่องจากมีชาวกัมพูชามารอข้ามด่านกลับประเทศกว่า 100 คน พร้อมกันนี้มีรถพยาบาลของ รพ.เอกชน นำโลงศพชาวกัมพูชา ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในจังหวัดสุรินทร์เมื่อช่วงเช้าวันที่ 25 มิ.ย. มาส่งให้ญาติชาวกัมพูชาที่นำรถกระบะมาจอดรอรับศพกลับไปยังฝั่งกัมพูชา
ชาวขอนแก่นมอบของให้กำลังใจทหาร
ที่กองบัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ชมรมข้าราชการบำนาญและลูกจ้างจังหวัดขอนแก่น ประชาชน ผู้แทนองค์กรภาคเอกชนในจังหวัดขอนแก่น นำสิ่งของเครื่องอุปโภค-บริโภคและสิ่งของจำเป็นต่อการดำรงชีพของทหารที่ชายแดนกัมพูชา มามอบให้ พล.ต.กิตติพงษ์ เนื่องชมพู ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23 เป็นผู้แทนกองทัพภาคที่ 2 นำไปส่งต่อให้กับทหารหาญที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่แนวชายแดนไทย-กัมพูชาเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ทหารที่ดูแลชายแดนทั้งหมด ตัวแทนชมรมข้าราชการบำนาญและลูกจ้างจังหวัดขอนแก่น ยังได้กล่าวขอบคุณทหารทุกนายที่ได้เสียสละ ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติด้วยความเข้มแข็ง และขอให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ
ปิดตายช่องทางธรรมชาติทุกจุด
ส่วนที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ฝั่ง อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศและชุดควบคุมทหารพราน ระดมกำลังเสริมเข้าตรึงกำลังตลอดแนวชายแดนบริเวณ อ.อรัญประเทศ โดยเฉพาะจุดเสี่ยง ที่เคยมีการลักลอบเข้าออกอยู่เป็นประจำ เจ้าหน้าที่ได้ขึงลวดหนามตลอดแนวเขตแดน เพิ่มแนวรั้วอย่างแน่นหนาป้องกันการเล็ดลอด แต่ยังมีคนบางกลุ่มที่พยายาม “มุดลอด” ช่องรั้วกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่จึงต้องเพิ่มมาตรการอีกขั้น ด้วยการขึงลวดหนามซ้อนสองชั้น พร้อมจัดชุดลาดตระเวน ทั้งกลางวันกลางคืนอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่า “ปิดตาย” ช่องทางธรรมชาติทุกจุดอย่างเด็ดขาด
ตลาดบ้านเขาดินเงียบเป็นเมืองร้าง
ขณะเดียวกัน บรรยากาศที่ตลาดโรงเกลือ ตลาดการค้าชายแดนที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก ยังคงเงียบเหงาอย่างต่อเนื่องร้านค้ากว่าร้อยละ 90 ปิดให้บริการ เหลือเพียงไม่กี่ร้านที่ยังเปิดขายสินค้า ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ตกค้างจากมาตรการปิดด่านอย่างกะทันหัน บรรดาพ่อค้าแม่ค้าไม่สามารถข้ามแดนได้ตามปกติ ส่งผลให้การค้าขายหยุดชะงักเกือบทั้งหมด ขณะที่อีกหนึ่งจุดสำคัญ ที่ได้รับผลกระทบอย่างมากคือ จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว แหล่งค้าขายสินค้าการเกษตรสำคัญ โดยเฉพาะผัก ผลไม้ เนื้อหมู ไก่ ที่มีราคาถูกและสดใหม่ ส่งตรงจากฝั่งกัมพูชาที่เคยมีบรรยากาศคึกคักตลอดทั้งวัน แต่หลังคำสั่งปิดด่าน บรรยากาศพลิกกลับกลายเป็นเงียบเหงา ราว กับ เมืองร้าง ร้านค้าปิดตัวลงเกือบทั้งหมด พ่อค้าแม่ค้าที่เคยเข้ามา ค้าขายจากฝั่งกัมพูชาก็ไม่สามารถเดินทางเข้ามาได้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงยังคงเฝ้าระวังและควบคุมพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปิดด่าน
ชาวกัมพูชาโวยอยากกลับบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานมาเมื่อเย็นวันที่ 25 มิ.ย.ถึงบรรยากาศบริเวณหน้าด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ว่า เต็มไปด้วยความตึงเครียด หลังมีกระแสข่าวลือแพร่สะพัดว่า ทางการไทยจะเปิดด่านให้ประชาชนชาวกัมพูชาข้ามกลับประเทศได้ในช่วงเวลา 17.00- 18.00 น. ส่งผลให้มี ชาวกัมพูชาจำนวนมากเดินทางมารอตั้งแต่ช่วงเช้า โดยหวังว่าจะได้กลับบ้านเกิด กระทั่งช่วงเย็น ขณะที่ ฝนโปรยปรายลงมา ชาวกัมพูชาจำนวนมากยังคงยืน ต่อแถวรอคิวอย่างแน่นขนัด บ้างคนถึงขั้นยกมือไหว้ อ้อนวอนเจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนว่า “พวกเราอยากกลับบ้าน” บางคนประกาศกร้าวว่า “ถ้าไม่เปิดด่าน เราจะนอนตรงนี้ ขี้ตรงนี้ เยี่ยวตรงนี้ ไม่ไปไหน”
ก่อความปั่นป่วนวุ่นวายหน้าด่าน
สถานการณ์เริ่มบานปลาย เมื่อมีประชาชนบางส่วนรวมตัวตะโกนโห่ร้อง ก่อความวุ่นวายหน้าด่าน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องรีบเข้าควบคุมสถานการณ์ โดย ร.ต.นรินทร์ แสงทอง เจ้าหน้าที่ทหารพราน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 กองกำลังบูรพา พร้อมด้วย พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ สังข์ทอง รอง ผกก. ตม. อรัญประเทศ และตำรวจ สภ.อรัญประเทศ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.อรัญประเทศ เข้ามาเจรจาทำความเข้าใจกับชาวกัมพูชาให้ชาวกัมพูชาสงบสติอารมณ์ พร้อมชี้แจงเหตุผลว่าขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งอย่างเป็นทางการจากส่วนกลางในการเปิดด่าน ทำให้ไม่สามารถอนุญาตให้ข้ามแดนได้ในเวลานี้
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่