เลขาธิการพรรคเพื่อไทย รมว.การท่องเที่ยวฯ สรวงศ์ เทียนทอง ออกมาพูดในนามพรรคแกนนำรัฐบาลเพื่อไทยว่า นายกฯแพทองธาร ชินวัตร จะไม่ลาออก ไม่ยุบสภารัฐบาลยังอยู่ไปจนครบเทอม ปลอบขวัญและกำลังใจ พรรคร่วมรัฐบาลที่ยังเหลืออยู่และสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคประชาชน ข้าราชการและประชาชน ไม่ให้เสียขวัญโบราณว่าน้ำขึ้นก็ให้รีบตัก บรรดาพรรคร่วมรัฐบาล เห็นโอกาสในการต่อรองตำแหน่ง รมต.ที่ พรรคภูมิใจไทย ทิ้งเป็นเชื้อไฟไว้ให้ 8 ตำแหน่ง มีทั้งว่าการฯแรงงาน มหาดไทย รองนายกฯ อุดมศึกษา ช่วยมหาดไทย ช่วยศึกษา ช่วยพาณิชย์ กระทรวงเกรดเอทั้งนั้น โดยเฉพาะ กระทรวงมหาดไทย เป็นที่หมายปองของทุกพรรคการเมืองเพราะจะมีผลได้ผลเสียในการเลือกตั้งครั้งต่อไปมากที่สุด ไม่ได้ รมต. ได้ รมช.ก็ยังดี แน่นอนว่า เก้าอี้ มท.1 เพื่อไทยต้องกอดเอาไว้ให้แน่น เพราะกว่าจะทวงคืนจากภูมิใจไทยมาได้ ต้องเสี่ยงกับเสถียรภาพของรัฐบาลที่จะกลายเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำหรือรัฐบาลเสียงข้างน้อยได้ในพริบตาเดียวเท่านั้นในขณะที่เสียงในพรรคร่วมรัฐบาลเองก็แตกเป็นเสี่ยง รวมไทยสร้างชาติ ที่มี พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นหัวหน้าพรรค ไปยื่นเงื่อนไขกับนายกฯขอให้เปลี่ยนตัวนายกฯ เอา ชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯของเพื่อไทยที่เหลือเพียง 1 เดียวมาแทน จนเกิดความหวาดระแวงว่าจะเข้าแผน พีระพันธุ์ ส้มหล่นได้ขึ้นมาเป็นนายกฯเสียเอง จำนวน สส.ของพรรค 36 คน มีกว่า 18 คน ฝั่ง สุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ที่ยอมขัดมติพรรค ยังอยู่ร่วมรัฐบาลต่อไป ในขณะที่ สส.ฝั่งพีระพันธุ์ อีก 10 กว่าคน รอคำตอบจากนายกฯพร้อมถอนตัวถ้านายกฯไม่ออก แต่เมื่อนับนิ้วดูแล้ว เสียงรัฐบาลยังพอไปได้ จากเสียงสมทบของพรรคการเมืองฝ่ายค้าน พีระพันธุ์ และ เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ยื่นเงื่อนไขใหม่ ขอร่วมรัฐบาลต่อไปและต้องได้เก้าอี้รองนายกฯ รมว.พลังงาน และ รมว.อุตสาหกรรมตามเดิม ส่วน ฝั่ง สุชาติ ชมกลิ่น จะได้โควตาเพิ่มหรือได้กระทรวงเพิ่มไม่เกี่ยวกับโควตาของ พีระพันธุ์ ในที่สุดก็ตกลงตามนี้ 36 เสียง รวมไทยสร้างชาติยังอยู่เหมือนเดิมนอกจากนี้ยังมีกำลังเสริมจากพรรคกล้าธรรม ที่มีมือ สส.ในสภาประมาณ 35 คน จะสลับสับเปลี่ยนกระทรวง จะได้เพิ่มโควตาอีกกี่กระทรวง มีการเจรจากันเป็นการภายใน ทั้งนี้ มีชื่ออดีตสมาชิกพรรคไทยสร้างไทยที่เข้าร่วมกับกล้าธรรม อาทิ อนุดิษฐ์ นาครทรรพ และ สส.ไทยสร้างไทย ที่มีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นหัวหน้าพรรค นำโดยฐากร ตัณฑสิทธิ์ ได้นำ 6 สส.ของพรรคเข้าร่วม ครม. ในรัฐบาลชุดใหม่ด้วยเช่นกัน ทำให้เสียงของรัฐบาลเกินครึ่งจากจำนวน สส.ในสภา 495 คนไปแบบเฉียดฉิว ในส่วนประชาธิปัตย์ที่นำโดยเฉลิมชัย ศรีอ่อน มี สส.อยู่ 18 คน ที่สนับสนุนให้อยู่ต่ออีก 7 เสียงไม่เห็นด้วย เป็นหอกข้างแคร่ไปแบบนี้ ถ้าจะให้เดารัฐบาลคงปรับ ครม.แก้ผ้าเอาหน้ารอดไปก่อนจนกว่ากฎหมายสำคัญและงบประมาณปี 2569 จะผ่านสภาเรียบร้อย ส่วนที่ยังเป็นขวากหนามชิ้นใหญ่มวลชนบนถนนที่ออกมาขับไล่ และนิติสงครามที่จ่อคอหอยจะปรับ ครม.ลาออก ยุบสภาก็ต้องไปตายเอาดาบหน้าอยู่ดี.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม