การเมืองล้วนๆ

การถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาลของพรรคภูมิใจไทยนำโดย อนุทิน ชาญวีรกูล แม้เบื้องลึกเบื้องหลังจะเป็นเรื่องของคนสองคนก็ตาม กรณี คลิปหลุด ฮุน เซน กับ นายกฯแพทองธาร ชินวัตร บนข้อพิพาทดินแดน ไทย–กัมพูชา กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ในที่สุดก็กลายเป็นเรื่องเดียวกัน เป็นเหตุผล เงื่อนไข ที่ทำให้ภูมิใจไทยถอนตัว ในสภาวะที่ถูกกดดัน ยึดเก้าอี้ มท.1 โยงมาจาก คดีฮั้วเลือก สว. สะเทือนไปทั้งพรรคร่วมรัฐบาลที่แตกสามัคคีภายในกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

ที่ถูกพาดพิงถึง ไม่พ้นกองทัพ พรรคร่วมรัฐบาลอื่น ภายใต้ข้อจำกัดความระหว่างอธิปไตยของประเทศกับเทคนิคการเจรจา ส่วนตัวกับส่วนรวม ทำให้เกิดความแตกแยกในประเทศครั้งใหญ่อีกครั้งภายในเวลาอันรวดเร็ว

กองทัพ เวลานี้ นิ่งที่สุดเท่าที่เคยเกิดสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง ยึดหลักการทำหน้าที่ในการรักษาอธิปไตยของประเทศบนขาของตัวเอง พรรคร่วมรัฐบาล รวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา ที่เคยประกาศยึดหลักการในอุดมการณ์ทางการเมือง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รักษาธงไตรรงค์ของประเทศ ในการเข้าร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทย ยอมทิ้งพรรคก้าวไกล (พรรคประชาชน) ในวันนั้นก็เพราะเหตุนี้

วันนี้พรรครวมไทยสร้างชาติ ยื่นเงื่อนไขถึงนายกฯ ขอให้ลาออก โดยเสนอให้เพื่อไทยเปลี่ยนตัวนายกฯจาก แพทองธาร เป็น ชัยเกษม นิติสิริ ก่อนที่พิจารณาว่า จะถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ โดยมี สส.ของพรรคอีกครึ่งหนึ่ง (18) คน ออกมาประกาศสวนมติพรรคว่า ไม่เห็นด้วยกับมติพรรคที่จะถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล ควรสนับสนุนรัฐบาลต่อไป ส่วนเหตุผลที่แท้จริง เพราะมองออกว่า ถ้า นายกฯแพทองธาร ลาออก แล้วมีการตั้งรัฐบาลเลือกนายกฯกันใหม่ในสภา คนที่จะเป็นนายกฯอาจไม่ใช่ ชัยเกษม แต่เป็น พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เอง เพราะ พีระพันธุ์ เป็นหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลในอันดับที่สอง หลังจาก ภูมิใจไทย ถอนตัว ถ้าไม่ใช่ ชัยเกษม คิวต่อไปก็ต้องเป็น พีระพันธุ์ ซึ่งการเมืองที่ส่อวิกฤติ นายกฯจากพรรคเพื่อไทยจะถูกกดดันไม่ให้รับตำแหน่งแน่นอน

ดูจากกลุ่มคนที่ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องให้นายกฯลาออก นัดชุมนุมขับไล่ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ เป็นต้นไป ก็สอดคล้องกับสถานการณ์ บวกกับความผูกพันกับกลุ่มเคลื่อนไหวในอดีตและปัจจุบันไม่คิดก็ต้องคิดบ้าง รวมทั้งการประกาศจุดยืนทางการเมืองของอนุทิน ชาญวีรกูล จะไม่ตั้งรัฐบาลแข่งกับเพื่อไทย และอนุทินพูดหลายครั้งว่า จะเป็นนายกฯในฐานะพรรคการเมืองที่มีเสียงข้างมากตามกติกาเท่านั้น หรือจะไประแวงว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะถือโอกาสนี้นั่งเก้าอี้นายกฯ ก็ไม่เข้าเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ มี สส.ในสังกัดไม่ถึง 25 คน ย่อมเป็นโอกาสของคุณพี พรรคประชาธิปัตย์ที่หัวหน้าพรรคประกาศยังอยู่ต่อแต่มีสมาชิกไม่เห็นด้วยและทยอยลาออกพรรคเก่าแก่หมดสภาพ ชาติไทยพัฒนาไม่ต้องพูดถึงยังคงเส้นคงวา ปลาไหลใส่สเกต ขึ้นอยู่กับจังหวะและเวลา

ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของการเมืองล้วนๆ.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th 

คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม