ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ ฉากทัศน์ทางการเมืองพลิกไปอีกหน้าหนึ่ง หลังจากที่ “ภูมิใจไทย” ได้ถอนตัวออกจากรัฐบาล ทำให้มีตำแหน่งรัฐมนตรีว่างอีกเพียบเวลานี้กำลังแบ่งสรรกันทั้งพรรคแกนนำและพรรคร่วมรัฐบาลต่างก็แฮปปี้ไปตามๆกันแม้จะผ่านวิกฤติไทย-กัมพูชามาสดๆร้อนๆจากเรื่อง “คลิปมรณะ” แต่ “แพทองธาร ชินวัตร” ก็ยังสามารถประคองตัวรอดพ้นมาได้ด้วยการอาศัยหลังพิงกองทัพ ขอโทษประชาชน ยืนยันว่าจากนี้จะไม่ให้ผิดพลาดอีกประเด็นสำคัญก็คือการตอกย้ำว่าต้องสามัคคีรวมพลัง เพราะต้องเจอศึกนอกประเทศ หากเกิดความแตกแยกก็จะทำให้ชาติเสียหายได้ประกาศพร้อมน้ำตาคลอเบ้าสร้างคะแนนสงสารได้มากพอสมควรนั่นทำให้รอดพ้นเส้นยาแดงแห่งความกดดันมาได้ทำให้มั่นใจว่าประชาชนเห็นใจ เสียงเรียกให้ “ยุบสภา”–“ลาออก” จึงถูกวางไว้ข้างๆ พร้อมกับเดินหน้าทำหน้าที่ต่อไปแม้จะมีพลังมวลชนที่เคลื่อนไหวเรียกร้องให้ “ลาออก” ก็ว่ากันไปเพราะวันนี้ประเด็นใหญ่ก็คือ!เสียงสนับสนุนรัฐบาลจะต้องมากกว่ากึ่งหนึ่งจึงจำเป็นที่จะต้องดึงพรรคร่วมรัฐบาลให้อยู่ร่วมงานกันต่อไป โดยเฉพาะประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา รวมไทยสร้างชาติ3 พรรคนี้หากพรรคใดพรรคหนึ่งถอนตัวออกไปจะทำให้เกิดปัญหาได้แม้รู้ดีว่าแต่ละพรรคต่างก็ถูกกดดันให้ถอนตัวต่อเหตุ “คลิปฉาว” ก็ตามอยู่ที่ว่ามัดใจให้สนับสนุนกันต่อไปได้หรือไม่สุดท้ายก็ประสบความสำเร็จเพราะทั้ง 3 พรรคยังต้องการสนับสนุนเพื่อเป็นรัฐบาลร่วมกันต่อไป เพราะยังไม่มีพรรคไหนต้องการเป็นฝ่ายค้านหลังการประชุม 3 พรรคจึงพอมองเห็นลีลาว่าแสดงกลเกมอย่างไรเพื่อจะไปต่อโดยไม่เสียคะแนนนิยมจากเสียงเรียกร้องให้ลาออกอีกทั้งในสถานการณ์ใหม่นี้ต่างก็มีอำนาจต่อรองเพิ่มมากขึ้นอยู่ต่อแต่ก็ต้องมีของแลกเปลี่ยนคือตำแหน่งรัฐมนตรี ทั้งขอเพิ่มและคุมกระทรวงที่ตัวเองต้องการ ก็ขึ้นอยู่กับ “นายใหญ่” จะจัดสรรปันส่วนกันไปเพื่อให้ “แพทองธาร” ได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป!รัฐบาลมีเสถียรภาพที่มั่นคงเพื่อสร้างผลงานให้ปรากฏชัดเจนแม้พรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรคต่างก็อ้างว่าไม่มีต่อรอง ไม่มีขอตำแหน่ง แต่คงไม่มีใครเชื่อหรอก เพราะความจริงมันต้องเป็นอย่างนั้นต่างก็ต้องมีผลประโยชน์แลกเปลี่ยนถึงจะไปด้วยกันได้แม้แต่พรรครวมไทยสร้างชาติที่เกิดปัญหาขัดแย้งกันเอง แต่ด้วยตำแหน่งรัฐมนตรีสามารถจัดสรรให้พึงพอใจกันได้ก็เลิกทะเลาะเอาไหนเอากันเฉยเลย!นี่คือนักการเมืองมนุษย์ที่ต้องต่อรองเพื่อผลประโยชน์ทั้งนั้น“เพื่อไทย” นั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกุมสภาพให้ได้เพื่ออนาคตข้างหน้าในการเลือกตั้ง จึงจำเป็นต้องสร้างผลงานให้ได้ยิ่งมีปัญหากับกัมพูชาคะแนนนิยมถดถอยไปอีกเพียบ“แพทองธาร” คะแนนนิยมวูบไปมาก ความโดดเด่นแทบจะไม่เหลือหากไม่ทำอะไรสักอย่างให้คะแนนนิยมฟื้นขึ้นมาคงขายไม่ออกแน่เพราะในสนามเลือกตั้งนั้นผู้นำพรรคก็มีความสำคัญ ไม่ใช่มีนโยบายดีแต่คนนำไม่ดีก็ไปไม่ได้เหมือนกันเส้นทางของรัฐบาลจากนี้คงไม่ราบรื่นเท่าใดเพราะจะต้องเจอแรงกดดันของมวลชนที่เรียกร้องให้ “ลาออก” หากกระแสแรงขึ้นมากๆก็ไปลำบากเหมือนกันอย่าทำเป็นเล่นไปเตรียมตัวเตรียมใจรับสถานการณ์ให้ดี...ก็แล้วกัน!"ลิขิต จงสกุล"คลิกอ่านคอลัมน์ “สับรางวันอาทิตย์” เพิ่มเติม