ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ฟ้าที่เมืองไทย ยังคงอึมครึมเพราะทุกอย่างข้ามฝ่าไปได้ยาก เพราะแต่ละเรื่องล้วนคลี่คลายได้ยาก3 เรื่อง 3 รสพลาดเมื่อใดก็หมายถึงจบทั้งรัฐบาล!1.ความขัดแย้งระหว่างไทย–กัมพูชา 2.ชั้น 14 รพ.ตำรวจ 3.การปรับ ครม.ความขัดแย้งระหว่างไทย–กัมพูชานั้นเริ่มกินลึกเข้าไปเรื่อยๆ คงไม่จบได้ง่ายๆ เนื่องจากไทยสนองตอบตามความ ต้องการที่ผู้นำกัมพูชาต้องการเอาข้อพิพาทชายแดนเข้าสู่ศาลโลกวันนี้ก็เลยแสดงอภินิหารด้วยการดำเนินมาตรการเพื่อกดดันใส่ไทยด้วยลีลาที่แพรวพราว ซึ่งไทยต้องใช้ความอดทนอดกลั้นและตอบโต้ไปตามวิถีทางประเด็นสำคัญวันนี้ผู้รับผิดชอบต้องดำเนินนโยบายให้ทันเล่ห์เหลี่ยมให้ดีด้วยการวางแผนที่รัดกุมสร้างแต้มต่อให้มากขึ้นที่สำคัญจะต้องไปในแนวทางเดียวกันสำหรับทุกฝ่ายรัฐบาลก็อย่าแสดง “ลูกโง่” ที่อาจทำให้เสียแผนได้ พูดง่ายๆไม่รู้ไม่เข้าใจก็ต้องถามก่อนที่จะแสดงความเห็นออกไปเพราะวันนี้เราต้องสู้กับผู้นำที่เจ้าเล่ห์ประสบการณ์สูงก็คงต้องสู้กันไปอีกระยะหนึ่งจนกว่ามีทางออกที่ดีที่สุดเรื่องชั้น 14 รพ.ตำรวจก็เป็นอีกเรื่องที่อยู่บนความเป็นไปที่ค่อนข้างมีได้มีเสีย เพราะมันเกี่ยวข้องกับ “ทักษิณ ชินวัตร” ผู้มากบารมีทางการเมืองล่าสุดแพทยสภาได้ย้ำในมติเดิมที่ให้ลงโทษ 3 หมอด้วยคะแนนที่ขาดลอยเท่ากับตอกย้ำว่ามีการช่วยเหลือให้นำตัวคนป่วยรักษานอกเรือนจำโดยอาศัยคำวินิจฉัยทางการแพทย์มาเป็นเครื่องมือทำให้มีหลักฐานที่จะนำไปประกอบการพิจารณาของศาลว่าไม่ได้เจ็บป่วยถึงขั้นวิกฤติจนต้องนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลภายนอกอย่างเร่งด่วนพูดง่ายๆคือ “ป่วยทิพย์”!เพราะหมอขาดจรรยาบรรณเรื่องนี้คงต้องว่ากันไปตามกระบวน การซึ่งต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควรที่น่าจะรู้หมู่หรือจ่าก่อนน่าจะเป็นเรื่องปรับ ครม. ที่ตั้งท่ามานานแล้ว แต่ยังไม่กล้าเพราะฝ่ายที่จะถูกปรับไม่ยอมง่ายๆแต่วันนี้มีสัญญาณออกมาแล้ว!เมื่อมีการเลื่อนประชุม ครม.สัญจรที่พิษณุโลกออกไปแบบไม่มีกำหนด โดยไม่ได้แจ้งเหตุผลก็น่าจะชัดแล้ว!คือต้องทำก่อนที่คดีชั้น 14 รพ.ตำรวจจะรู้ผล เพราะทำให้มีอำนาจต่อรองสูงกว่าพรรคร่วมรัฐบาลที่ตั้งป้อมสู้อยู่แล้วอีกทั้งปัญหาไม่ใช่แค่ “ภูมิใจไทย” เท่านั้นแต่ “รวมไทยสร้างชาติ” ก็ฟาดฟันกันทุกวันขืนปล่อยให้เป็นไปอย่างนี้รัฐบาลก็คงไปต่อยาก สู้ไปลุ้นกันหลังปรับ ครม.ดีกว่า ว่าจะทำงานร่วมกันต่อไปได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับข้อต่อรองที่น่าจะพูดคุยกันได้โดยเฉพาะประเด็นที่ “เพื่อไทย” ต้องการคุมกระทรวงมหาดไทยที่ “อนุทิน ชาญวีรกูล” นั่งเต็มก้นอยู่แบบไม่ยอมลุกง่ายๆอย่างว่าของแบบนี้หากมีข้อแลกเปลี่ยนที่สมน้ำสมเนื้อก็น่าจะเจรจากันได้แต่ของแบบนี้อยากได้ของเขาก็ต้องยอมเสียของเราเพราะไม่มีอะไรที่จะได้มาง่ายๆหรอกประเด็นก็คือ “ทักษิณ” ได้แสดงท่าทีชัดเจนแล้วว่าต้องการเอาให้ได้ก็ต้องทำทุกวิถีทาง เพราะมิฉะนั้นจะเสียภาพทางการเมืองได้คือไม่มีน้ำยาหมดบารมีอีกไม่นานคงจะได้รู้กันว่าผลจะเป็นยังไง!“ลิขิต จงสกุล”คลิกอ่านคอลัมน์ “สับรางวันอาทิตย์” เพิ่มเติม