สัญชาติ “เสือ” เจ็บยังไงก็ไม่ร้อง เพราะถ้าร้องจะกลายเป็น “สุนัข” ทันที

จับอาการดักทางกันง่ายๆกับลีลาของ “จอมพล สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน” ผู้นำใหญ่สุดของกัมพูชา ที่พล่ามผ่านโซเชียลมีเดีย ไม่ได้ถอนทหาร แค่การปรับกำลังเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะนองเลือด

ยืนกรานเสียงแข็งสามเหลี่ยมมรกต “ช่องบก” ยังเป็นของเขมร

เป็นจังหวะเด้งเชือกประคองหน้าตา หลังต้องสั่งให้ทหารกัมพูชาถอยตั้งหลัก เพราะเจอ “ลูกหนัก” ของกองทัพไทยสั่งปิดด่านผ่านแดน ตามแผนยุทธศาสตร์ตัด “เส้นเลือดใหญ่” บล็อกเส้นทางไม่ให้มีการเดินทางไปบ่อนกาสิโน เสียมราฐ ปอยเปต ส่ออัมพาต ขาดรายได้มหาศาล

ทุบ “จุดตาย” ของเขมร “ฮุน เซน” ต้องดิ้นพล่าน

ร้องแสดงว่าเจ็บ อาการปากกล้าขาสั่น ตามเหลี่ยมที่ทหารหน่วยความมั่นคงไทยก็อ่านทะลุ แค่ลีลาเฒ่าเจ้าเล่ห์ มุกเก่า ฟอร์มเก่ง อวดชาวเขมรให้เคลิ้มไปกับบทบู๊ ปลุกชาตินิยมเพื่อผลความนิยมทางการเมือง

สร้างเรื่องป่วน ยั่ว ยุ แหย่ เปิดพื้นที่ให้ตัวเองมีราคา

โดยเฉพาะการสะสมแต้มความชอบธรรม ร้องแรกแหกกระเชอไปฟ้องศาลโลก เกมถนัดของอดีตประเทศราชชาติตะวันตก

ณ จุดที่ทางการไทยยังละสายตาไม่ได้ ในการต่อกรกับ “คนหน้าด้าน” ที่น่ากลัวกว่าอาวุธใดๆ วิสัยลูกหลาน “พระยาละแวก” ที่พร้อมทำได้ทุกอย่างในการหักหลัง หักเหลี่ยมคนไทย

อย่าโลกสวย หลงย่ามใจไทยเหนือกว่าเขมรในเวทีสากล

ในจุดที่คนไทยส่วนใหญ่ ไม่ได้คลั่งชาติ ไม่กระหายสงคราม แต่ไม่มีทางยอมให้ซ้ำรอย “เขาพระวิหาร” มั่นใจธงในมือของกองทัพ เทน้ำหนักกับการให้ทหารคุมเกม ไม่ไว้วางใจ

ฝ่ายการเมือง อาการรัฐบาลเพื่อไทย เงอะๆงะๆนัวเนียสายสัมพันธ์ส่วนตัว “ตระกูลชิน–ตระกูลฮุน”

...

เสียวต้องลุ้น เสี่ยงพลาดท่าถึงขั้นเสียดินแดน โดนหั่นแผ่นดิน

ตามบทพิสูจน์ที่เห็นๆกันตรงหน้า “สหายใหญ่–บิ๊กอ้วน” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ที่เคยเบรกกองทัพเสนอ “ปิดด่าน” ชายแดนกัมพูชา เพราะกลัวกระทบเศรษฐกิจ

ถึงตรงนี้น่าจะเขินนิดหน่อย เพราะผลลัพธ์ออกมาชัดๆ

โดยสถานการณ์ทหารคิดถูก รัฐบาลเดินแต้มพลาด กระแสหนุนให้ทหารนำธงต่อกรกับเขมรเจ้าเล่ห์ แต่กระนั้นรองนายกฯเบอร์หนึ่งคุมเกมความมั่นคงของรัฐบาลเพื่อไทย ก็ต้องยกเลิกภารกิจบินไปปารีส ประเทศฝรั่งเศส

เพื่ออยู่เกาะติด 3 ปมร้อนระอุเดือดที่เมืองไทย “จุดพลิกผัน” กระดานอำนาจการเมือง

นอกเหนือจากชายแดนกัมพูชาที่เป็นไฟร้อนแทรกคิวมาปัจจุบันทันด่วน จับตาวันต่อวัน

มันยังถือเป็นห้วงสัปดาห์ระทึกของลูกข่าย “นายใหญ่ จันทร์ส่องหล้า” 12–14 มิถุนายน ไล่ตั้งแต่ 12 มิถุนายน “แพทยสภา” นัดประชุมเพื่อยืนมติ สู้เกม “วีโต้” ของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ เดินหน้าลงโทษแพทย์ 3 ราย ขบวน “ป่วยทิพย์” วีไอพีชั้น 14

จังหวะต่อเนื่อง ถัดไปอีกวัน 13 มิถุนายน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดพร้อมโจทก์ จำเลย พยาน ทำการไต่สวนคดีการส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะผู้ต้องขังจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ รักษาตัวโรงพยาบาลตำรวจ

ออกหัว ออกก้อย มีผลต่อสถานะการถือธงนำขบวนโหนอำนาจอนุรักษ์นิยมแน่

และพร้อมกับชายแดนเขมรด้าน “เขากระโดง” บุรีรัมย์ กลับมาตึงเครียด ตามอาการของ “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าค่ายภูมิใจไทย บินกลับจากสวิตเซอร์แลนด์

“แลนดิ้ง” มาพร้อมกับบท “ตัวตึง” เสียงแข็งไม่ยอมเพื่อไทยยึดคืนเก้าอี้ มท.1

ย้ำ “ปฏิญญาช็อกมินต์” ยึดดีลแรกแน่น ย้ำมารยาทการเมืองเตือนความทรงจำเพื่อไทย ค่ายภูมิใจไทยไม่ขอเข้าร่วมรัฐบาล แต่ทีม “นายใหญ่” ที่เป็นฝ่ายเชิญเอง

จากขาไปหน้าตาเซื่องๆเชื่องๆ ขากลับมาเป็น “หนูแข็งแรง”

ย้อนแย้งกันเลยกับชะตากรรมของนายณฐพร โตประยูร อดีตประธานที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดิน มือยื่นสอบ “โพยฮั้ว สว.น้ำเงิน” พ่วง “ยุบค่ายภูมิใจไทย” ที่โดนศาลสั่งจำคุกพร้อมลูกชาย ไม่ให้ประกันในคดีสมคบกันฟอกเงินสหกรณ์ฯคลองจั่น

สะท้อนอิทธิฤทธิ์ “เจ้าพ่อเขากระโดง” ทีเด็ดเกรียน 2 น. ที่ห้อยของขลัง

“พลังแฝง” อำนาจนอกเหนือการเมือง แรงจริง แรงจัง.

ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม