“อิ๊งค์” ตอกย้ำพรรคร่วมไม่แตกแถว หนุน พ.ร.บ.งบปี 69 แจงปรับแผนกระตุ้น ศก.ชะลอ เงินหมื่นเฟส 3 เพื่อประโยชน์สูงสุด อ้างเหตุแทรกซ้อนพิษภาษีทรัมป์ “อนุทิน” ยันเต็มที่กับนายกฯไม่พกมีด มองคดีฮั้วเลือก สว.การเมืองเต็มๆ ไม่ให้ราคา “เจ๊แมว” สั่งทีมกฎหมาย ตั้งแท่นฟ้อง “กุสุมาลวตี” ชง กกต.ยุบ ภท. อ้างมีหลักฐานเรียก สว.พบโจ๋งครึ่มที่โรงแรม ชี้น่าเกลียด กว่าคดีจ้างพรรคเล็กลงเลือกตั้ง “ทวี” ปลุกขวัญกำจัดอิทธิพล-สิ่งชั่วร้าย สว.แหยงเลี่ยงเผชิญหน้าสื่อ “ฉัตรวรรษ” รับถูก กกต.แจ้ง 4 ข้อหา “ประพนธ์” เอาคืนตั้ง กมธ.สอบคดีชั้น 14 กก.ชุด “สมศักดิ์” ขอเอกสารเพิ่มเติมจากแพทยสภา พปชร.ชิงปัด “ลุงป้อม” ยังแข็งแรงดี แค่เสียหลัก “บิ๊กตู่-บิ๊กป๊อก” ห่วงถามไถ่อาการ
คดีฮั้วเลือก สว.เดือดปุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย สั่งทีมทนายความแกะเทปรวบรวมหลักฐานฟ้องนางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท สว.สำรอง หลังออกมาให้สัมภาษณ์พาดพิงพรรคภูมิใจไทย มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฮั้วเลือก สว. และร้อง กกต.ให้พิจารณายุบพรรค
“อิ๊งค์” ชี้พรรคร่วมหนุน พ.ร.บ.งบ 69
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 20 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญวันที่ 28 พ.ค. เพื่อจะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ว่า มีการพูดคุยกันในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรียบร้อยแล้ว ไม่มีอะไรตื่นเต้นทุกอย่างเห็นพ้องต้องกันทุกพรรค จังหวะนั้น น.ส.แพทองธารหันไปทางนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายอนุทินตอบรับว่า “ครับ เห็นพ้องต้องกันสนับสนุนท่านนายกฯทุกพรรค” เมื่อถามว่าอาจมีบางอย่างที่ต้องปรับหรือเปลี่ยนธงในเรื่องนโยบาย พูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลแล้วใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า เป็นกลไกของสภาฯ แต่เรื่องงบประมาณเราตกลงกันแล้ว หลักการมันเคาะตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ไม่มีอะไร
...
รับ 2 ทุนใหญ่สนลงทุนคอมเพล็กซ์
ผู้สื่อข่าวถามว่า เปิดสมัยประชุมสภาหน้ามีร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์รอการพิจารณา จะพูดคุยกับพรรคร่วมด้วยหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า เราคุยเรื่องงบประมาณก่อน เมื่อถามว่ามีนักธุรกิจรายใหญ่ 2 บริษัทเข้ามาพูดคุยกับประเทศไทย สะท้อนว่ามั่นใจโครงการนี้ของรัฐบาล ถือเป็นสัญญาณที่ดีหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า เขามาแสดงความสนใจว่าประเทศไทยไม่ได้ไกลจากญี่ปุ่นมาก เป็นทวีปเอเชียเหมือนกัน เห็นว่าประเทศญี่ปุ่นเริ่มแล้วมีแพลนชัดเจนแล้วว่าจะใช้พื้นที่จัดงานเวิลด์เอ็กซ์โป ที่เมืองโอซากา ทำเป็นเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะเสร็จใน 5 ปี เขาเห็นเราผลักดันเรื่องนี้เห็นเป็นโอกาส จึงอยากเข้ามาดูว่าจะเป็นอย่างไรต่อ
ปล่อยพรรคร่วมไม่ยุ่งเรื่องดูด สส.
เมื่อถามถึงกรณีมีพรรคร่วมรัฐบาลดูด สส.เข้ามาเติมเสียง ก่อนหน้านี้นายกฯเคยบอกว่าไม่อยากได้เสียงงูเห่า น.ส.แพทองธารย้อนถามว่า “แล้วเขาซื้อไหมคะ” ผู้สื่อข่าวตอบไปว่าไม่ได้ซื้อ มาด้วยความสมัครใจ น.ส.แพทองธารจึงกล่าวว่า เขามาด้วยความสมัครใจ ก็เป็นเรื่องของแต่ละพรรคจัดการ อยากได้ใครเข้ามาเพิ่ม เส้นทางการเมืองที่พบเจอมามันเป็นความเชื่อความเข้าใจของแต่ละคนว่า ณ เวลานั้นรู้สึกว่าสังกัดพรรคไหนแล้วเป็นตัวเองตอบโจทย์ เหมือนเราสมัครงานทำงานที่ไหนแล้วองค์กรนี้ใช่หรือไม่ ห้ามไม่ได้ใครอยากย้ายไปไหน ก็เหมือนสื่อที่ย้ายสังกัดได้เช่นกัน เป็นวงการการเมือง
ปรับแผนกระตุ้น ศก.เกิดผลสูงสุด
น.ส.แพทองธารกล่าวต่อว่า ที่ประชุม ครม.ยังเห็นชอบทบทวนค่าใช้จ่ายงบประมาณปี 2568 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ตามที่รับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่ขอให้ทบทวนให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจโลก เปลี่ยนเงินก้อนนี้มาลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ลงทุนในมนุษย์ระยะยาว และ ครม.ยังเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 เพื่อเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป โดยจะพิจารณาวาระ1 วันที่ 28-30 พ.ค. วงเงิน 3.7 ล้านล้านบาท เมื่อถามว่าดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 1 และ 2 กระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหรือไม่ และเฟส 3 ที่ชะลอเพราะไม่มีเงินใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า สองรอบแรกกระตุ้นในกลุ่มคนเปราะบางและผู้สูงอายุ แต่เมื่อมีเรื่องกำแพงภาษีเข้ามา เราต้องพิจารณาทบทวน ข้อเสนอจาก ธปท. และ สศช.ให้ทบทวนว่าเงินก้อนนี้จะใช้อะไรที่จำเป็นและเร่งด่วนกว่าเรื่องเงินดิจิทัล คือเปลี่ยนรูปแบบไปเรียงลำดับความสำคัญ
อ้างเหตุแทรกทำต้องชะลอเฟส 3
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ใช้คำว่าชะลอแปลว่ายังหวังกับดิจิทัลวอลเล็ตอยู่ หรือที่ไม่กล้าพูดเพราะกลัวกระทบฐานเสียง น.ส.แพทองธารตอบว่า ขณะนี้มีปัญหามาแทรก เงินก้อนนี้เกิดประโยชน์ตรงไหนสูงสุดเราเน้นตรงนั้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และเวลาหาเสียงพรรคเพื่อไทยประเมินสถานการณ์ว่าทำได้จริง ตอนนั้นไม่มีเรื่องกำแพงภาษีสหรัฐฯ ไม่มีประเทศไหนคาดคิด เราทำไปแล้วไม่ใช่ว่านโยบายนี้ทำไม่ได้เลย แต่สถานการณ์แทรกมามันสุดวิสัย จะให้ สส.ไปทำความเข้าใจกับประชาชน ว่าเงินก้อนนี้เรานำไปทำโครงสร้างพื้นฐาน เช่น เรื่องน้ำ ทั้งอุปโภคบริโภค น้ำท่วม น้ำแล้ง เมื่อถามว่าการลงทุนดังกล่าว คนยังมองไม่ออกว่าจะไปต่อกรกับกำแพงภาษีสหรัฐฯอย่างไร หรือจะเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ น.ส.แพทองธารตอบว่า เงิน 1.57 แสนล้านบาทก้อนนี้ มาจากงบกลางต้องใช้ให้หมดภายในวันที่ 30 ก.ย. จากนั้นจะมีนโยบายระยะกลาง ระยะยาว รองรับต่อจากก้อนนี้ เงินที่เราลงทุนเป็นโครงสร้างของทั้งประเทศ อาจไม่ได้ลงไปถึงรายบุคคลแต่เป็นภาพรวม เราต้องทบทวนต้องทำอะไรก่อน
ไม่ได้ถาม “สารัชถ์” คุยอะไร “ทรัมป์”
เมื่อถามว่าแสดงว่าตัวที่จะสู้กับกำแพงภาษีอยู่ในเงินกู้ 5 แสนล้านบาท ที่กระทรวงการคลังกำลังดูอยู่ น.ส.แพทองธารตอบว่า ในนี้มีส่วนหนึ่ง แต่ส่วนที่เห็นชัดเป็นรูปธรรมคือ เราต้องการให้เงินก้อนนี้ออกมาเป็นรูปธรรม ส่วนเรื่องภาษีสหรัฐฯอาจมีบางส่วนที่ใช่ เมื่อถามถึงความคืบหน้าการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ หลังมีภาพนักธุรกิจใหญ่ได้พบนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ถือเป็นสัญญาณที่ดีหรือไม่ เกี่ยวอะไรกับดีลลับที่เคยพูดหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า พอดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่ได้เดินทางไป การเดินทางไปของนักธุรกิจใหญ่ไม่ได้ประสานกับรัฐบาล จึงไม่ทราบว่าได้คุยอะไรกัน บอกแล้วว่าเสียดายที่นายทักษิณไม่ได้ไป เมื่อถามว่านายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานกรรมการบริหารกัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ มีรายงานอะไรให้ทราบบ้างหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า ไม่มี ไม่ได้คุย แต่ท่านพูดคุยว่านายกฯกาตาร์มาทักทาย เมื่อถามว่าจะให้นายสารัชถ์เข้ามาช่วยเจรจาเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า เราต้องทำตามระบบก่อน แต่ไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจใหญ่เจ้าไหน ถ้าเกิดประโยชน์กับรัฐบาล ทุกฝ่ายควรร่วมมือกัน
“อนุทิน” เต็มที่กับนายกฯไม่มีพกมีด
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า ทุกพรรคยืนยันพร้อมสนับสนุนนายกฯ สถานการณ์การเมืองไม่มีอะไรน่าห่วง นายกฯเตรียมเดินทางไปราชการต่างประเทศประมาณ 1 สัปดาห์ จึงเดินไปส่งที่ตึกไทยคู่ฟ้า นายกฯฝากว่าทำทุกอย่างให้เรียบร้อย เมื่อถามถึงกรณีนายไพศาล พืชมงคล โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวชมนายอนุทินว่าจริงใจสนิทสนมเป็นพิเศษกับนายกฯว่า พบนายทักษิณล่าสุดเมื่อ 11 เม.ย. ขอบคุณหากนายทักษิณพูดเช่นนั้นจริงๆ “เรื่องที่ถามยอมรับว่าเป็นความจริง ทุ่มเทสุดหัวใจ ตั้งใจทำงานกับนายกฯ เพราะท่านตั้งใจทำงาน เสียสละในฐานะเป็นหัวหน้ารัฐบาล เรื่องงานฝ่ายบริหารผมเต็มที่ ไม่มีอะไรซ่อนเร้น มีแต่แว่นตา ไม่มีมีด” เมื่อถามว่าเดี๋ยวนายทักษิณเหน็บ เป็นจำเลยรักหรือไม่ นายอนุทินหัวเราะก่อนตอบว่า “ส่วนใหญ่ชม ให้สื่อถามเรื่องงานดีกว่า”
มองคดีฮั้วเลือก สว.การเมืองเต็มๆ
เมื่อถามว่ามีสมาชิกพรรค ภท.หลายคนถูกคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26 ของสำนักงาน กกต. ออกหมายเรียก นายอนุทินตอบว่า ยังไม่ได้พูดคุยเพราะไม่ได้มีปัญหา ทุกคนให้สัมภาษณ์หมดแล้วพร้อมไปชี้แจง เมื่อถามว่าเป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ นายอนุทินถึงกับหัวเราะก่อนตอบว่า ผู้สื่อข่าวคิดเองได้ ใครๆก็ประเมินถูก เชื่อมาตั้งนานแล้ว ใครๆ ก็เชื่อว่าเป็นเรื่องการเมือง แต่เรื่องนี้ตนไม่เกี่ยว เมื่อถามว่าเมื่อเป็นเรื่องการเมืองต้องการอะไรจากพรรคภท. นายอนุทินตอบว่า ไม่เห็นต้องถามเลย คำตอบทุกคนรู้อยู่แล้ว หากต้องการอะไรจากพรรค ภท. ก็ไม่มี เราไม่เกี่ยวอะไรกับ สว. เคยออกประกาศห้ามสมาชิก ภท.ไปข้องเกี่ยวกับการเลือก สว. อย่ามายัดเยียด ไม่ทราบเหมือนกันเหตุใดถึงเจาะจงมาที่สมาชิกพรรค ภท. แสดงว่าคงต้องมีดีอะไรบางอย่างจึงมีคนพยายามเจาะยาง
ไม่ให้ราคา “กุสุมาลวตี” พูดโกหก
ผู้สื่อข่าวถามว่า นางสุขสมรวย วันทนียกุล สส.อำนาจเจริญ พรรค ภท. เตรียมยื่นฟ้องนางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท สว.สำรอง และอดีต สส.เพื่อไทย ที่พาดพิงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการฮั้ว สว. นายอนุทินตอบว่า หากพาดพิงสมาชิกพรรค ภท.ก็ต้องฟ้อง เรื่องนี้เป็นเรื่องการเมืองอยู่แล้ว เริ่มตั้งแต่จุลภาคมาเป็นมหภาค เมื่อถามว่าได้คุยนอกรอบกับนายกฯหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไม่เคยคุย เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยว “อโหสิกับคนคิดไม่ดี ขอให้ทุกคนมีความสุขความเจริญ สัพเพ สัตตา อะเวรา” ส่วนกรณี น.ส.กุสุมาลวตียื่นยุบพรรค ภท.ต่อ กกต. ถือว่าเขาพูดไม่จริง พูดโกหกทุกเรื่อง ตั้งแต่ที่ระบุว่ามาคุยกับตนที่รัฐสภา รู้จักเขาตั้งแต่อยู่พรรคชาติไทยพัฒนา จริงๆ หน้ายังไม่อยากมอง รู้ว่าเป็นคนอย่างไร ที่มาดักเจอที่รัฐสภาเพื่อมาขอเสียง สว. ใครจะไปสนับสนุนเพราะไม่ได้อยู่พรรค ภท. รู้พฤติกรรมเป็นอย่างนี้มานาน ส่วนที่อ้างว่านัดเจอผู้สมัคร สว.ที่โรงแรมย่านรางน้ำ ไปที่นั่นสัปดาห์ละ 7 วัน เพราะสะดวก พรรคพวกเวลานัดก็อยู่ที่นั่นหมด ใครไปที่นั่นก็พบตน ก่อนกลับบ้านไปนั่งอยู่ที่นั่นทุกเย็น ไปคุยกับนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดด้วย บางทีเราเป็นคนสุภาพ ก็โดนคนกักขฬะทำแบบนี้
สั่งทีมกฎหมายขยับตั้งแท่นฟ้อง
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ที่มีคนไปยื่นร้องยุบพรรค ภท.ถึง 2 ราย นายอนุทินตอบว่า ไม่สะทกสะท้าน เพราะไม่ได้ทำผิด เราไม่มีคนเกลียดคนชัง เจอใครทักเสมอพ่อแม่สอนมาดี เมื่อถามว่านางกุสุมาลวตี อ้างมีรัฐมนตรีช่วยพรรค ภท. บอกจะให้คุยกับหัวหน้าพรรค ภท. นายอนุทินตอบว่า ใครจะกล้า เป็นลูกน้องจะกล้าเอาคนที่น่ารังเกียจไปพบหัวหน้าหรือ เชื่อว่าเขาเจอใครเขาเก็บหมด ไม่มีอะไร อย่าไปพูดถึงเสียเวลา ไม่สนใจไม่ให้ราคา พยายามสุภาพเต็มที่แล้ว แต่ออกมาพูดโกหกหลอกลวงประชาชนแบบนี้ เมื่อถามว่าจะฟ้องกลับหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ถ้าถึงขนาดนี้คงต้องฟ้อง สั่งให้แกะเทปแล้ว มีนักกฎหมายของพรรคดูแลเรื่องนี้อยู่ พวกนี้มาเป็นขบวนการ ตัวเองก็มาถึง สว.สำรอง ถ้าผิดก็ผิดกันหมด จากรอบคัดเลือกระดับอำเภอก็มาด้วยกัน
น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ดูนางกุสุมาลวตีมีเจตนาพิเศษจ้องทำลายพรรค ภท. ก่อให้เกิดความเสียหาย จะให้ฝ่ายกฎหมายพรรค ภท.ดำเนินการฟ้องร้องให้ถึงที่สุด
“นภินทร” ลั่นไม่เกี่ยวมั่นใจแจงได้
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ แกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีถูกออกหมายเรียกให้ชี้แจงคดีฮั้วเลือก สว.ว่า ทราบจากข่าว ยังไม่มีหมายส่งมา มั่นใจว่าไม่เกี่ยวข้อง ไม่กังวล ถ้ามีหมายมาพร้อมไปชี้แจง เชื่อมั่นในข้อเท็จจริงชี้แจงได้แน่นอน และเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ ไม่ทราบว่าอะไรที่ทำให้เชื่อมโยง คงต้องไปพบ กกต.ก่อน เรื่องหัวหน้าพรรคมีหนังสือสั่งห้ามไปเกี่ยวข้อง ก็ปฏิบัติตามนั้น ไม่เคยคิดเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ยังไม่ได้คุยกับหัวหน้าพรรค แต่เลขาฯโทร.มาให้ไปชี้แจง ก็จะไปพบวันนี้ เมื่อถามว่ามองว่าเป็นศึกระหว่างสีแดงกับสีน้ำเงิน นายนภินทรตอบว่า อย่าไปคิดไกลขนาดนั้น เป็นเรื่องบุคคลมากกว่า อย่าไปคิดสร้างปัญหาให้เกิดการแตกแยก ทุกวันนี้ทำงานกันดีกับพรรคเพื่อไทย ไม่มีปัญหา
“ทวี” ปลุกใจกำจัดอิทธิพล–สิ่งชั่วร้าย
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ว่า หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ก็ปฏิบัติตามคำสั่ง ไม่ได้สื่อสารไปที่ดีเอสไอ รัฐมนตรีไม่ได้เข้าไปยุ่งอยู่แล้ว เป็นเรื่องที่ดี เพราะวันนี้ต้องยกระดับหลักนิติธรรมทั้งรัฐสภา ศาล รัฐบาล องค์กรอิสระ เจ้าหน้าที่รัฐต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ตามกฎหมาย อยากสื่อสารไปถึงทุกคนในภาวะบ้านเมืองที่อาจมีคนหวาดระแวงกัน บ้านเมืองเจริญได้ต้องใช้กฎหมาย อิทธิพลหรืออำนาจ ความไม่ดี ความชั่วร้ายแข็งแกร่งกว่ากฎหมายไม่ได้ เจ้าหน้าที่ในตำแหน่งที่มีอำนาจหน้าที่ต้องใช้กฎหมายตรงไปตรงมา ปราศจากอคติ ที่สำคัญความยุติธรรมต้องกล้าหาญ ส่วนบรรยากาศการประชุม ครม. ทุกฝ่ายยังดีกัน ไม่มีแบ่งพรรคโน้นพรรคนี้ เมื่อถามว่าพรรค ภท.มองเป็นเรื่องการเมือง ยังทำงานร่วมกันได้หรือไม่ พ.ต.อ.ทวีตอบว่า ไม่มีความรู้สึกอย่างนั้น ยังคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูลรองนายกฯ ที่ออกจากโรงพยาบาลมา ชื่นชมในการรักษาตา
ให้ “ชูศักดิ์” ดูแลดีเอสไอแทน “ทวี”
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ประชุม ครม.แต่งตั้งให้ดูแล กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แทน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวว่า เป็นเพียงการรักษาราชการแทน ไม่ต้องเข้าไปมอบนโยบาย ยืนยันไม่ได้กังวลอะไรที่ต้องมาดูเรื่องคดีฮั้วเลือก สว. เจ้าหน้าที่กำลังทำหน้าที่ของเขาอยู่ไปตามระบบ ไม่จำเป็นต้องย้ำอะไรเป็นพิเศษกับดีเอสไอ เราต้องดูให้เป็นไปตามกฎหมาย ตามระเบียบ ยืนยันว่าไม่ได้มาสั่งคดี ไม่ได้มาบอกว่าคดีต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เมื่อถามว่าต้องพูดคุยกับ พ.ต.อ.ทวีเพื่อส่งมอบงานหรือไม่ นายชูศักดิ์ตอบว่าเป็นเรื่องของพนักงานสอบสวน เป็นเรื่องที่ดีเอสไอทำงานกันอยู่แล้ว รัฐมนตรีไม่ได้เป็นพนักงานสอบสวนด้วย ไม่เกี่ยวอะไร เมื่อถามว่าถูกมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง นายชูศักดิ์ตอบว่า “ก็หลับตาซะว่าไม่มีการเมือง แล้วมันจะสบายขึ้น”
“กุสุมาลวตี” ยื่นยุบ ภท.คดีฮั้ว สว.
เวลา 11.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีตผู้สมัคร สว. เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต. ให้พิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กรณีมีความเกี่ยวข้องกับการฮั้วเลือก สว.ปี 2567
นางกุสุมาลวตีกล่าวว่า มีหลักฐานการกระทำความผิดทั้งอั้งยี่ซ่องโจร และพฤติกรรมทั่วไปของแกนนำคนสำคัญพรรค ภท. มีหลักฐานว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับกระบวนการมีการจัดตั้งคนใน จ.บุรีรัมย์ และพบเส้นทาง การเงิน เป็นหลักฐานการโอนเงิน ที่ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์จับได้หมดว่าใครโอนเงินไปให้ใครบ้าง จะนำหลักฐานนี้มายื่นให้ภายหลัง เพราะกลัวและเชื่อว่าในทุกองค์กรจะมีฝ่ายเขาฝ่ายเรา แต่ถ้า กกต.เรียกมาชี้แจงเมื่อไหร่ จะนำหลักฐานเหล่านั้นมามอบให้
อ้างมีหลักฐานเรียก สว.พบโจ๋งครึ่ม
นางกุสุมาลวตีกล่าวอ้างอีกว่า นอกจากนี้ในส่วนของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท. มีหลักฐานว่าเมื่อกระบวนการเลือก สว.เสร็จสิ้นแล้ว นายอนุทินได้เรียก สว.ไปพบที่โรงแรมย่านซอยรางน้ำ เพื่อให้เขียนใบลาออกเป็นหลักการว่าคนพวกนี้ต้องอยู่ภายใต้การสั่งการของพรรค ภท. และ สส.หญิงในภาคอีสานของพรรค ภท. มีทั้งภาพ ขณะ สว.เขียนใบลาออก และคลิปเสียงประกอบ ยืนยันว่าหลักฐานชัดเจน ถ้าไม่ชัดเจนคงไม่กล้ามาเปิดหน้า แต่จะมีการขอคุ้มครองพยานจากดีเอสไอ ส่วนกรณีที่นายอนุทินขู่จะฟ้องนั้น ไม่กลัว เมื่อเรากล้าที่จะชนก็กล้าที่จะเจ็บ และรู้ว่าจะเจอกับอะไร มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม และยืนยันไม่เคยไปพูดขออะไรกับนายอนุทิน และเตรียมทนายไว้แล้วจะฟ้องกลับนางสุขสำรวย วันทนียกุล สส.อำนาจเจริญ พรรค ภท. และนายอนุทิน ข้อหาหมิ่นประมาท ด้วยการโฆษณา ไม่กลัวอยู่แล้ว เมื่อถามว่าเมื่อสักครู่เห็นพูดว่าจะตาย คืออะไร นางกุสุมาลวตีตอบว่า ได้ขอคุ้มครองพยานไว้กับดีเอสไอ “คิดว่าถ้าเราทำดี ถ้าเราเปิดหน้าชนบางทีเขาคงไม่กล้า แต่ถ้าเราหลบๆซ่อนๆเขาอาจจะกล้า ถ้าเราตายไป หรือมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ขอให้ทุกคนจงเชื่อว่าเกิดจากอีกฝั่ง ฉะนั้นเราไม่กลัวความตาย”
ชี้น่าเกลียดกว่าคดีจ้างพรรคเล็ก
“วุฒิสภาเป็นสภาสูง แต่ถามว่าหัวหน้าพรรคบางพรรค มีการกระทำผิดไหมกับการสั่งให้นายอำเภอซึ่งเป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งระดับอำเภอ รับผู้สมัคร บางคนขายข้าวแกงก็มาเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้ บางคนขับรถก็มาเป็นนักสื่อสารมวลชนได้ หลายคนคุณสมบัติไม่ตรง แต่ก็สั่งให้นายอำเภอเซ็นรับรองคนเหล่านั้นมาก่อน ทำให้คนดีไม่ได้เข้ามาเพราะถูกบีบออก กระบวนการแบบนี้มันท้าทายคนไทย และกระบวนการยุติธรรม และทำลายประชาธิปไตย ลูกชายหัวแก้ว หัวแหวนของบางคนร่วมกระทำความผิดด้วย มีเส้นทางการเงินที่เรามองเห็น มีพฤติกรรมส่อแสดงรู้เห็น บงการกระบวนการเลือก สว. เรามีหลักฐานจำนวนมากเห็นว่าสมควรที่จะยุบพรรคนี้ กระบวนการเลือก สว.สมควรเป็นโมฆะ ขนาดในอดีตจ้างพรรคเล็กลงสมัคร คูหาหันหน้าหันหลังยังเป็นโมฆะ แต่ครั้งนี้ความผิดมโหฬารยิ่งกว่า จึงคิดต่อสู้เรื่องนี้ เพราะถ้าองค์กรอิสระทั้ง 7 องค์กร อยู่ภายใต้การครอบงำของบางพรรค บางสี บางกลุ่ม มองไม่ออกว่าอนาคตประเทศเราจะเป็นอย่างไร” นางกุสุมาลวตีกล่าว
สว.แหยงหาวิธีเลี่ยงเผชิญหน้าสื่อ
ที่สำนักงาน กกต. กลุ่ม สว.ลอตแรก ที่ถูกคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26 เรียกมารับทราบและชี้แจงข้อกล่าวหา ในคดีฮั้วเลือก สว. ทยอยเดินทางเข้าชี้แจงเป็นวันที่สอง ส่วนใหญ่มาเป็นกลุ่มพร้อมกับทนายความ มานั่งรอเวลาอยู่ที่ร้านกาแฟ บริเวณใกล้ๆกับทางเข้าสำนักงาน กกต. ชั้น 1 คาดว่าเพื่อหลีกเลี่ยงที่จะปะหน้ากับผู้สื่อข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวเดินเข้าไปสอบถามคนในกลุ่มที่สวมเสื้อติดตราวุฒิสภา ว่าเป็นกลุ่ม สว.ที่จะมาชี้แจงข้อกล่าวหาหรือไม่ แต่ทั้งหมดไม่ยอมพูดและปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล มีท่าทีอึดอัด ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่ามาชี้แจงใช่หรือไม่ ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะยอมรับว่า “ใช่” ผู้สื่อข่าวจึงหันไปถามชายใส่เสื้อสีขาวอีกคนว่าคือนายจตุพร เรียงเงิน สว. ใช่หรือไม่ เจ้าตัวถามกลับว่า “ใช่ไหมล่ะ” ผู้สื่อข่าวถามย้ำก่อนจะยอมรับว่าใช่ในที่สุด
“สมชาย-นิสิทธ์” มั่นใจบริสุทธิ์ 100%
ขณะที่นายสมชาย นุ่มพลู สว. พยายามเดินเลี่ยงผู้สื่อข่าวเช่นกัน แต่เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงความกังวล นายสมชายตอบสั้นๆว่า ไม่กังวลจะชี้แจงตามข้อเท็จจริง ด้านนายนิสิทธ์ ปนกลิ่น สว. ได้แต่ส่ายหน้าเมื่อถูกถามว่าเตรียมการมาอย่างไรบ้าง แต่ได้พยักหน้าตอบว่า มั่นใจในความบริสุทธิ์ของตนเอง 100% ก่อนจะโบกมือเมื่อถูกถามว่ากังวลอะไรหรือไม่ ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ไล่โทรศัพท์สอบถาม สว. ที่มีรายชื่อเข้าชี้แจงในวันนี้ บางส่วนไม่รับโทรศัพท์ ขณะที่บางส่วนรับโทรศัพท์ และยืนยันว่าจะมาชี้แจง เช่น นายจิระศักดิ์ ชูความดี พ.ต.ท.สง่า ส่งมหาชัย ขณะที่ สว.บางคน ส่งทนายมาเลื่อนเข้าชี้แจง เช่น นายสมพาน พละศักดิ์
“ฉัตรวรรษ” รับถูก กกต.แจ้ง 4 ข้อหา
พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. กล่าวหลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหาว่า ถูกแจ้งข้อกล่าวหา 4 ข้อ ฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. เกี่ยวกับการรวมตัวกันตามโรงแรมในพื้นที่รอบปริมณฑล และมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับพฤติการณ์ตามข้อกล่าวหา ตั้งแต่วันที่ 23-26 มิ.ย.2567 โดยได้รับผลประโยชน์ จึงย้อนถาม กกต.ว่า ได้รับผลประโยชน์อย่างไร เจ้าหน้าที่ กกต.บอกว่า ได้ประโยชน์ตรงที่ได้เป็น สว. จึงถามกลับไปว่ารับราชการมา 30 กว่าปี ไม่เคยมีปัญหา เท่าที่ดูคณะอนุกรรมการไต่สวนที่เชิญมาชี้แจง ให้ความเป็นธรรมพอสมควร รู้สึกสบายใจที่ได้ชี้แจง และในห้องสอบสวนของ กกต.ไม่มีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมสอบด้วย ในวันที่ 21 พ.ค. จะนำหลักฐานเพิ่มเติมบางประเด็นที่ยังไม่ได้ชี้แจงมายื่นเพื่อยืนยันในความบริสุทธิ์
“อลงกต” โชว์สกิลยิงมุกภาษาจีน
ด้านนายอลงกต วรกี สว. ทันทีที่พบกับผู้สื่อข่าว ยังคงกล่าวทักทายเป็นภาษาฝรั่งเศสว่า Bonjour (สวัสดี) จากนั้นรีบเดินเลี่ยงไปเข้าห้องน้ำ เมื่อนายอลงกตเดินกลับมาอีกครั้ง ผู้สื่อข่าวถามถึงความรู้สึกหลังเข้าชี้แจงกับ กกต. นายอลงกตทำท่าเม้มปาก ไม่ตอบคำถาม ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าล่าสุดมีกลุ่ม สว.ยื่นหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ชุดที่ 26 ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาให้คณะกรรมการชุดนี้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว นายอลงกตยังคงไม่ตอบคำถาม ก่อนเปลี่ยนมาเป็นส่งสำเนียงเป็นภาษาจีนว่า “หนี่เมินห่าว” (สวัสดีพวกคุณ) และ “หว่อปู้ซัวฮว่า” (ผมไม่พูด) ก่อนที่จะปิดท้ายว่า “เซี่ยเซียะหนี่เมิน” (ขอบคุณพวกคุณ) โดยนายอลงกตเล่นมุกพูดกับผู้สื่อข่าวเป็นภาษาต่างประเทศ เป็นวันที่สองติดต่อกัน หลังจากเมื่อวันที่ 19 พ.ค. ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเป็นภาษาฝรั่งเศสมาแล้ว
สว.เอาคืนตั้ง กมธ.สอบคดีชั้น 14
ที่รัฐสภา นายประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล สว. ประธานกรรมาธิการสาธารณสุข วุฒิสภา กล่าวว่า ร่วมกับ กมธ.กฎหมาย และการยุติธรรม วุฒิสภา ตั้ง กมธ.ขึ้นมาร่วมพิจารณาตรวจสอบจริยธรรมทางการแพทย์ กรณีมติแพทยสภาลงโทษแพทย์ที่รักษาตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ต้องถูกคุมขังในเรือนจำ จะพิจารณามิติด้านสาธารณสุขอย่างเดียวไม่ได้ ต้องพิจารณามิติด้านกฎหมายด้วยเป็นเรื่องเกี่ยวเนื่องกับ กมธ.มากกว่า 1 คณะ จึงต้องพิจารณาร่วมกัน
กก.ชุด “สมศักดิ์” ขอเอกสารเพิ่มเติม
ที่กระทรวงสาธารณสุข นายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรมมาตรา 25 กรณีแพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ 3 คนที่รักษานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจว่า เป็นการประชุมนัดแรก กรรมการมาประชุมครบทั้ง 10 คน พิจารณาเอกสารที่ได้รับจากแพทยสภาหลายพันหน้า กรรมการเห็นว่ายังมีเอกสารบางส่วนที่ขาดในส่วนของขั้นตอนการพิจารณาของแพทยสภาที่กรรมการยังสงสัย ตั้งแต่การรับเรื่องราวร้องเรียนกับเลขาธิการแพทยสภา การพิจารณาของกรรมการจริยธรรม และขั้นตอนการพิจารณาของอนุกรรมการกลั่นกรอง จึงจะขอให้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษขอเอกสารแพทยสภาเพิ่มเติมกลับมาโดยเร็ว หากได้รับเอกสารเร็วก็จะนัดประชุมภายในสัปดาห์นี้ แต่หากยังไม่ได้รับก็จะประชุมอีกครั้งเพื่อสรุปความเห็นเสนอสภานายกพิเศษ วันที่ 26 พ.ค. เพื่อดำเนินการตามกระบวนการต่อไป โดยกรรมการทั้ง 10 คน จะทำความเห็นตามดุลพินิจตนเอง ไม่มีการชี้นำใดๆ
รมว.สธ.ยังไม่ยับยั้งมติแพทยสภา
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ยังไม่สามารถบอกข้อมูลได้ว่าจะยับยั้งหรือไม่ยับยั้ง เพราะข้อมูลยังไม่ครบ ถ้าข้อมูลครบก็จะใช้เวลา 15 วันหลังได้รับหนังสือจากแพทยสภา ทั้งนี้จากการขอข้อมูลไปครั้งที่ 2 หากได้กลับมาข้อมูลก็ครบแล้ว จะพยายามไม่ขอขยายเวลา เมื่อถามว่า อดีตแพทยสภาออกมาตั้งคำถามว่า หากมี พ.ร.บ.แพทยสภาฉบับใหม่ ควรให้อำนาจสภานายกพิเศษมีอำนาจยับยั้งมติแพทยสภาหรือไม่ นายสมศักดิ์ตอบว่า “นั่นสิ กฎหมายเขียนไว้ทำไม ต้องเปลี่ยนสิ งั้นก็ต้องไปเปลี่ยนกฎหมายใหม่ เพราะผมทำตามกฎหมาย ถ้าผมไม่ทำตามกฎหมายจะมีความผิด” เมื่อถามว่าได้อ่านหนังสือร้องขอความเป็นธรรมของนายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจหรือยัง นายสมศักดิ์ตอบว่า ดูแล้ว จึงได้ขอเอกสารจากแพทยสภาว่าตรงกับสิ่งที่เขาร้องเรียนร้องขอความเป็นธรรมมาหรือไม่ เพราะเกี่ยวข้องกับมาตรา 157
“ไหม” กระทุ้ง “เผ่าภูมิ” โวจีดีพีโต
อีกเรื่อง น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.)โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า ขอตั้งคำถามเกี่ยวกับตัวเลขที่นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ระบุว่า จีดีพีในรัฐบาลชุดนี้โตกว่า 3% ติดต่อกัน 3 ไตรมาส ครั้งแรกในรอบ 7 ปี และเกิดขึ้นเพียง 7 ครั้งในประวัติศาสตร์ จีดีพีไตรมาส 1 โต 3.1% ส่งออกเป็นพระเอก หรือผู้ร้าย? ส่งออกโตดีมาก โดยเฉพาะส่งออกสินค้าโต 13.8% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเร่งส่งออกเพื่อหนีการขึ้นภาษีสหรัฐฯ แต่น่าประหลาดใจภาคอุตสาหกรรมแทบไม่โตเลย (+0.6%) แล้วเราเอาสินค้าจากไหนไปส่งออก? สมมติฐานหนึ่งคือมาจากสินค้าสวมสิทธิ์ งบฯ 67 ที่ออกล่าช้า เนื่องจากตัวเลขการเติบโตการลงทุนรวม +4.7% อาจทำให้เราหลงดีใจเก้อ ว่าการลงทุนกลับมาแล้ว ท่องเที่ยวกำลังหมดแรง ตัวเลขท่องเที่ยวเราจะดูจากการส่งออกบริการ โต +7% ซึ่งไม่เลว แต่พอเหลือบไปดูตัวเลขท่องเที่ยวปีที่แล้วเคยโตเฉลี่ย +25% ที่เป็นแบบนี้เพราะการท่องเที่ยวเพิ่งฟื้นตัวจากโควิด กำลังค่อยๆไต่ระดับขึ้นไปที่จุดเดิม (40 ล้านคนต่อปี) พอใกล้ถึงยอดเดิมจะค่อยๆโตช้าลง แต่ที่จะแย่ไปกว่าเดิมเพราะหลังจากไตรมาส 1 เราเริ่มเห็นสัญญาณนักท่องเที่ยวที่แผ่วลงกว่าเดิม ทั้งจากจีน และมาเลเซีย ที่เคยเป็นกลุ่มหลักไม่ใช่เรื่องน่าดีใจที่เศรษฐกิจ 3 เดือนแรก ที่โตเพราะมาจากพื้นฐานที่เปราะบางกว่าฟองสบู่ และเศรษฐกิจทั้งปีที่จะโตแค่ 1.8% เท่ากับว่าไตรมาสหลังๆอาจเจอเศรษฐกิจหดตัว หรือเกิดเศรษฐกิจถดถอย 2 ไตรมาสติด (technical recession) ก็เป็นไปได้ หวังว่ารัฐบาลจะมีแผนการเตรียมพร้อมรับมือ ผ่านโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจระลอกใหม่ที่จะมาถึง ส่วนที่อ้าง 7 ครั้งในประวัติศาสตร์ โหลด excel สภาพัฒน์ไปดูเองเถอะว่าอ้างแบบนี้มันตลกขนาดไหน
“ลุงป้อม” ยังแข็งแรงดีแค่เสียหลัก
พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกระแสข่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ที่ไปร่วมในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ที่พระอุโบสถ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร ประสบอุบัติเหตุพลัดตกบันไดว่า พล.อ.ประวิตรไม่ได้ตกบันไดตามข่าว เพียงเดินเสียหลักเล็กน้อย ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ขณะนี้ยังทำงานตามปกติ ยืนยันว่าสุขภาพของ พล.อ.ประวิตรยังคงแข็งแรงดี
“บิ๊กตู่-บิ๊กป๊อก” ห่วงถามไถ่อาการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังมีกระแสข่าวดังกล่าวออกมา ปรากฏว่ามีคนใกล้ชิดโทร.สอบถามอาการของ พล.อ.ประวิตร ด้วยความเป็นห่วง ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี และอดีตนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีต รมว.มหาดไทย รวมถึงกลุ่มเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 6 พล.อ.นพดล อินทรปัญญา พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เปิดเผยว่า ได้โทรศัพท์ไปสอบถาม พล.อ.ประวิตรระบุว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก มีเพียงรอยฟกช้ำ เจ็บบริเวณซี่โครงด้านที่โดนกระแทก ผลเอกซเรย์ไม่มีแตกหัก เบื้องต้นแพทย์แนะนำให้หยุดกิจกรรมต่างๆ ด้าน พล.อ.นพดล เพื่อนสนิท พล.อ.ประวิตรเปิดเผยว่า โทร.ไปสอบถามได้รับการยืนยันจาก พล.อ.ประวิตรว่าไม่เป็นอะไร ไม่มีอะไรแตกหัก แค่มีอาการปวดระบม
กองทัพขนยุทโธปกรณ์ให้นายกฯชม
ช่วงสายที่บริเวณโถงกลาง ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม พร้อม พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทหารสูงสุด เข้าพบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อประชา สัมพันธ์การจัดแสดงนิทรรศการยุทโธปกรณ์ เทคโนโลยี และงานวิจัยที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือประชาชน การบรรเทาสาธารณภัย และการพัฒนาประเทศของกลาโหม “การบรรเทาสาธารณภัยและช่วยเหลือประชาชนของกระทรวงกลาโหม” โดย น.ส.แพทองธารเยี่ยมชมนิทรรศการยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีต่างๆ เช่น เครื่องตรวจสัญญาณชีพ หุ่นยนต์ค้นหาและกู้ภัย พร้อมสอบถามการใช้งาน อยากให้เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมใช้ทำงาน รวมถึงกำลังพล นอกจากนี้ ยังมีชุดสุนัขกู้ภัย K9 อีกหนึ่งกำลังสำคัญในการค้นหาผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง นายกฯ สอบถามว่า สุนัขกัดหรือไม่ ทหารที่เลี้ยงสุนัขตอบว่า ไม่กัด นายกฯจึงเอามือลูบหัวสุนัขทั้ง 2 ตัว
“อ้วน” ลั่นถึงเวลาชี้ชะตาเรือดำน้ำ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดซื้อเรือดำน้ำว่า ขณะนี้มี 2 แนวทาง คือหากไม่ซื้อจะกระทบกับงบประมาณ 8,000 ล้านบาท ที่เสียไปแล้ว เป็นหัวใจสำคัญให้คิดมาก หากเดินหน้าต่อต้องทำความเข้าใจกับประชาชน ว่านี่คือทางเลือกที่ดีที่สุดหรือไม่ สิ่งไหนที่รักษาผลประโยชน์ของประเทศมากที่สุด ยอมรับว่าทางการจีนอยากได้คำตอบเรื่องนี้มานานแล้ว ภายในสิ้นเดือนนี้หรือต้นเดือน มิ.ย. ถึงเวลาสมควรแล้วที่ต้องตัดสินใจ เพราะข้อกังวลที่สงสัยได้ทำทุกขั้นตอน และมีคำตอบชัดเจนแล้ว เมื่อถามว่ามีแนวโน้มไปในทิศทางใด นายภูมิธรรมตอบว่า ต้องหาทางที่มีเหตุผลให้กับประชาชนได้ กองทัพเรือก็รอการตัดสินใจอยู่ เรื่องเรือดำน้ำจะเดินหน้าไปในทิศทางใด จะเกิดขึ้นในยุคตนแน่นอน ช่วงนี้ดราม่าเยอะต้องระวัง บอกว่าเสียเงินไปแล้วเอาไปส่งให้เขมร เรื่องนี้เลอะเทอะ อย่าไปดราม่า เพราะส่งผลเสียหายต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ