เมืองไทยเข้าสู่ห้วงฤดูฝนอย่างเป็นทางการ สถานการณ์ฝนตกชุกทั่วทุกภูมิภาค น้ำท่าชุ่มฉ่ำ สวนทางกันเลยกับอารมณ์เกษตรกร ชาวสวน ชาวไร่ที่อยู่ในสภาพ “หน้าแห้ง” ไปตามๆ กันเจอวิกฤติผลไม้ล้นตลาด ผลผลิตเหลือเฟือขายไม่ได้ราคา แตงโมเหลือกิโลกรัมละ 1 บาท กองเป็นพะเนินอยู่ 2 ข้างถนน มะม่วงขายกันเกลื่อนตลาด แทบจะวิ่งไล่แจกกัน เงาะ มังคุด แข่งกันขายเต็มไปหมดสวนทางกับ “กำลังซื้อหด” ตามสภาวการณ์เศรษฐกิจถดถอยโจทย์สถานการณ์วัดกึ๋นกันสดๆตรงหน้า กดดัน “อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ในการประคองภาวะปากท้องประชาชนคนไทยที่เริ่มได้แรงสะท้อนจากสงครามการค้าโลก แนวรบตอบโต้มาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกาคนหาเช้ากินค่ำเริ่มชักหน้าไม่ถึงหลัง มีเงินกินแค่วันต่อวันแต่ทั้งนี้ทั้งนั้น โดยสถานการณ์เศรษฐกิจค้าขายซบเซา แต่อีกด้านมันกลับไปคึกคัก อู้ฟู่อยู่ในแวดวง “ธุรกิจการเมือง” ตามท้องเรื่องที่เห็นเป็นข่าว การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีทั่วประเทศ ที่กลายเป็นแนวรบกระสุนดินดำ สงครามกระสุนดินเทาซื้อเสียงกันสะบั้นหั่นแหลก แจกกันไม่อั้น ไม่กลัวโรงพิมพ์แบงก์ไหม้พื้นที่ไกลปืนเที่ยง อย่างจังหวัดกาฬสินธุ์ หัวคะแนนไล่แจกซองยาสีน้ำตาล ซองละ 3 พันบาท อุบลราชธานี บางอำเภอ เบิ้ลกันหัวละ 4–5 พัน ไม่เว้นโซนใกล้กรุงเทพฯ พื้นที่ติดกับเมืองกรุง ตำบลพันท้ายนรสิงห์ จังหวัดสมุทรสาคร แบงก์ 500 ปลิวว่อนทั้งพื้นที่เพจออนไลน์ ภาคประชาชน เห็นกันตำตา แต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) บอกได้ยินแค่กระแสข่าว ไม่เห็นหลักฐานคาตาส่วนที่จับได้คาหนังคาเขา จังหวัดนนทบุรี ตำรวจล็อกหัวคะแนนพร้อมบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง สารภาพรับงานจากพรรคการเมืองใหญ่ จ่ายหัวละ 200 ราคาเดียวกับที่จังหวัดเชียงใหม่ พรรคประชาชนเจอโพยแจกเงินให้คนฟังขาใหญ่ปราศรัยหาเสียง หัวละ 200 บาท นำเป็นหลักฐานแจ้งความโรงพักสูตรโบราณ “บ้านใหญ่” ยิงกระสุนบี้กระแส ผูกขาดแชมป์ได้เป็นส่วนใหญ่แต่ที่น่าจับตาก็คือการโผล่เข้ามาของ “แก๊งวัยรุ่นสร้างตัว” เครือข่ายก๊วนพนันออนไลน์ ที่แห่สมัครรับเลือกตั้งชิงเก้าอี้บริหารการเมืองท้องถิ่นเป้าหมายคอร์รัปชัน ใช้เป็นแหล่ง “ฟอกเงิน” ธุรกิจผิดกฎหมายอัดเงินจากธุรกิจใต้ดิน “ซื้อเสียง” เข้าไปใช้อิทธิพลบนดินได้สะดวกสบาย“อาชญากร ตอง 888” บุกยึดเทศบาลหลายพื้นที่“แก๊งเงินเทา” อิทธิพลกระสุนดินดำบ้านใหญ่ ปั่นมูลค่าเก้าอี้นายกเทศมนตรี สมาชิกสภาเทศบาล กระตุ้น “ธุรกิจการเมือง” ในสนามเลือกตั้งท้องถิ่น คึกคักสวนทางเศรษฐกิจการค้า“หญ้าหวาน” กลายเป็นพืชเศรษฐกิจในสนามเลือกตั้งท้องถิ่นในจังหวะที่การเมืองระดับชาติ ตลาดนัด สส.กลับมาอึกทึกครึกโครม ตามสัญญาณร้อนๆแบบที่นายยอดชาย พึ่งพร สส.ชลบุรี เขต 9 (พัทยา-หนองปรือ) พรรคประชาชน แฉประจานลั่นเวทีหาเสียงลงลึกรายละเอียดชัด ระบุวัน ว. เวลา น. เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2568 ได้มีตัวแทนของพรรคการเมืองหนึ่งมายื่นข้อเสนอให้เงิน 55 ล้านบาท พร้อมเงินเดือนเพิ่มอีกเดือนละ 250,000 บาท บวกออปชันรถตู้ยี่ห้อหรูอีก 1 คันเป็นค่าตัวยั่วให้แปลงร่างเป็น “งูเห่า” ชิ่งกองทัพส้มไปอยู่พรรคฝ่ายรัฐบาลก่อนเกิดเหตุการณ์ “สาวหล่อ” สะบั้นรัก หักอก “ด้อมส้ม” ในเวลาถัดมา เมื่อ น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี เขต 6 (ศรีราชา-เกาะสีชัง) แถลงข่าวใหญ่ขอยุติบทบาทกับพรรคประชาชน ไปซุกปีกค่ายกล้าธรรม“กล้าทำ” ในสิ่งหมิ่นเหม่ผิดทำนองคลองธรรมทางการเมือง เหมือนหักหลังเจตนารมณ์ของประชาชนที่กาบัตรเลือกเข้ามาเป็น สส. เพราะอาการหลงใหลได้ปลื้มกับบทถึงอกถึงใจของ “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แกนนำขาใหญ่ห้ามใจไม่ไหว ยอมโดนก่นด่า มันก็ชัดต้องมีปัจจัยคุ้มค่าการลงทุนที่แน่ๆ “งูเห่าส้ม” เป็นอีก 1 แต้ม ที่ “ผู้กองนัส” บวกเพิ่มในสมการต่อรอง ตัวเลข สส.ของค่ายกล้าธรรมที่ไต่ระดับขึ้นหลัก 30 เสียงพร้อมๆกับยุทธการโหมโรง ขบวนแห่ “ผู้จัดการรัฐบาล” อวยยศสถานภาพของ ร.อ.ธรรมนัส ที่โชว์แสนยา นุภาพในสนามเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช ต่อเนื่องกับศักยภาพของเครื่องดูดขนาด 20 สูบ 80 วาล์ว ดูด “งูเห่า” เข้ารังฟอร์ม “บิ๊กบราเธอร์” ถูกเชิดเข้าเทียบท่า “ผู้มีบารมี” ทางการเมืองสไตล์ค่ายกล้าธรรม “กล้าทำ” ทุกอย่าง ไม่สนกระแส ไม่แคร์โซเชียลฯ ไม่อินังขังขอบภาพเทาๆดำๆ “ผู้กองนัส” ถีบตัวเองขึ้นมาเป็น “ม้าใช้” ที่ขาดไม่ได้ของ “นายใหญ่” ถึงจุดพร้อมคุมเกมรบแทนที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ คนพ่อตามจังหวะเกมอำนาจการเมืองไหลเข้าโซนแตกหักแนวรบ “นิติสงคราม” เลยจุดทำสัญญาสงบศึกยุทธการ “ทุบแต้มต่อ” เข้าโหมดได้เสีย ต้องพังกันไปข้าง กับสภาพการอย่างที่เห็นเกมเดิมพันอำนาจแบบที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็น สดๆร้อนๆศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ “จอมหน้านิ่ง” พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะใน 2 ฐานะ ผู้กำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กับรองประธานกรรมการคดีพิเศษ จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยตามเหตุที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องให้วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ และ พ.ต.อ.ทวี สิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสามจากเหตุใช้อำนาจฝ่ายบริหารก้าวก่ายอำนาจ กกต.และฝ่ายนิติบัญญัติโดยคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ “จำเพาะเจาะจงชัด” โอกาสที่ “จอมหน้านิ่ง” จะกระเด็นหลุดเก้าอี้ รมว.ยุติธรรม จากปมไล่ทุบ “สว.เขากระโดง” เป็นไปได้สูงท่ามกลางอาการตกตะลึง อารมณ์ของทีมนายใหญ่เหมือนรับไม่ได้ กับจังหวะเหมือนโดนเตะสกัด ตัดเกมที่ดีเอสไอกำลังไล่บี้รุกคืบคดี “โพยฮั้ว” เจาะข้อมูล หลักฐาน การล็อบบี้ สว.สายน้ำเงิน โยงถึงระดับสั่งการ ทั้งรัฐมนตรีไปจนถึงขาใหญ่ สายเขากระโดงทีมเพื่อไทยกำลังได้เหลี่ยมรุก ศึกชิงธงนำขบวนโหนอำนาจอนุรักษ์นิยม ระหว่าง “นายใหญ่ จันทร์ส่องหล้า” กับ “เจ้าพ่อเขากระโดง” เข้าโหมดติดดาบปลายปืน ตะลุมบอนตามสัญญาณร้อนๆอย่างที่มีกระแสข่าว “เกรียน 2 น.” สั่งโหวตคว่ำ พ.ร.บ. งบประมาณฯ 2569 “เนวิน ชิดชอบ-อนุทิน ชาญวีรกูล” กดปุ่ม สส.ค่ายเซราะกราว และ สว.สายน้ำเงิน ล่มเรือธงทีม “นายใหญ่”ปาดหน้า ตีคู่ไปกับเสียงแหลมๆลอดออกมาจากทีมเพื่อไทย เตรียมเขี่ยทิ้งค่ายภูมิใจไทย ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล“ทักษิณ” ขี่หลัง “ผู้กองนัส” หักหอกข้างแคร่ “เนวิน-อนุทิน”แต่สถานการณ์พลิก เกรียน 2 น. กลับมาเป็นฝั่งข่มเหลี่ยม “นายใหญ่”พอดีกับจังหวะคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญล็อก “ทวี” ตอกย้ำสัญญาณไม่สู้ดี ลางร้ายปมวีไอพีชั้น 14 ที่ “นายใหญ่” ถูกต้อนกลับเข้ามุมอับจาก “มติแพทยสภา” สำทับ “ขบวนการป่วยทิพย์” เพิ่มน้ำหนักแฟ้มสำนวน พยาน หลักฐาน ในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเรื่องที่จะพลิกเหลี่ยม เบี่ยงตัวหลบ “หมัดน็อก” ยากเต็มที สภาพเปรียบเทียบ “เสี่ยหนู อนุทิน” ที่แวบไปนอนพักรักษาดวงตาที่โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ โพสต์โซเชียลฯ อวด “ของขวัญพิเศษ” ที่ส่งมาเยี่ยมไข้โชว์พลัง “แบ็กอัปอำนาจ” กันอย่างสบายอกสบายใจแต่ทั้งหมดทั้งปวง เกมอำนาจแบบไทยๆพลิกได้แค่ข้ามวัน เมื่อความมันปรากฏต่อสาธารณชน จากสงครามชิงธงนำขบวนโหนอำนาจอนุรักษ์นิยม ฟัดกันเละตุ้มเป๊ะ ล่อกันนัว มั่วไปถึงอำนาจนอกเหนือการเมืองไม่สนเกมเน่า การเมืองเก่าโบราณ ภาพเทาๆดำๆ“ทักษิณ-เนวิน” ต่างฝ่ายต่างลากประเทศไทยเข้าโซนอำนาจรัฐล้มเหลวตามสภาพมอมแมม ต่อให้ใช้อำนาจรัฐ อัดอำนาจทุน สกัดสื่อกระแสหลัก กลบเกลื่อนภาพลบกันยังไง มันก็ไม่อาจปิดกั้นข้อเท็จจริงที่นำเสนอผ่านภาคประชาชน ข้อมูลปลิ้นออกทางสื่อสังคมออนไลน์ถ้าถึงจุดประชาชนรับไม่ได้ แม้มี “พลังแบ็กอัป” ก็ไม่แน่จะช่วยได้หรือเปล่า.“ทีมการเมือง”คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม