ไม่ระวังหลัง ก็โดนติดเบรกกึ้ก กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กำลังเร่งเครื่องไล่บดบี้ปม “ฮั้ว สว.” อยู่ดีๆ ล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ “บิ๊กวี” พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หยุดปฏิบัติหน้าที่ รมว.ยุติธรรม ในส่วนการกำกับดูแลดีเอสไอและรองประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ
ตามคำร้องที่ สว.เข้าชื่อเสนอประธานวุฒิสภา ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ความเป็นรัฐมนตรีของ พ.ต.อ.ทวี และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม สิ้นสุดลงหรือไม่
กรณีแทรกแซงหรือครอบงำหน้าที่และอำนาจของ กกต. โดยใช้ดีเอสไอเป็นเครื่องมือแทรกแซงตรวจสอบการเลือก สว. อันเป็นการกลั่นแกล้ง กดดัน ข่มขู่ และครอบงำ สว.ที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ขัดต่อหลักการแบ่งแยกอำนาจและฝ่าฝืนหลักนิติธรรม
ในส่วนนายภูมิธรรม “ยังไม่ปรากฏเหตุอันควรสงสัย”
รอบนี้คำสั่งศาลสั่งติดเบรกเฉพาะ พ.ต.อ.ทวี
มือปราบฮั้ว สว.หัวขมำ เกมบี้เครือข่ายสีน้ำเงินในวุฒิสภา จังหวะสะดุด
ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ ผลกระทบต่อศึกอำนาจ “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” ต้องปรับเกมกันขนานใหญ่
แต่ที่แน่ๆ แผนเดิมยังเคลื่อนกันต่อไป กับล่าสุดยุทธการ “สอยงูเห่า” ปูทางเกมยกเครื่องรัฐบาลเพื่อไทยปรับ ครม. ยึดโควตาเกรดเอ ไปจนกระทั่ง “เขี่ยทิ้ง” ภูมิใจไทย
ล่าสุด “เกมกล้วย” เริ่มร้อนแรง ตัวเลขน่าตกใจ “ค่าตัว 55 กิโลฯ รายเดือน 2 แสน รถตู้หรู 1 คัน”
ข้อมูลแฉจาก “สส.ยอดชาย พึ่งพร” ผู้แทนฯสีส้ม พรรคประชาชน จ.ชลบุรี ระบุเคยได้รับการพูดคุยเจรจา จีบให้เปลี่ยนสีเปลี่ยนเสื้อย้ายพรรค ด้วยเงื่อนไขล่อใจอย่างที่ยกมา
จริง–ไม่จริงไม่รู้ ผู้แทนฯเมืองชลฯรายนี้อ้างเป็นเรื่องที่เจ้าตัวเจอเอง แต่บังเอิญจังหวะลงล็อก ห้วง “สส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์” ผู้แทนฯร่วมพรรค ยื่นแจ้งต่อพรรคประชาชนขอยุติการเมืองกับต้นสังกัด
...
จ่อไปอยู่กับ “ผู้กองยอดรัก” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานพรรคกล้าธรรม
ถ้าเป็นเรื่องจริง ก็ถือว่าธนาธิปไตย หรือการใช้เงินระบาดหนัก
แม้แต่ในช่วงเลือกตั้งท้องถิ่น กระสุนดินดำเกลื่อนสนาม นักการเมือง นักเลือกตั้งรหัส 888 คึกคัก
เข้าสู่ยุค “การเมือง” ไม่นิ่ง “การกล้วย” เฟื่องฟู
ยิ่งในห้วงศึกสีเสื้อดุเดือดมากเท่าไหร่ ม่านสีเทาสะพัดรุนแรงเท่านั้น
นอกจากในค่ายประชาชน อีกพรรคที่ต้องจับตา รวมไทยสร้างชาติ ก็มีผลกระทบ จากคิวของ“สุชาติ ชมกลิ่น” รมช.พาณิชย์ ชักมีอาการแบ่งรับแบ่งสู้ จ่อย้ายพรรครอบหน้า
ไม่ปฏิเสธจะไปร่วมงานกับ “ผู้กองนัส” หรือไม่
งานนี้ทำเอาค่ายรวมไทยสร้างชาติกระเพื่อมหนัก นอกจากทางหนึ่ง “เสี่ยตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รมว.พลังงาน แตกกับสปอนเซอร์ใหญ่ เจอเกมบดบี้ เขย่าเก้าอี้ รมต.หนัก
อีกทาง “พีระพันธุ์” ต้องยันเกมบุก และเดินเกมโต้กลับ ล่าสุดขยับไปผูกมิตรค่ายสีน้ำเงิน มีภาพดอดไปเยี่ยมอาการไข้หลังผ่าตัดของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ มท.1 ถึงโรงพยาบาล
สะท้อนภาพส่งไปยังผู้มีอำนาจพรรคเพื่อไทย ทั้ง “นายกฯแพทองธาร ชินวัตร” และ “อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร” ให้ลังเล ในการยึดโควตากระทรวงขุมทรัพย์พลังงาน ไม่หมูไม่ง่าย
และที่แน่ๆ ค่ายรวมไทยสร้างชาติ วันนี้เลยกลายเป็นอีกสมรภูมิช่วงชิงงูเห่า จ่อแตกยับเยิน
ทางหนึ่ง สาย “รมต.สุชาติ” ย่อมใช้พลังกล้วยของ “ผู้กอง” ช่วยล่อใจ สส.หอบผ้าตามไปด้วย ขณะที่ทัพของ “เสี่ยตุ๋ย พีระพันธุ์” ก็ต้องยื้อสุดแรง และยังต้องต้านเกมบุกรอบด้าน
ในนาทีที่สมการตัวเลขเป็นเรื่องสำคัญ ทุกค่ายขยับเกมคณิตศาสตร์การเมือง แย่งชิงเสียง สส.
ตุนแต้มไว้ต่อรอง และเดินเกมเป็นปัจจัยหลัก
ฉะนั้นจังหวะนี้ กระสุนดินดำ น้ำเลี้ยงอัดฉีด ผลประโยชน์แลกเปลี่ยนต้องมาและต้องมี
ธนาธิปไตยถึงได้เฟื่องฟู ม่านหมอกสีเทาถึงได้ฟูเฟื่อง.
ทีมข่าวการเมือง
คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม