สัญญาณอันตรายเศรษฐกิจไทยมาเป็นรายวัน ในห้วงรัฐบาลติดหล่มการเมือง งัดอาวุธลับใส่ ไม่มีใครยอมใคร อีกทางหนึ่ง "โลกมองไทย" ไปในทิศทางน่าเป็นห่วง

ล่าสุด มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส บริษัทจัดเรตติ้งระดับโลก เปิดข้อมูลการปรับลดแนวโน้มอันดับเครดิตของประเทศไทยลงสู่มุมมอง “เชิงลบ” จากเดิมที่อยู่ในจุด “มีเสถียรภาพ”

สะท้อนความเสี่ยงเศรษฐกิจการคลังของไทย อ่อนแอลง

ต่อเนื่องจากดัชนีชี้วัด ตัวเลขจีดีพีจากไอเอ็มเอฟ และธนาคารโลกล่าสุด หั่นจีดีพีของประเทศไทยปี 2568 หดวูบเหลือร้อยละ 1.8 ถึง 1.6 ต่ำกว่าลาว กัมพูชา แม้แต่พม่าที่ยังมีปัญหาภายใน

รั้งบ๊วยในอาเซียนอย่างไม่น่าภาคภูมิใจ

เมื่อดัชนีชี้วัดชวนผวา ถึงเวลาที่รัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ต้องคิดใหญ่ ทำใหม่ เพราะลำพังแค่วิ่งสู้ฟัด สู้แดด สู้ฝน จัดคิวเดินสายประชุม ครม.ท้าอาการไข้กลับ คงยังไม่พอ

เพราะเวลานี้ที่ยังไม่เห็นคือแผนเศรษฐกิจในภาพรวม สู้วิกฤติผ่อนแรงกระแทกจากกำแพงภาษีสหรัฐฯ สงครามการค้าของมหาอำนาจ

เอาแค่เรื่องเงินกู้อีก 5 แสนล้านบาท ถาม “ขุนคลังพิชัย ชุณหวชิร” รองนายกฯและ รมว.คลัง กี่รอบ แผนการใช้จ่ายก็ไม่ชัด

ยังไม่รวมคิวเจรจาความเมือง ร่วมกับ “พิชัย นริพทะพันธุ์” รมว.พาณิชย์ ไปคุยกับสหรัฐฯ ก็สะดุดผิดโปรแกรมตลอด พร้อมกับกระแสข่าวมีหลายประเด็นเป็นขวากหนาม โดยเฉพาะเอฟเฟกต์จากปมส่งอุยกูร์กลับจีน จับนักวิชาการสหรัฐฯ

เอาแค่วีซ่าเข้าประเทศ คนในรัฐบาลหลายรายก็อยู่ในข่ายบัญชีห้ามเข้าเมือง แม้แต่ รมต.ต่างประเทศ ที่น่าจะเป็นหัวเรือใหญ่ในโปรแกรมพูดคุย

อีกด้าน “ขุนคลังพิชัย” หัวหน้าทีม แม้ไม่ติดบัญชีต้องห้าม แต่จังหวะนี้ก็มีข่าวโดนหั่นอำนาจ

...

กระแสแรง “อดีตนายกฯทักษิณ” กุนซือใหญ่บ้านจันทร์ฯ จ่อแนะนำนายกฯให้จูนเครื่องทีมเศรษฐกิจ ดึงมืออาชีพมาเสริม ชื่อของนายแบงก์ มือบริหารธนาคารดัง ทั้ง เคที-ทีทีบี-เอสซีบี ถูกจีบมาเติมทีม

แม้เช็กแล้วถึงมั่นใจไม่โดนโละทิ้ง แต่แค่ถูกลดบทบาท “ขุนคลังพิชัย” ก็คงใจแป้ว

จะไปเจรจาความเมืองต่างแดนสภาพไหน

เท่านี้งานบริหารก็เร่งไม่สุดแล้ว ยังมีเรื่องสถานภาพของ

“อดีตนายกฯทักษิณ” ผู้มากบารมี โดนไล่บี้ร้องเรียนแผลเก่า โดยเฉพาะปมชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ชนิดดาหน้ากันเขย่ารอบทิศ รอจังหวะ “ร่วง”

แต่ล่าสุดศาลฎีกายกคำร้องไม่รับคำร้อง แต่ก็ยังให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าไต่สวนอีกครั้ง 13 มิ.ย.นี้

ถือเป็นอีกจุดชี้ทิศทางอำนาจรัฐบาล “แพทองธาร”

ขณะที่ปัญหาภายในรัฐบาล เพื่อไทย-ภูมิใจไทย ง่อนแง่นเต็มที แม้นายกฯยังหวานอมขมกลืน รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง แต่อดีตนายกฯชี้ทางรายวัน ทางหนึ่งก็บอก ยังไม่คิดถีบพรรคใดไปเป็นฝ่ายค้าน

แต่ก็ยังเห็นภาพออกอาวุธลับ สาดกระสุนใส่กันไม่ยั้ง ล่าสุดเล่นใหญ่ ดีเอสไอเร่งแผนประทุษกรรม บี้ปม “ฮั้ว สว.” ให้ผวา มีกระแสล่อเป้าใหญ่ ชนิดลากโยงเอาผิดไม่ใช่แค่ทีมงาน สส.

แต่ยังบอมบ์ถึงรัฐมนตรีคนสำคัญหลายราย จ่อคิวยื่น “ยุบพรรค” ต่อเลย

เกมสองหน้าไม่แพ้กัน ทางหนึ่งผู้นำโอ้โลม แต่สัญญาณ “นายใหญ่บ้านจันทร์ฯ” จัดเต็ม

“ทุบให้น่วม” แล้วค่อย “เจรจา”

ยังไม่รวมปมปัญหาภายในพรรคร่วม ข่าวเขย่าขวัญ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกฯและ รมว.พลังงาน โดนร้องบี้ปมถือหุ้นบริษัทเอกชน เสี่ยงขาดคุณสมบัติ

คนการเมืองอ่านเกมก็ประเมินได้ เป็นรายการเขย่าเก้าอี้

ศึกชิงกระทรวงขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า

ภาพรวมกระดานอำนาจปั่นป่วน เครื่องรวนเต็มที่

คิวยกเครื่องใหญ่ ปรับ ครม.เลี่ยงได้ยากแล้วเหมือนกัน.


ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม